บทที่ 2008 ถูกทําลายทั้งหมด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ถ้าสวรรค์วรรณกรรม

“เสี่ยวไปเราจะแยกกันที่นี่” บนเส้นทางสายเล็กๆในหุบเขา อาจารย์เจียงกล่าวกับหลี่เสี่ยวไป

หลีเสียวไปกล่าวด้วยความโศกเศร้า “ข้าสามารถอยู่รอดในเมืองหลวงเพราะความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ข้าจะจดจําความเมตตานี้เอาไว้ในหัวใจเสมอหลังจากนี้เราต้องแยกกันข้าสงสัยว่าเมื่อใดข้าจะได้พบท่านอาจารย์อีก”

“เห้อ…” อาจารย์เจียงถอนหายใจและตบไหล่หลี่เสี่ยวไป “แม้เจ้าจะแพ้ในการแข่งขันบทกวีระดับโลก แต่บทกวีของเจ้าถูกเผยแพร่ออกไปแล้วทุกคนรู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์คู่ควรกับตาแหน่งนักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่นอกจากนี้ซูฉีฮันก็กลับมาแล้ว เมืองหลวงจะกลายเป็นเวทีแสดงความสามารถของเจ้าไปเถอะอาจารย์จะตั้งตารอดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเจ้า”

หลี่เสี่ยวไปกล่าวลาอาจารย์เจียงด้วยน้ําตาคลอเบ้า

หลี่เสี่ยวไปขี่ม้าไปตามเส้นทางภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขณะครุ่นคิดถึงอนาคตของตนเอง

เขาแพ้การแข่งขันบทกวีระดับโลกแม้เขาจะแสดงความสามารถที่โดดเด่นออกมาในรอบแรกๆ

อย่างไรก็ตามทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย เขาพบอาจารย์เจียงในช่วงหลังของการแข่งขัน หลี่เสียวไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจหากเขาเอาชนะอาจารย์เจียง คุณธรรมและอุปนิสัยของเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ผู้คนจะเกลียดชังเขา

หลี่เสี่ยวไปตัดสินใจยอมแพ้อาจารย์เจียง เขากลับไปเริ่มต้นใหม่แต่เขายังถูกดึงดูดเข้าหาอาจารย์เจียงซ้ำแล้วซ้ำอีก

อาจารย์เพียงไม่สามารถทําสิ่งใด ในความเป็นจริงเขาไม่ต้องการประสบความสําเร็จโดยการเหยียบย่าศิษย์ของตน แต่เขาต้องคว้าโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้เอาไว้

หลี่เสี่ยวไปเผชิญหน้ากับอาจารย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายเขาจึงหลุดออกจากการแข่งขัน

แม้หลี่เสียวไปจะรู้สึกเสียดายแต่เขายังพึ่งพอใจเล็กน้อย การแสดงในครั้งนี้ของข้ายอดเยี่ยมเกินไปมันเกินความจําเป็นหากข้าประสบความสําเร็จเช่นนี้ข้าอาจถูกตรวจสอบอย่างละเอียดข้าไม่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและไม่ใช่คนมีชื่อเสียงข้าจะถูกวางอุบายต่อต้านพวกเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่ดีตกอยู่ในมือของตัวละครรองเช่นข้า

การแข่งขันบทกวีระดับโลกครั้งนี้อาจุดยุติธรรม แต่ในความเป็นจริงที่ใดมีผู้คนที่นั่นย่อมมีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์และมีข้อตกลงมากมายเกิดขึ้นเบื้องหลัง

เพียงกวาดตามองรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกของการแข่งขันครั้งนี้ มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง กระทั่งม้ามืดยังมีรากฐานและภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา

“มันไม่เป็นไรที่ข้าจะไม่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ มันยังมีการคัดเลือกครั้งที่สองในอนาคต

“แม้มันจะไม่มีการแข่งขันบทกวีระดับโลกครั้งที่สอง แต่ข้าจะไม่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะได้ด้วยตนเองงั้นหรือ?

