บทที่ 2007 ถ้ำสวรรค์วรรณกรรมตกเป็นเป้าหมาย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

“โฮก…”

อสรวิญญาณที่มีร่างกายใหญ่โตเท่าภูเขาและมีสองเขาอยู่บนศีรษะกําลังคําราม

มันไม่ได้ปลดปล่อยพลังอานาจใดๆออกมา แต่มันก่าลังดิ้นรนหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง

หางของมันถูกจับด้วยมือธรรมดา

จากนั้นอสูรวิญญาณก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในมือภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

เจ้าของมือเรอออกมา

มันคือผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของถ้ำสวรรค์วิญญาณสงบท่านหญิงธุลีเย็น

ดวงตาของนางเป็นสีดําสนิทและมีควันสีดําลอยอยู่รอบตัว หลังจากชั่วครู่นางก็หยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะควันสีดําหายไปไม่มีสิ่งใดสามารถมองเห็นจากภายนอก

แต่ในความเป็นจริงร่างของนางถูกยึดครองโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณเรียบร้อยแล้วขณะที่ดวงวิญญาณของนางก็ถูกกลืนกินเช่นกัน

เทพปีศาจจิตวิญญาณถอนหายใจ “ข้าอิมอีกแล้ว”

เขามีอิสระมากขึ้นด้วยการใช้ตัวตนของท่านหญิงธุลีเย็น ในช่วงเวลานี้เขากลืนกินอสูรวิญญาณอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตนเอง

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังไม่พอใจ

การกลืนกินอสูรวิญญาณไม่เหมือนการใช้วิญญาณความเด็ดเดียว หลังจากทั้งหมดเทพปีศาจจิตวิญญาณต้องใช้เวลาย่อย

นี่ทําให้เทพปีศาจจิตวิญญาณรู้สึกโหยหาภูเขาตงฮันและต้องการสังหารฟางหยวนมากขึ้น

“เจ้าเด็กฟางหยวนอยู่ที่ใด?” เทพปีศาจจิตวิญญาณนึกถึงฟางหยวน

เทพธิดาจื่อเว่ยแจ้งเทพปีศาจจิตวิญาณเกี่ยวกับไปหนิงปิงแล้ว

นี่เป็นข่าวดีสําหรับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

เทพธิดาจ๋อเว่ยพบเบาะแสของอิงอู่เซียแล้วเช่นกัน ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถจับตัวลูกน้องของฟางหยวน พวกเขาจะมีเบาะแสเพียงพอที่จะอนุมานตําแหน่งของเขา

“ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์จํานวนมากและหายตัวไปตั้งแต่สงครามชะตากรรม สถานการณ์ของเขาต้องเลวร้ายมากนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะจับเขา”

เทพปีศาจจิตวิญญาณตระหนักว่าแม้เขาจะอยู่บนจุดสูงสุด มันก็ยังเป็นเรื่องยากในการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์จํานวนมากโดยไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงฟางหยวนในปัจจุบัน

ฟางหยวนแข็งแกร่งแต่เขาไม่ใช่ผู้อมตะระดับเก้าและมีความเข้าใจเกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ที่จํากัด

“แต่ข้าไม่สามารถใช้การจัดเตรียมที่ทิ้งไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิได้อีกต่อไป”

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณทิ้งไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิถูกเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ชนิดอื่นโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางสวรรค์

นี้ทําให้การจัดเตรียมของเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สามารถใช้งานได้

หากมันยังมีประสิทธิภาพ เทพปีศาจจิตวิญญาณจะรู้ที่อยู่ของฟางหยวนและสามารถฆ่าเขา

“หลังจากครึ่งเดือน ข้าจะสามารถกลืนกินอสูรวิญญาณได้อีกครั้ง หือ?”เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับข้อความ

เทพปีศาจจิตวิญญาณมีความสุขทันที “อู่ส่วยเรียกผู้อมตะระดับแปดของสองสวรรค์ไปหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์สําคัญท่านหญิงธุลีเย็นถูกเรียกตัวเช่นกันอู่ส่วยคุ้นเคยกับฟางหยวนมากเขาอาจเป็นร่างแยกของฟางหยวนบางทีข้าอาจสามารถล่อร่างหลักของเขาให้ปรากฏตัวหากข้าสามารถกดขี่อู่ส่วย”

