ตอนที่ 949: การตายของไทนิช

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 949: การตายของไทนิช

ท่าทางของไทนิชเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินคำพูของเจี้ยนเฉิน แต่ไม่ช้าแววตาของเขาก็เป็นประกายเย็นชา เขาหัวเราะออกมาดังแล้วพูดว่า “ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้ารู้ดีจริง ๆ เจ้าสามารถมองความลับของข้าออกและสามารถบอกได้เลยว่าข้ายังควบคุมโถงได้ไม่สมบูรณ์ เจ้าพูดถูก มันเป็นอย่างที่เจ้าว่านั้นแหละ ข้ายังควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่สมบูรณ์และข้าสามารถใช้พลังของมันได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะเปรียบได้ แม้ว่าพลังนี้จะยังห่างไกลจากพลังของเซียนจักรพรรดิก็ตาม”

“ข้าอาจจะไม่ได้ทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ด้วยสายพลังนั้น แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เจ้าต้องใช้ทุกอย่างเพื่อที่ป้องกันมัน ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะต่อต้านการโจมตีได้อีกสักกี่ครั้งกัน”

ไทนิชผลักมือออกไปข้างหนึ่งทันทีที่เขาพูดจบ ทันนั้นเอง พลังหลายสายก็ถูกยิงออกมาและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง

เจี้ยนเฉินเคร่งเครียด การป้องกันการโจมตีก่อนหน้านี้นั้นถึงขีดจำกัดที่เขาจะทำได้แล้ว แต่ในตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้าการโจมตีมากกว่าเดิมหลายเท่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับมันได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าเขาจะมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ตาม

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินสามารถแสดงพลังได้สูงสุดแต่ชั้นสวรรค์ที่ 7 เท่านั้นด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขา ในขณะเดียวกัน พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังอย่างน้อยเท่ากับชั้นสวรรค์ที่ 8 หรือที่ 9 มันเหนือกว่าที่เขาสามารถเผชิญหน้าได้

เขาคิดแล้วแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเขาทันที มันกลายเป็นหอคอยสีทองที่อยู่ตรงหน้าเขาในพริบตา มันขยายใหญ่อย่างรวดเร็วเป็นขนาด 30 เมตรที่ตั้งอยู่ข้างหน้าเจี้ยนเฉิน

บู้ม !

พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ปะทะเข้ากับหอคอยสีทองและเกิดเสียงระเบิดบาดหูขึ้น พลังงานที่เหลืออยู่กระหน่ำไปทั่วทั้งโถง และกลายเป็นพายุพลังงาน

หอคอยสีทองไม่แม้แต่จะสั่นไหวเมื่อมันรับการโจมตีทั้งหมดนั้น พลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ไม่สามารถสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้กับมันได้

เจี้ยนเฉินซ่อนอยู่หลังวัตถุเซียนในขณะที่เขาโจมตีออกไปอย่างแรงด้วยมือซ้ายของเขา การโจมตีของเขาพุ่งไปที่ไทนิชทันที หลังจากที่เขาเหวี่ยงฝ่ามือออกไป

เจี้ยนเฉินถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือขวา เขาโจมตีอยู่ใกล้ ๆ วัตถุเซียนและเข้าไปใกล้ไทนิชอย่างรวดเร็วโดยให้วัตถุเซียนบังเขาไว้

“หืม ข้าอยากจะเห็นว่าหอคอยสีทองของเจ้าจะต่อต้านการโจมตีของข้าได้สักอีกกี่ครั้ง” ไทนิชเหยียดหยามออกมา ไทนิชไม่กลัวแม้แต่นักรบวิญญาณทะเล 16 ดาวภายในโถงตอนนี้ เพราะเขาควบคุมพลังของโถงได้ส่วนหนึ่งแล้ว เขาดูถูกเจี้ยนเฉินเนื่องจากความมั่นใจของเขา

ไทนิชเหวี่ยงแขนทั้งสองออกไป ทันใดนั้นเอง พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนเป็นปราณดาบขนาดเท่านิ้วชี้และพุ่งอย่างต่อเนื่องไปที่วัตถุเซียน อย่างไรก็ตาม ปราณดาบแต่ละสายก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้