“หือ กลิ่นนี้ หอมมาก

ขณะที่หลี่เสี่ยวไปกาลังคิด กลิ่นหอมของบางสิ่งก็ลอยเข้ามาขัดจังหวะความคิดของเขา

มันเหมือนกลิ่นต่ารา

หลี่เสียวไปรู้สึกผิดปกติ ท่ามกลางป่าเขา มันจะมีกลิ่นของตาราได้อย่างไร

เขาขี่ม้าและติดตามกลิ่นหอมไปยังแหล่งกาเนิดของมัน

หลังจากชั่วครู่ เขาก็พบพุ่มไม้หนาทึบกีดขวางอยู่ หลี่เสี่ยวไปไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลงจากหลังม้าและเดินเท้าต่อ

กลิ่นหอมแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหลี่เสี่ยวไปเดินลึกเข้าไปในป่า เขาตระหนักว่าตนเองเข้าใกล้แหล่งที่มาของมันมากขึ้น

ในที่สุดเขาก็ปัดใบไม้ออกและพบต้นไม้ต้นหนึ่ง

ต้นไม้ต้นนี้ปลดปล่อยกลิ่นหอมของตําราออกมาอย่างชัดเจน บนกิ่งก้านของต้นไม้ มีบ้านไม้สีน้ําตาลที่งดงามและมีเอกลักษณ์ตั้งอยู่

“ผู้ใดอยู่ที่นี่? นักพรตภูเขางั้นหรือ?” หลี่เสี่ยวไปเดินเข้าไปหามันอย่างระมัดระวังและตะโกน“ข้าเป็นบัณฑิตนามว่าหลี่เสี่ยวไปข้าบังเอิญผ่านมาที่นี่ขออภัยที่มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญท่านนักพรตภูเขา”

ไม่มีเสียงตอบกลับจากบ้านต้นไม้

หลี่เสี่ยวไปตะโกนเรียกหลายครั้งแต่ยังไม่มีการตอบสนอง เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้านเขาจึงเดินเข้าไปหามัน

เมื่อเขาไปถึง หลี่เสี่ยวไปค้นพบว่าบ้านต้นไม้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นบนต้นไม้แต่มันผสานตัวกับต้นไม้อย่างสมบูรณ์ราวกับมันเติบโตขึ้นจากต้นไม้โดยตรง

หลี่เสี่ยวไปสํารวจและพบว่าบ้านต้นไม้หลังนี้ไม่มีประตู มันมีเพียงช่องหน้าต่าง

“ข้าควรทําอย่างไร?” หลี่เสี่ยวไปคิดและยกมือขึ้นสัมผัสกับต้นไม้

ทันใดนั้นเปลือกไม้ก็ส่งเสียงแปลกประหลาดก่อนที่บันไดวนจะปรากฏขึ้นรอบๆล่าต้นของต้นไม้ มันเป็นบันไดที่น่าขึ้นสู่ตัวบ้าน
ประตูบ้านปรากฏขึ้นเช่นกัน

หลี่เสี่ยวไปู่ลังเลเล็กน้อยก่อนจะก้าวขึ้นบันไดและมุ่งหน้าไปยังบ้านต้นไม้

มีชั้นวางตําราสามแถวอยู่ในบ้านต้นไม้ มีวิญญาณจํานวนมากวางอยู่บนชั้นวางตาราเหล่านั้น

“กลิ่นตําราจะลอยไปหานักปราชญ์ที่มีความสามารถ มรดกบ้านตําราจะตกเป็นของบุคคลที่มีโชคชะตาเชื่อมต่อถึงกัน” เป็นเพียงเวลานี้ที่ข้อมูลถูกส่งเข้าสู่จิตใจของหลี่เสี่ยวไป

หลี่เซียวไปตรวจสอบและรู้สึกมีความสุขมาก

“นี่คือมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล

“แม้มันจะเป็นเพียงมรดกของผู้ใช้วิญญาณแต่มันมีวิญญาณระดับสี่และระดับห้าจํานวนมากนอกจากนี้มันยังมีคําแนะนําการบ่มเพาะโดยละเอียดและสามารถสร้างระบบที่สมบูรณ์มันเหมาะกับข้ามาก

“กล่าวถึงเรื่องนี้ โชคของข้าดีขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ดูเหมือนสถานการณ์ของร่างหลักจะดี ขึ้นแล้ว

