ตอนที่ 950: เจ้าของโถงศักดิ์สิทธิ์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 950: เจ้าของโถงศักดิ์สิทธิ์

เจี้ยนเฉินตกใจทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล อย่างไรก็ตาม เขายิ่งรู้สึกสงสัยมากกว่าเดิมเกี่ยวกับสถานที่แบบนั้น

“เทพเจ้าแห่งท้องทะเล ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าที่นั่นคือที่ไหนกัน ? และด้านในนั้นมันอันตรายขนาดฆ่าเซียนจักรพรรดิได้เชียวหรือ ? ข้ายังคงอ่อนแอและยังไม่ใกล้เคียงกับเซียนจักรพรรดิเลย ดังนั้นมันอาจจะยิ่งอันตรายกับข้าไปใหญ่ถ้าข้าเข้าไปในนั้น”

เทพเจ้าแห่งท้องทะเลส่ายหน้า “มีน้อยคนนักในอาณาจักรทะเลที่รู้เกี่ยวกับสถานที่นี้ แต่สำหรับความแปลกและความอันตรายในนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับที่ใดใดในอาณาจักรทะเล นี่เป็นเพราะที่นั่นไม่มีความลึกลับของธรรมชาติ สถานที่นั้นไม่มีการไหลของพลังแห่งธรรมชาติ มีพลังลึกลับอยู่ด้านในซึ่งจะข่มความสามารถและพลังทั้งหมดของคนออกไป ดังนั้นเซียนราชาหรือแม้แต่เซียนจักรพรรดิจะสูญเสียความสามารถทั้งหมดเมื่อเข้าไปในสถานที่นั้นและอ่อนแอเหมือนคนธรรมดา พวกเขาจะไม่สามารถเผชิญกันอันตรายที่นั่นได้เลยแม้แต่น้อย”

“ในหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ข้าจะค้นหาไปทั่วทั้งอาณาจักรทะเลครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเพื่อหาคนที่เหมาะสม แต่ข้ายังขยายการค้นหาไปถึงทวีปเทียนหยวน ทวีปสัตว์เทวะ และทวีปของร้อยเผ่าพันธุ์ด้วยวิญญาณของข้า โชคร้ายที่ข้าไม่เจอแม้แต่คนเดียวในรอบแสนปีเลย จนกระทั่งเจ้าปรากฎขึ้นมา” เสียงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเต็มไปด้วยอารมณ์ ความโศกเศร้าและความตื่นเต้น

“เจี้ยนเฉิน เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้าค้นพบในตลอดหลายปีที่ผ่านมากนี้ที่จะสามารถเข้าไปที่นั่นได้และออกมาอย่างมีชีวิตอยู่ นี่เป็นเพราะเจ้าฝึกฝนในเส้นทางที่แตกต่าง เจ้าไม่ได้เข้าใจในความลึกลับของธรมมชาติและพลังที่เจ้าใช้นั้นแตกต่างจากพลังที่รู้จักกันบนทวีปเทียนหยวน มันเป็นพลังลึกลับที่แม้แต่ข้ายังไม่เคยได้ยินและไม่เคยเห็น ข้ารู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของพลังนี้และมันจะไม่ถูกข่มในสถานที่นั้นแน่ ร่างกายของเจ้าก็แข็งแกร่งจนถึงจุดที่เซียนราชาที่ต่ำกว่าชั้นสวรรค์ที่ 3 ยังยากที่จะทำร้ายเจ้าได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าพลังของเจ้าจะถูกข่มที่นั่น แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งของเจ้าก็จะเพียงพอที่จะปกป้องเจ้า นี่เป็นเป็นเหตุผลที่เจ้าจะกลับมาได้แบบมีชีวิตอยู่จากที่นั่น เจี้ยนเฉิน ได้โปรดช่วยข้าด้วย”

เจี้ยนเฉินเข้าใจทุกอย่างเมื่อเขาได้ยินคำอธิบายจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ไม่แปลกใจเลยที่เทพเจ้าแห่งท้องทะเลมาหาเขาเพื่อให้ช่วยนาง เป็นเพราะว่าเขาฝึกฝนร่างบรรพกาลและมันแตกต่างจากคนอื่น

“ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ว่าสิ่งของอะไรกันแน่ที่ท่านต้องการให้ข้าเอามาให้จากสถานที่นั้น ? และความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้เพียงพอที่จะทำแบบนั้นได้แล้วหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามพร้อมป้องมือ

“ข้าจะบอกเจ้าเมื่อเวลามาถึงว่าอะไรที่เจ้าต้องไปเอามา ความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้เกินพอที่จะเข้าไปที่นั่น อันตรายที่ใหญ่ที่สุดในสถานที่นั้นคงเป็นเรื่องที่พลังของแม้แต่เซียนจักรพรรดิจะถูกข่มเอาไว้ พลังลึกลับที่นั่นจะเปลี่ยนเซียนจักรพรรดิให้กลายเป็นคนธรรมดา ถ้าไม่มีพลังนั่น จอมยุทธ 16 ดาวคนไหนก็คงเข้าไปที่นั่นได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร”

“พลังงานในอาณาจักรทะเลจะเจอกับการลดลง 1 ครั้งในทุก ๆ หมื่นปี สถานที่นั้นจะปรากฎออกมาเมื่อเหตุการณ์นั้นปรากฎขึ้น เวลาที่เจ้าจะเข้าไปที่นั่นคือเวลาที่การลดลงของพลังครั้งต่อไปเกิดขึ้น มันใกล้จะถึงหนึ่งหมื่นปีแล้วจากเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อน ดังนั้นการลดลงของพลังที่จะเกิดในครั้งต่อไปคงไม่นานนัก ถ้าประมาณเอาจากเหตุการณ์ที่เกิดครั้งก่อน มันน่าจะเกิดอีกครั้งในเวลาไม่เกิน 50 ปีเป็นอย่างมาก” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูด

เจี้ยนเฉินหยุดสักพักก่อนที่จะพูดต่อ “เทพเจ้าแห่งท้องทะเล ข้าเป็นคนที่ทดแทนคุณคน เมื่อท่านช่วยข้ามามากมาย ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาของที่ท่านต้องการมาให้ได้”

“ดีมาก เจี้ยนเฉิน เมื่อเจ้าได้สิ่งของนั้นมา ข้าจะขอบคุณเจ้า เจ้าจะเป็นสหายกับเผ่าพันธุ์ทะเลของข้าตลอดกาล” เสียงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเต็มไปด้วยความยินดีอย่างไม่ปิดบัง “เจี้ยนเฉิน โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดถูกสร้างขึ้นมาโดยจักรพรรดิของแผ่นดิงทั้งแปด มันทรงพลังมาก ถ้าเจ้าซ่อนอยู่ในมัน อะไรก็ตามที่ต่ำกว่าเซียนจักรพรรดิก็ยากที่จะทำร้ายเจ้าได้ เจ้าควรจะไปหลอมรวมกับหอคอยศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ซะ”

“ขอรับ” เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความยินดีที่ยากจะปิดบังเอาไว้ ถ้าเขามีโถงศักดิ์สิทธิ์อยู่ละก็ เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวพลังของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบอีก

ร่างเงาของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลค่อย ๆ ลอยไปทางหินปีศาจสูงสุดช้า ๆ นางชี้ไปที่มันอย่างนุ่มนวล มันเคลื่อนไปทางเจี้ยนเฉินทันทีในขณะที่มันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีแดงจาง ๆ จากนั้นนางจึงพูดออกมา “เอาหินนี้ไปกับเจ้าด้วย จำไว้ว่า เจ้าต้องหาร่างที่อยู่ใหม่ให้กับมันภายใน 10 ปี”

“ร่างใหม่ใน 10 ปี ? ทำไมล่ะ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างสับสน

เทพเจ้าแห่งท้องทะเลส่ายหัวเบาเบา “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นสิ่งที่พยัคฆ์ปีกเทวะบอกข้ามาเมื่อหลายปีมาแล้ว และหินนี่ก็มาจากเขาเช่นกัน”

“อะไรนะ ? หินปีศาจสูงสุดนี่มาจากพยัคฆ์ปีกเทวะงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินตกตะลึงเป็นที่สุด

“ถูกต้อง หินนี่มาจากพยัคฆ์ปีกเทวะแน่ ในตอนนั้น เขาติดต่อกับข้าผ่านข้อความทางจิตใจและให้ข้าดูแลหินนี้ให้กับเขา เมื่อร่างของหินนี่ตายไป ร่างใหม่ต้องมีขึ้นมาใน 10 ปี เขาบอกว่าหินจะอยู่ไม่ได้ด้วยตัวเองถ้าปราศจากร่างที่จะอยู่มากเกิน 10 ปี ไม่เช่นนั้นเขาจะมาและทำให้อาณาจักรทะเลของข้าราบเป็นหน้ากลอง” เสียงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแกมบังคับนิด ๆ ในตอนท้าย

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างเมื่อเขาได้ยินว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะทำให้อาณาจักรทะเลราบเป็นหน้ากลอง จากนั้นเขาจึงถามออกไปด้วยความสงสัย “ไม่ใช่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะหายไปนานแล้วหรือ ? แล้วคำขู่จะไปมีอะไรในตอนนี้ล่ะ ? “

“จริงอยู่ที่พยัคฆ์ปีกเทวะหายไปนานหลายปีแล้ว แต่ข้าก็ยังเป็นหนี้ในการชี้แนะของเขาในตอนนั้น นี่เป็นเหตุผลที่ข้ายังช่วยเจ้าได้ในวันนี้ซึ่งก็เป็นเพราะเขา นี่เป็นเหตุผลที่ข้าคอยสอดส่องเรื่องหินมาตลอดหลายปีนี้ เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณของพยัคฆ์ปีกเทวะ”

เจี้ยนเฉินยิ่งรู้สึกตกตะลึงเข้าไปใหญ่ ในที่สุดเขาได้รู้ว่าทำไมเทพเจ้าแห่งท้องทะเลถึงได้มีชีวิตรอดมานานขนาดนี้ มันเป็นเพราะพยัคฆ์ปีกเทวะ สิ่งที่ทำให้เขายิ่งเหลือเชื่อมากยิ่งขึ้นไปอีกคือการที่เทพเจ้าแห่งท้องทะเลนั้นเป็นหนี้บญคุญในการชี้แนะของพยัคฆ์ปีกเทวะอีกด้วย

พยัคฆ์ปีกเทวะ เทพเจ้าแห่งท้องทะเล โมเทียนหยุน และเอ่อหยิน เป็นคนที่มีชื่อเสียงเท่าเทียมกันในครั้งโบราณกาล พวกเขาเป็นสุดยอดจอมยุทธของเผ่าทั้งสี่

“ดูเหมือนว่า แม้ว่าสุดยอดจอมยุทธทั้งสี่ได้ก้าวผ่านระดับเซียนจักรพรรดิไปแล้วในครั้งโบราณกาล แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน” เจี้ยนเฉินคิด ในขณะที่นูบิสที่ฟังอยู่ด้านหลังนิ่งอึ้ง มันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจของนูบิสมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูด

ไม่มีใครบนทวีปเทียนหยวนที่รู้เกี่ยวกับความลับนี้ และคงไม่มีใครเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล

เจี้ยนเฉินยื่นมือออกไปที่หินและคว้ามันเอาไว้ เขาถาม “ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ว่ามันอันตรายกับร่างนั้นหรือไม่ถ้าหินเข้าไปในร่างของคนผู้นั้นแล้ว ? “

“ข้าได้สังเกตมันมาหลายแสนปีแล้ว ในตลอดปีที่ผ่านมา หินได้เดินทางไปทั้งสี่ทวีปและได้เข้าไปในร่างหลายร้อยร่าง อย่างไรก็ตาม มันไม่มีอะไรเลยนอกจากวิธีการฝึกฝนและพลังที่ใช้ที่เหมือนกันเท่านั้น มันไม่น่าจะทำอันตรายให้กับร่างได้” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูด

เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บหินเข้าไปในแหวนมิติ เขาเริ่มที่จะคิดถึงทางเลือกต่าง ๆ ของเขาสำหรับหินปีศาจสูงสุดนี้

“เจี้ยนเฉิน จำไว้ว่า หินไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองนานมากกว่า 10 ปี มันอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยตัวเองมา 5 ปีแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องหาร่างใหม่ให้กับมันในเวลาที่เหลืออีก 5 ปีนี้” เสียงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลดังออกมาในขณะที่ร่างของนางค่อย ๆ จางหายไป เมื่อนางพูดจบ นางก็หายไปเลย และออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์