แสงรุนแรงพุ่งออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในขณะที่พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์โจมตีเข้าไปที่วัตถุเซียนอย่างต่อเนื่อง พลังที่น่ากลัวจากคลื่นพลังงานรุนแรงหยุดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของวัตถุเซียนและป้องกันไม่ใช้มันเข้าใกล้ได้มากกว่านี้

ทันใดนั้นเอง แสงสีทองที่ทรงพลังก็เริ่มเปล่งรัศมีออกมาจากวัตถุเซียน มันปกคลุมทั่วรัศมีร้อยเมตร และทั่วทั้งบริเวณก็กลายเป็นอาณาเขตของวัตถุเซียน ในบริเวณนี้ วัตถุเซียนสามารถดูดหรือปล่อยใครก็ตามได้ ถ้าคนผู้นั้นไม่ต่อต้าน

ในเวลาต่อมา พลังงานทำลายล้างที่รุนแรงก็ปรากฏที่ด้านหลังของไทนิชอย่างกะทันหัน ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อในขณะที่มันส่องแสงสีดำอันเจิดจ้าออกมา

แม้ว่าไทนิชจะควบคุมพลังของโถงไว้ได้ส่วนหนึ่ง แต่เขาก็ยังเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 เท่านั้น เขาไม่สามารถที่จะตอบสนองการจมตีอย่างกะทันหันของเจี้ยนเฉินที่มาจากด้านหลังได้

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงเข้าไปด้านหลังของไทนิชแต่มันก็ถูกป้องกันเอาไว้ด้วยพลังงานของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบ ๆ เขา พลังงานเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงหลังจากที่รับการโจมตีเข้าไป แต่มันก็กลับคืนสภาพอย่างรวดเร็ว

มือของเจี้ยนเฉินกระตุกออกไปอีกทันทีและโจมตีออกไปด้วยความเร็ว ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิกลายเป็นภาพติดตาหลายภาพในมือของเขา มันโจมตีชั้นพลังงานออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่ทำให้ยากที่มองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า

ความเร็วของเจี้ยนเฉินนั้นน่าเหลือเชื่อ ในเวลาเพียงนิดเดียว เขาก็แทงออกไปหลายสิบครั้ง แต่ละการโจมตีมีพลังของเซียนราชาในขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 7 และมันก็ตกอยู่ที่เดียวกับทั้งหมดพอดีเป๊ะ

แม้ว่าพลังที่ปกป้องไทนิชเอาไว้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ไม่สามารถทนการโจมตีอย่างต่อเนื่องได้ ทำให้เกิดรูเล็ก ๆ ในตอนท้าย

ตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างออกในขณะที่จิตสังหารเปล่งประกายออกมาจากเขาโดยไม่มีทีท่าทีจะเก็บไว้แม้แต้น้อย เขาเสียบยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเข้าไปในช่องนั้นทันทีและทำลายการป้องกันลง แทงอย่างไม่ปราณีเข้าไปที่ไทนิช

พรวด ! ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิพุ่งออกมาจากหน้าอกของไทนิชในขณะที่เลือดสีแดงหยดออกมาจากปลายของดาบ ขณะเดียวกัน พลังบรรพกาลภายในอาวุธก็เข้าไปที่ร่างกายของไทนิชอย่างบ้าคลั่ง

“อ้าก ! ” ไทนิชอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างน่าเวทนา พลังบรรพกาลที่เข้าไปในร่างของเขานั้นทรงพลังมาก ทรงพลังขนาดที่มีแค่ร่างบรรพกาลขั้นที่ 3 เท่านั้นที่สามารถทนมันได้ แล้วร่างที่เปราะบางของเขาจะทนการทำลายล้างอย่างนี้ได้อย่างไร ? ที่ใดก็ตามที่พลังบรรพกาลผ่านไป เลือดและเนื้อของไทนิชก็จะระเบิดพร้อมเสียงฉีกขาด เลือดสาดกระจายไปทั่ว