นี่เป็นมรดกระดับสูงสุดในขอบเขตของผู้ใช้วิญญาณ นอกจากวิญญาณจํานวนมากต้นไม้ต้นนี้ก็ยังเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์มันเรียกว่าบ้านตารา

หลี่เสี่ยวไปเก็บบ้านตําราและเดินกลับไปตามเส้นทางที่เขามา เขาพบม้าของเขาอย่างราบรื่นและรีบกลับไปยังเมืองหลวง

บนจุดสูงสุดของภูเขา สองร่างยืนอยู่ที่นั่น

หนึ่งเป็นผู้อมตะ อีกหนึ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า

ผู้อมตะคือฮัวซ่ง ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าคืออาจารย์เจียง

อาจารย์เจียงเฝ้ามองหลี่เสียวไปรับมรดกก่อนจะกล่าวขอบคุณฮัวซ่ง “ท่านอาจารย์ขอบคุณมากที่ช่วยศิษย์ของข้า”

ปรากฏว่าอาจารย์เจียงเป็นศิษย์ของฮัวซึ่ง

ฮัวซ่งยิ้ม “เขาเป็นศิษย์ของเจ้า ตามความสัมพันธ์ เขาก็เป็นศิษย์หลานของข้าเขาเป็นฝ่ายเดียวกับพวกเรา ข้าจะเพิกเฉยต่อเขาได้อย่างไรข้าเห็นความสามารถของเขาแล้วในการแข่งขันบทกวีระดับโลกเขาสามารถผ่านการคัดเลือกแต่เพราะเขาพบเจ้าเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้ข้าหวังว่าพวกเจ้าทั้งสองจะประสบความสําเร็จและผ่านการคัดเลือกแต่โชคของเขาค่อนข้างแย่ เขาพบเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกสุดท้ายเขาจึงถูก คัดออก”

“ข้าผิดเอง” อาจารย์เจียงก้มศีรษะลง

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฮัวซ่งตบไหล่อาจารย์เจียง “เจ้ายอดเยี่ยมมากที่สามารถสั่งสอนศิษย์เช่นนี้หากหลี่เสียวไปไม่สนใจสายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์และเอาชนะเจ้าต่อหน้าทุกคนข้าจะลงโทษเด็กคนนี้แต่เขาให้ความสําคัญกับสายสัมพันธ์นี่เป็นสิ่งที่ดีแม้เขาจะล้มเหลวในครั้งนี้แต่มันก็ไม่มีอันตรายใดๆ”

“เด็กคนนี้โชคดีที่ได้รับความสนใจจากท่านอาจารย์ แต่เหตุใดท่านอาจารย์ไม่…” อาจารย์เจียงลังเล

ฮัวซ่งถอนหายใจ “แม้ข้าจะเป็นผู้จัดการแข่งขันบทกวีระดับโลกในครั้งนี้แต่หากข้าใช้อานาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ข้าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อมตะคนอื่นๆและสูญเสียชื่อเสียง”

“ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เสี่ยวไปก็ยังเด็กเกินไป หากเขากลายเป็นผู้อมตะโชคดีอาจกลายเป็นโชคร้าย เขาควรสะสมประสบการณ์ในโลกของผู้ใช้วิญญาณต่อไปอีกระยะหนึ่ง หยกจะไม่มีค่าหากไม่ได้รับการขัดเกลา”

“ท่านอาจารย์กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ข้าคิดง่ายเกินไป” อาจารย์เจียงยกย่อง“ข้าเข้าใจความตั้งใจของท่านอาจารย์แล้ว ท่านไม่ต้องการให้ข้าแบกรับความรู้สึกผิดดังนั้นท่านจึงมอบมรดกที่ยิ่งใหญ่ให้กับหลี่เสี่ยวไปถูกต้องหรือไม่?”