เทพปีศาจจิตวิญญาณใช้ตัวตนของท่านหญิงธุลีเย็นเดินทางไปยังฐานทัพใหญ่ของตระกูลเซียที่ทะเลตะวันออก

ในฐานทัพใหญ่ของตระกูลเซีย เขาเข้าไปในวังมังกรและพบอู่ส่วยอย่างราบรื่น

อู่ส่วยนั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก คนอื่นๆนั่งเป็นสองแถว เก้าอี้ด้านซ้ายตัวแรกคือจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเก้าอี้ด้านขวาตัวแรกคือเซียวเหอเจี้ยน

ผู้นํากองกําลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์นั่งถัดจากพวกเขา

ผู้นํากองกําลังเผ่ามนุษย์นั่งห่างออกไป ตําแหน่งของท่านหญิงธุลีเย็นเกือบจะอยู่ติดกับประตูของวังมังกร

สถานะทางการเมืองของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากสิ่งนี้มนุษย์กลายพันธุ์มีอานาจเหนือมนุษย์ไม่ใช่ว่ามนุษย์เหล่านี้ไม่ต้องการต่อต้านแต่พวกเขาไม่สามารถทําสิ่งใดท้ายที่สุดอู่ส่วยก็เป็นมนุษย์มังกรเขามีความใกล้ชิดกับมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่า

“หากข้าฆ่าทุกคนที่นี่ ข้าจะสามารถฟื้นความแข็งแกร่งได้เท่าใด เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปรอบๆด้วยเจตนาสังหารที่พลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจ

เมื่อสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของท่านหญิงธุลีเย็น ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็พยักหน้าให้นางเล็กน้อย
เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับความทรงจําทั้งหมดของท่านหญิงธุลีเย็นเขาคิดบางที่ข้าอาจมีโอากสโจมตีราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์เหมาะสมกับการฟื้นความแข็งแกร่งของข้ามากกว่า

ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์คิด หญิงผู้นี้สามารถใช้ประโยชน์ ข้าได้รับข้อมูลเกี่ยวกับยายกระดูกจากนางหลังการประชุมครั้งนี้ ข้าควรเชิญนางมาดื่มชาและตรวจสอบความตั้งใจของนางหากข้าสามารถดึงนางเข้าร่วมกับวังสวรรค์ข้าจะมีผลงานมากขึ้น

ความคิดของราชาหมาป่าราตรีสวรรค์เป็นเรื่องปกติ

ท่านหญิงธุลีเย็นตัวจริงต้องการรวบรวมกองกําลังเผ่ามนุษย์เพื่อตอบโต้กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ในปัจจุบันแต่ตอนนี้แผนการของนางไร้ประโยชน์ไปแล้วยายกระดูกถูกจับและโน้มน้าวโดยวังสวรรค์นี้เป็นผลงานของราชาหมาป่าราตรีสวรรค์

ขณะที่ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์และท่านหญิงธุลีเย็นกําลังวางแผนการของตนอู่ส่วยก็เปิดปากกล่าว“พวกเจ้าคงรู้แล้วว่าวันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาประชุมเพราะเหตุใดถูกต้องมันเป็นเรื่องของผลไม้ปราณ”

“ผลไม้ปราณปรากฏขึ้นในถ้ำสวรรค์ของพวกเจ้า มันดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพจากถ้ำสวรรค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวมันเองนี่เป็นการทําลายรากฐานของถ้ำสวรรคโดยตรงแต่วิธีการทั่วไปไม่สามารถจัดการผลไม้ปราณเหล่านี้หากประมาทมันจะกลายเป็นการทําลายถ้ำสวรรค์

“วันนี้ข้าเรียกทุกคนมาเพื่อคิดหาวิธีแก้ปัญหาร่วมกัน”