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า ถ้าข้าจะต้องมาตายที่นี่ ข้าก็จะลากเจ้าไปกับข้าด้วย” ไทนิชร้องโหยหวนและแววแห่งความมุ่งมั่นก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา เขาต้องการที่จะใช้พลังของเซียนจักรพรรดิที่อยู่ในตัวของเขาเพื่อฆ่าพวกเจี้ยนเฉินทั้งสอง

เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าไทนิชต้องการจะทำอะไร ตาของเขาเย็นชาทันทีและเขาก็สะบัดมือซ้ายไปที่หัวของไทนิชด้วยความเร็วแสง ฝ่ามือโจมตีที่ทรงพลังพุ่งผ่านหัวของเขาไปและเปลี่ยนมันให้เป็นชิ้น ๆ และกำจัดวิญญาณของเขาไป

วิญญาณของไทนิชหายไป พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์จึงสูญเสียนายของมันไปเช่นกัน มันเริ่มที่จะหายไปอย่างช้า ๆ

ควับ!

วัตถุเซียนสูงสามสิบเมตรกลับไปเป็นขนาดเท่าเดิม และกลายเป็นแสงสีทองพุ่งกลับเข้าไปที่ในหน้าผากของเจี้ยนเฉิน มันกลับไปที่ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน

นูบิสเดินไปไกล เขามองไทนิชที่ตายอยู่ที่พื้น เขาอดไม่ได้ที่จะถอนกายใจออกมายาว “ในที่สุดไอ้บ้านี่ก็ตามสักที พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่เขาควบคุมก่อนหน้านี้ทำให้เขาใช้การโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 ได้ มันทำให้ข้ากลัวมาก แต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้าในตอนท้าย” ความบ้าคลั่งในใจของนูบิสได้สงบลงไปในที่สุด

เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมาในใจอย่างผ่อนคลายในขณะที่เขาจ้องไปที่ศพของไทนิชด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันไป เขาเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเข้าไปในแหวนมิติของเขา ก่อนที่จะนั่งยอง ๆ ลงไปที่ข้างศพของไทนิช เขาทาบฝ่ามือไปที่หน้าอกของศพ

คลื่นพลังงานที่ทรงพลังออกมาจากหน้าอกของเขาทันที ตามติด ๆ มาด้วยพลังงานบริสุทธิ์กลมขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ซึ่งถูกดึงออกมาจากไทนิชโดยเจี้ยนเฉิน มันเป็นพลังของเซียนจักรพรรดิ

เจี้ยนเฉินค่อย ๆ วางพลังนั้นเอาไว้บนมือของเขา เขาเคร่งเครียดมาก เขารู้ดีว่านี่เป็นพลังที่แท้จริงของเซียนจักรพรรดิซึ่งเหนือกว่าพลังของโถงศักด์สิทธิ์ที่ไทนิชควบคุมอยู่มากนัก

“เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดที่จะเก็บพลังนั้นไว้กับเจ้าอย่างนั้นหรือ ? ” นูบิสจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง นั้นเป็นสิ่งที่ข้าตั้งใจจะทำ พลังนี้ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่ามันจะมีพอแค่ใช้ได้เพียงการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่มันก็พอที่จะทำให้เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ถ้ามันถูกใช้ดีดี มันยังสามารถฆ่าได้แม้แต่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9”

เจี้ยนเฉินเก็บพลังของเซียนจักรพรรดิเข้าไป อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะเก็บมันไว้ในร่างกายของเขา แทนที่กัน เขาเก็บมันไว้ในมิติของวัตถุเซียนเพื่อให้วัตถุจิตวิญญาณคอยป้องกันมันไว้ แบบนั้น วัตถุจิตวิญญาณจะสามารถป้องกันพลังของเซียนจักรพรรดิได้ถ้าเกิดมันหลุดออกมา