“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว” ฮัวซ่งยิ้ม “เจ้าเป็นศิษย์ของข้า เจ้าได้รับการคัดเลือกจากการแข่งขันครั้งนี้และจะถูกหล่อเลี้ยงให้เป็นผู้อมตะเจ้าต้องมีสมาธิและไม่สามารถแบ่งความสนใจไปกับเรื่องอื่นเจ้าต้องตั้งใจฝึกฝนอย่าทําลายชื่อเสียงของข้า”

“ทราบแล้ว ข้าจะใช้กาลังทั้งหมดของข้าอย่างแน่นอน” อาจารย์เจียงป้องหมัดขึ้นและโค้งคํานับ

แม้ถ้ำสวรรค์วรรณกรรมจะพยายามรักษาความเป็นกลางและไม่ต้องการเข้าร่วมกับฝ่ายใดแต่พวกเขาก็เข้าใจว่าช่วงเวลาที่วุ่นวายกําลังจะมาถึง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะบ่มเพาะผู้อมตะ

อาจารย์เจียงและคนอื่นๆได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมล็ดพันธุ์อมตะของถ้าสวรรค์วรรณกรรมพวกเขาจะได้รับการชี้แนะโดยผู้อมตะเป็นการส่วนตัว

อาจารย์เจียงฝึกฝนอย่างหนักทุกวันโดยใช้เวลาทุกวินาที่อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามแม้เขาจะพยายามอย่างหนักแต่เขายังอยู่ในระดับกลางค่อนต่าของกลุ่ม นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้ใช้วิญญาณกลุ่มนี้อย่างชัดเจน

เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ใกล้ถึงเวลาที่อาจารย์เจียงและคนอื่นๆจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

“ด้วยการปกป้องของอาจารย์หลายคน การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมีโอกาสประสบความสําเร็จสูงมาก เมื่อข้ากลายเป็นผู้อมตะชีวิตและอนาคตของข้าจะเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์”

อาจารย์เจียงตั้งตารอคอยและศึกษาด้วยความพยายามทั้งหมด

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผู้ใช้วิญญาณกลุ่มนี้กําลังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะถ้ำสวรรค์วรรณกรรมกลับเกิดการระเบิดครั้งใหญ่โดยไม่คาดคิด

หลังการระเบิด มังกรปีศษจที่มีร่างกายราวกับเทือกเขาก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า

ผู้อมตะจานวนมากปรากฏตัวขึ้นทุกหนทุกแห่งในถ้ำสวรรค์วรรณกรรมและโจมตีมันในเวลาเดียวกัน

เพลิงสงครามเผาทําลายทุกสิ่ง

สถานที่ที่กลุ่มของอาจารย์เจียงอยู่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

“ตาย!” อู่ส่วยนําวังมังกรพุ่งเข้าไปโดยตรง

“มันคือวังมังกร เราไม่สามารถต่อต้านมัน ถอย!” ผู้อมตะที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้หน้าซีดและเร่งล่าถอย

แผ่นดินสั่นสะเทือน ภูเขาระเบิด ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่ว

อาจารย์เจียงและเมล็ดพันธุ์ออมตะคนอื่นๆไม่สามารถหลบเลี่ยงและกลายเป็นเนื้อบด ณ จุดเกิดเหตุ

พวกเขาตายอย่างนาอนาถ!

หัวใจของผู้อมตะที่สอนพวกเขาจมดิ่งลง เมล็ดพันธุ์อมตะเหล่านี้กําลังจะแสดงศักยภาพของตนออกมาแต่พวกเขากลับถูกทําลายล้างในการโจมตีเดียว

ถูกทําลายทั้งหมด!

“อู่ส่วย ถ้าสวรรค์วรรณกรรมของข้าเป็นกลางและไม่เคยสร้างปัญหาแก่เจ้าแต่เจ้ากลับโจมตีพวกเราและสังหารผู้บริสุทธิ์เจ้าเอาแต่ใจเกินไปแล้ว!”ผู้อมตะเฒ่าฮัวหยู่ตะโกนด้วยความโกรธและตื่นตระหนก

อู่ส่วยหัวเราะ “ตาแก่ฮัวหยูเจ้าไม่รู้ว่าสิ่งใดดีสําหรับตนเอง ขาส่งข้อความขอให้เจ้าเข้าร่วมมาหลายครั้งแล้วแต่เจ้ากลับเพิกเฉยต่อพวกเราเจ้าไม่แยแสข้าดังนั้นวันนี้ข้าจะทําให้เจ้าและคนทั้งโลกรู้ว่าผลลัพธ์ของการท้าทายข้าจะจบลงเช่นไรโจมตี!”