หลังจากนั้นผู้อมตะก็เริ่มเสนอแนะวิธีการต่างๆ

ผู้อมตะเหล่านี้อาจขาดพลังการต่อสู้ แต่รากฐานของพวกเขากลับมั่งคงและแข็งแกร่งดังนั้นพวกเขาจึงสามารถแนะนําวิธีการมากมาย
อย่างไรก็ตามแม้พวกเขาจะมีหลายวิธีแต่ไม่มีวิธีใดที่ใช้งานได้จริง

ไม่มีผู้อมตะระดับแปดคนใดบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ มีเพียงไม่กี่คนที่บ่มเพาะเส้นทางแห่งพลังปราณเป็นเส้นทางสายรองแต่ระดับความสําเร็จของพวกเขายังต่าเกินไป

“มีหลายวิธีที่มีโอกาสประสบความสําเร็จ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทําก็คือทดลองใช้วิธีเหล่านี้มีผู้ใดกล้าทดลองหรือไม่?”อู่ส่วยสรุปและถาม

เงียบ!

ไม่มีผู้ใดต้องการเป็นหนูทดลอง

การกําจัดผลไม้ปราณเหมือนการผ่าตัดหัวใจ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจเป็นจุดจบของถ้ำสวรรค์แม้ถ้ำสวรรค์ของพวกเขาจะรอดพ้นจากหายนะแต่รากฐานของมันจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก

“ผู้อมตะเหล่านี้ช่างน่าสงสารนัก โชคดีที่ข้าเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์แสดงท่าทางกังวลแต่ภายในกลับสงบนิ่ง

เขาได้รับแจ้งจากวังสวรรค์ว่าพวกเขามีวิธีแก้ปัญหาผลไม้ปราณ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกังวล

แต่ในความเป็นจริงฉินติงหลิงกล่าวเพียงเพื่อทําให้ราชาหมาป่าราตรีสวรรคภักดีต่อพวกนางเท่านั้นหลังจากทั้งหมดกระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการผลไม้ปราณ

“มันทั้งยากและง่ายในการจัดการผลไม้ปราณ เทพปีศาจจิตวิญญาณรู้บางอย่างแต่เขาไม่ได้กล่าวออกมา

ตอนนี้ในใจของเขามีเพียงความคิดที่จะโจมตีอู่ส่วย

เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน

แต่เขาจะหาโอกาสอยู่เพียงลาพังกับอู่ส่วยได้อย่างไร

อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือวังมังกร เทพปีศาจจิตวิญญาณค่อนข้างระวังตัวเขาไม่กลัวรากฐานบนเส้นทางแห่งทาสของวังมังกรแต่เขากังวลเกี่ยวกับวิธีบนเส้นทางแห่งความฝัน

กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ยังต้องระวังเรื่องนี้ หากเขาถูกจับโดยหมอกชวนฝันเขาจะพ่ายแพ้ทันที

อู่ส่วยยิ้มเมื่อเห็นกลุ่มผู้อมตะเงียบ “เมื่อไม่มีผู้ใดเต็มใจทดลอง เช่นนั้นเราก็จะหาคนอื่นมาทดลองมีถ้ำสวรรค์มากมายอยู่ในสองสวรรค์ ยังมีหลายคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเราและมีเจตนาที่ไม่ดี”

ดวงตาของกลุ่มผู้อมตะส่องประกายขึ้น พวกเขาเข้าใจความหมาย

จากนั้นจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและคนอื่นๆก็เริ่มประจบประแจงอู่ส่วย

“พวกเจ้าคิดว่าถ้ำสวรรค์ใดเหมาะสม” อู่ส่วยถาม

ในเวลาต่อมาผู้คนก็เริ่มกล่าวถึงเป้าหมายมากมาย

เป้าหมายที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือถ้าสวรรค์วรรณกรรม

ผู้อมตะเฒ่าฮัวหยูเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ที่ทรงพลังและมีอิทธิพลต่อถ่าสวรรค์ที่อยู่รอบๆหากอู่ส่วยสามารถจัดการเขาและดึงถ้ำสวรรค์วรรณกรรมเข้าเป็นสมาชิกของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ มันจะมีประโยชน์มาก