“แม้ว่าข้าจะสามารถสกัดพลังของเซียนจักรพรรดิไปเป็นพลังบรรพกาลได้ แต่มันก็เป็นปริมาณที่จำกัดมากและคงไม่ได้ช่วยอะไรได้มากสักเท่าไร ขณะเดียวกัน ข้าสามารถใช้มันเพื่อข่มขู่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้ถ้าเจอกับศัตรูเข้า แบบนั้นข้าจะใช้ประโยชน์จากมันได้มากกว่า” เจี้ยนเฉินคิด

“เจี้ยนเฉิน เจ้าทำได้ดีจริง ๆ เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย” ทันใดนั้นเองเสียงที่นุ่มนวลและน่าพอใจก็ดังออกมา

เสียงที่ดังออกมาทันทีทันใดนั้นได้ทำให้เจี้ยนเฉินและนูบิสนิ่งอึ้ง ในขณะที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาทันที ตรงหน้าพวกเขามีภาพพร่ามัวปรากฏขึ้นมา มันเป็นหญิงที่มองเห็นหน้าได้ไม่ชัดเท่าไร

“เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เจ้าจริง ๆ ด้วย” เจี้ยนเฉินและนูบิสทั้งคู่ตกตะลึงทันทีที่พวกเขาเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

“เจี้ยนเฉิน เจ้าได้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่ถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิมนุษย์ที่ตายไปแล้ว และโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ยังตกอยู่ในมือของเจ้าด้วยอีกเช่นกัน เจ้าพอใจจากสิ่งที่เจ้าได้รับจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดหรือไม่ ? ” เสียงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลดังออกมา มันน่าฟังมาก เหมือนดนตรีที่ถูกบรรเลงโดยผู้ซึ่งเป็นอมตะ

“ในเมื่อท่านสามารถเข้ามาที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้ตามที่ปรารถนา ท่านต้องรู้ถึงฉากที่ถูกจัดไว้ที่โถงศักดิ์สิทธิ์นี้ใช่ไหม?” เจี้ยนเฉินถามอย่างเคร่งเครียด

“ถูกต้อง ข้ารู้ดีเกี่ยวกับทุกอย่างที่นี่ รวมถึงเรื่องของจักรพรรดิเลือดปีศาจและจักรพรรดิซามิคด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าได้บอกให้เจ้ามาที่นี่เพราะว่าข้าคิดเกี่ยวกับเรื่องของเจ้า ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเจ้า และทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ถือว่าเป็นการทดสอบเจ้าประเภทหนึ่ง” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูดออกมา

เจี้ยนเฉินเงียบไป เทพเจ้าแห่งเผ่าพันธุ์ทะเลเป็นหนึ่งในสุดยอดจอมยุทธจากครั้งโบราณกาล การมีอยู่ของนางนั้นเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ ความสามารถของนางนั้นเหนือกว่าที่เจี้ยนเฉินคิดคำนวณอย่างมากมาย เจี้ยนเฉินรู้ว่าบางทีทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดนั้น อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของนาง

“ท่านช่วยข้ามาหลายครั้ง ข้าขอถามได้ไหมว่าท่านต้องการให้ข้าทำอะไรให้ท่าน?” เจี้ยนเฉินถาม

เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเงียบไปสักพักก่อรที่จะพูดออกมาในที่สุด “เจี้ยนเฉิน ข้าต้องการให้เจ้าไปยังที่แห่งหนึ่งเพื่อที่จะไปเอาของมาให้ข้า นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงช่วยเจ้า”

“ข้าขอถามได้ไหมว่าสิ่งของนั้นมันคือะไรกัน ? ด้วยตัวตนของท่านที่เป็นถึงเทพเจ้าแห่งเผ่าพันธุ์ทะเล ไม่มีจอมยุทธคนอื่นที่สามารถช่วยท่านได้เลยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินสงสัย

“ไม่ บางทีอาจจะมีแค่เจ้าเท่านั้นที่สามารถเข้าไปที่นั่นได้ มันจะนำความตายไปสู่คนที่เข้าไป แม้ว่าใครคนนั้นจะเป็นถึงเซียนจักรพรรดิก็ตาม” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูดออกมา