อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1049 การสืบสวน
“ขณะนี้ข้าน้อยยังสืบไม่ได้ว่านางมีความสัมพันธ์อะไรกับกู้ชูหน่วน นายท่าน มู่หน่วนยโสโอหังไร้มารยาทเช่นนี้ ต้องการให้ข้าน้อยทำลายล้างมู่หน่วนและทุกคนในตระกูลมู่หรือไม่ขอรับ”

“ด้วยวิธีการของเย่จิ่งหาน มู่หน่วนปั่นหัวเขาขนาดนี้ แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยมู่หน่วนไปอย่างง่ายดายเด็ดขาด ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ นางมีความสัมพันธ์บางอย่างกับกู้ชูหน่วน หรือบางทีนางอาจจะหาวิญญาณที่แตกกระจายของกู้ชูหน่วนได้”

“เช่นนั้นข้าน้อยฆ่านางแล้ว เย่จิ่งหานก็ไม่มีทางจะฟื้นคืนชีพของกู้ชูหน่วนได้แล้ว”

ดวงตาอันเย็นชาของเวินเส้าหยีเปล่งประกายความเกลียดชังอันแรงกล้าออกมา มือที่ไขว้อยู่ด้านหลังก็กำแน่นจนเกิดเสียงกึกกึก

“เขาอยากจะชุบชีวิตนาง แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาสมหวัง ทำลายไปตรงๆเขาก็ได้เปรียบเกินไป ข้าต้องการทำให้เย่จิ่งหานมีความหวังทุกครั้ง แล้วตกจากสวรรค์ลงไปในนรกทีละก้าวๆ และทำให้เขาได้ลิ้มรสว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น หมดหนทาง”

ยังมีอีก….

ยังมีผู้หญิงคนนั้นอีก…..

บัญชีระหว่างนางกับเขายังไม่ได้สะสาง

จะแล้วกันไปแบบนี้ได้เช่นไร

องครักษ์ลับอารั่วโค้งคำนับและกล่าว”ขอรับ สุดแล้วแต่คำสั่งของนายท่านขอรับ”

“จับตาดูมู่หน่วนไว้ แล้วสืบภูมิหลังตัวตนของมู่หน่วนต่อ”

“ขอรับ”

นกพิราบคาบข่าวตัวหนึ่งบินมา

อารั่วเอาจดหมายที่เท้านกพิราบยื่นให้เวินเส้าหยี

หลังจากที่เวินเส้าหยีอ่านจดหมายจบ ปากก็ยกเป็นรอยยิ้มหยอกเย้าขึ้น

น่าสนุก

เย่จิ่งหานปล่อยมู่หน่วนแล้ว

แต่กลับปล่อยข่าวออกไปว่ามู่หน่วนฆ่าไป๋หลี่หมิงและไป๋หลี่เจิ้น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้

เขาก็จะแทรกเข้าไปร่วมด้วย

“อารั่ว ปล่อยข่าวออกไปว่ามู่หน่วนถลกเสื้อผ้าของซ่างกวนชิงที่ภูเขาเจียงเจ๋อ แย่งชิงสมบัติของเขา รวมทั้ง…….ปล่อยสัตว์อสูรทั้งหมดของตระกูลไป๋หลี่ไป”

“ขอรับ”

“มีเบาะแสของขวานผานกู่หรือไม่?”

“ยังไม่มีขอรับ ข้าน้อยได้เพิ่มกำลังคนในการเสาะหาขวานผานกู่แล้วขอรับ”

“ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ก็ต้องหาขวานผานกู่ให้พบ แล้วฆ่าเซียวหยู่เซวียนซะ”

“นายท่านวางใจได้ แม้ว่าเซียวหยู่เซวียนจะมีความสามารถมากมายค้ำฟ้า ก็ยากที่จะรอดชีวิตไปได้”

อารั่วกล่าวอย่างมั่นใจ

แต่เวินเส้าหยีกลับไม่พูดจา

หากว่าไม่มีการลอบคุ้มกันของเย่จิ่งหาน

ต้องการฆ่าเซียวหยู่เซวียน ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินไปนักจริงๆ

แต่ทว่า…..