เจี้ยนเฉินเลิกคิดอย่างรวดเร็วหลังจากที่เทพเจ้าแห่งท้องทะเลจากไป เขามองไปที่ทางเข้าที่เพดานและบินไปที่ศูนย์กลางของโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาวางแผนที่จะหลอมรวมโถงศักดิ์สิทธิ์

ความเร็วที่เจี้ยนเฉินใช้หลอมรวมกับโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นมหัศจรรย์มาก ไทนิชไม่สามารถหลอมรวมมันได้ทั้งหมดในเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงใช้ได้แค่พลังส่วนน้อยของโถงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ในทางกลับกัน เจี้ยนเฉินควบคุมได้ทั้งหมดในเวลาแค่ 3 เดือน

วิญญาณของเจี้ยนเฉินหลอมรวมเข้ากับโถงศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่เขาควบคุมมันได้ทั้งหมดแล้ว มันดูเหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งกับเขาแล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะเห็นทุกสิ่งด้านในได้อย่างชัดเจน เขายังควบคุมพลังของมันได้ทั้งหมดอีก

เจี้ยนเฉินสามารถควบคุมพลังที่สามารถต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิอย่างตามใจชอบในโถงศักดิ์สิทธิ์ ปัญหาเดียวคือมันไม่สามารถใช้กับคนที่อยู่นอกโถงศักดิ์สิทธิ์ได้

เจี้ยนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงสัตว์อสูรระดับ 8 หลายตัวที่อยู่ในโถงในตอนนี้ นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีโครงกระดูกที่ใหญ่มากสองอันที่อยู่ในบริเวณที่ซ่อนไว้อยู่ของโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกมันเป็นโครงกระดูกคนของเผ่าพันธุ์ทะเล พลังงานที่บริสุทธิ์และมหาศาลมากกระเพื่อมออกมาจากมัน

“โครงกระดูกของเซียนจักรพรรดิ” เจี้ยนเฉินจำเจ้าของของโครงกระดูกทั้งสองได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นของจักรพรรดิซามิคและจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด นี่ทำให้หัวใจของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความยินดี

เจี้ยนเฉินออกจากศูนย์กลางของโถงศักดิ์สิทธิ์ไป และกลับไปที่ชั้นที่เก้าของโถง นูบิสใช้เวลา 3 เดือนนี้รออยู่ด้านนอกและกำลังฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่อีกข้างหนึ่ง เขาไม่สัมผัสถึงการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินเลย

เจี้ยนเฉินมองไปที่นูบิสและยิ้ม “นูบิสถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปแล้ว”

นูบิสลืมตาขึ้นช้า ๆ และเผยท่าทางตื่นเต้นออกมา “เจี้ยนเฉิน เจ้าควบคุมโถงได้สมบูรณ์แล้วหรือ ? “

เจี้ยนเฉินยิ้มก่อนที่จะกางมือออก แหวนมิติหลายวงลอยมาจากทางเข้าของโถง ทั้งหมดทุกวงมารวมอยู่ที่ฝ่ามือของเขา มันมีมากกว่าร้อยวง

แหวนมิติเป็นของคนที่ตายในโถงศักดิ์สิทธิ์และถูกเจี้ยนเฉินเก็บเอามาผ่านพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์

นูบิสเข้าใจเลยทันทีว่าเจี้ยนเฉินได้สกัดพลังงานของโถงศักดิ์สิทธิ์มาอย่างสมบูรณ์แล้วเมื่อเขาเห็นการสาธิตของเจี้ยนเฉิน เขายินดีทันที “เยี่ยมมาก ด้วยการปกป้องของโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวถ้าเราไปเจอเข้ากับผู้อาวุโสประจำศาลาอีกแล้ว พระเจ้า มันน่ากลัวขนาดไหนตอนที่พวกเราถูกไล่ล่าไปทั่วจากจอมยุทธของศาลาเทพเจ้าอสรพิษและศาลาวิญญาณสวรรค์ ? พวกเราปล่อยพวกมันไปไม่ได้เมื่อพวกเราแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว พวกเราไปกันเถอะเจี้ยนเฉิน ฆ่าพวกศาลาเทพเจ้าอสรพิษและศาลาวิญญาณสวรรค์เพื่อล้างแค้นกัน”