หลังจากที่เย่จิ่งหานได้มาถึงทวีปปิงหลิงแล้ว ที่ติดตามมาข้างกายไม่ได้มีเพียงแค่ชิงเฟิงและเจี่ยงเสวียเท่านั้น

ด้านหลังยังมีกองกำลังลึกลับอยู่อีกกอง ซึ่งช่วยเขาทำงานมาโดยตลอด

เย่จิ่งหานไม่ล้ม

คิดจะฆ่าเซียวหยู่เซวียน เกรงว่าคงจะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองแรงกำลังยกใหญ่

ในจวนมู่

กู้ชูหน่วนฟื้นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ

ทั้งหมดที่ประทับในสายตาของนางเห็นคือพ่อของนางมู่ซิน

“อาหน่วน ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว พ่อตกใจแทบตาย”

“ทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่ได้?”

“เจ้าหมดสติไปในป่าไผ่ โชคดีที่ซ่างกวนหมิงหลางส่งเจ้ากลับมา ไม่เช่นนั้น…….เกรงว่าเจ้าก็คงจะไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บสาหัสแล้ว ตระกูลของพวกเราติดหนี้บุญคุณเขา”

ซ่างกวนหมิงหลาง?

อดีตคู่หมั้นของนาง?

“ยังเจ็บอยู่หรือไม่? เป็นผู้ใดที่ทำให้เจ้าบาดเจ็บถึงเพียงนี้?”

“ยากที่จะพูดออกมาในคำเดียวได้ คนที่ทำร้ายข้ามีมากมายเกินไป จำก็จำไม่ได้แล้ว”

“ปลอดภัยก็ดีแล้ว ต่อจากนี้ไปเจ้าต้องระวังความปลอดภัยสักหน่อย อยู่ในบ้านให้ดีๆ อย่าเที่ยวออกไปหาเรื่องหาราวมั่วซั่วอีก”

“เข้าใจแล้ว”

กู้ชูหน่วนตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเองเล็กน้อย บาดเจ็บหนักมากจริงๆ

แม้จะพันแผลแล้ว และใส่ยารักษาบาดแผลชั้นดีแล้ว ก็ยังเจ็บจนนางต้องขมวดคิ้วอยู่ตลอด”

“ทำไมข้างนอกถึงได้เสียงดังเอะอะขนาดนี้?”

“คนเหล่านั้นที่มาสู่ขอ ล้วนว่ากันว่าเจ้าได้มีหน้ามีตามากในหุบเขาอสูร อายุน้อยๆไม่เพียงแค่ทำข้อตกลงกับพยัคฆ์เซวียนหู่โบราณเท่านั้น ยังรู้จักการควบคุมสัตว์อีก สัตว์อสูรระดับสูงมากมายล้วนยอมรับเจ้าเป็นเจ้านาย”

“ท่านพ่อเชื่อหรือ?”

มู่ซินลูบผมของนางด้วยความรักความเมตตา ยิ้มแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่าเจ้าจะรู้วิธีการควบคุมสัตว์หรือไม่ และไม่ว่าเจ้าจะทำข้อตกลงกับพยัคฆ์เซวียนหู่โบราณอะไรนั่นหรือไม่ พ่อรู้เพียงแค่ เจ้าเป็นลูกสาวของพ่อ เพียงแค่เจ้าปลอดภัยและมีความสุขก็ดีแล้ว”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกู้ชูหน่วนชะงักลงช้าๆ ตอบรับคำหนึ่งเบาๆ และปล่อยให้มู่ซินลูบผมของนาง

“อันที่จริงหมิงหลางเด็กคนนี้ ไม่เพียงแค่หน้าตาดี ศักยภาพก็แข็งแกร่ง จิตใจก็ยังนับว่ามีคุณธรรมด้วย เจ้าแต่งงานกับเขา ก็เป็นที่พักพิงที่ไม่เลว”