บทที่ 2014 ปราณโลหิต

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เมื่อเห็นผู้อมตะที่สวมผ้าโพกศีรษะและเสื้อคลุมสีเขียวที่ดูหล่อเหลาและสูงส่งดวงตาของปีศาจอมตะฉีเจียก็ส่องประกายขึ้น “วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่ข้าอนุมานอยู่กับคนผู้นี้งั้นหรือ?”

ปีศาจอมตะฉีเจียโจมตีทันที

มือปราณสีขาวพุ่งเข้าไปหานักพเนจรหัวใจสีชาติ

เมื่อเห็นมือปราณพุ่งเข้ามาหานักพเนจรหัวใจสีชาติรีบหลบเลี่ยง

นักพเนจรหัวใจสีชาติเป็นสมาชิกของวังสวรรค์และอดีตเจ้าของหอพิพากษาปีศาจระหว่างสงครามชะตากรรมเขาถูกส่งตัวมายังทะเลทรายตะวันตกเพื่อสร้างความวุ่นวายและดึงดูดความสนใจของกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก

นักพเนจรหัวใจสชาติมั่นใจว่าเขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะเกือบทุกคนของทะเลทรายตะวันตกแต่ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือปีศาจอมตะฉีเจียนักพเนจรหัวใจสีชาติรู้ว่าตนเองไม่สามารถแข่งขันกับคนผู้นี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจล่าถอยโดยไม่ลังเล

ก่อนเลือดปรากฏขึ้นด้านหลังศีรษะของนักพเนจรหัวใจสีชาติ นี่ทําให้ความเร็วของเขาพุ่งสูงขึ้นและสามารถหลบมือปราณของปีศาจอมตะฉีเจีย

ปีศาจอมตะฉีเจียพึมพําอยู่ในใจ เส้นทางแห่งเลือดอุดมสมบูรณ์มากในยุคนี้

ปีศาจอมตะฉีเจียไล่ล่านักพเนจรหัวใจสีชาติไปไกลกว่าหมื่นลี้

ปีศาจอมตะฉีเจียประหลาดใจมากเมื่อพบว่าวิธีการเคลื่อนไหวของเขาไม่สามารถแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม

“ข้าแก้ไขวิธีการเคลื่อนไหวของข้าแล้วแต่ข้ายังไม่สามารถไล่จับปีศาจอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งเลือดผู้นี้เขาเป็นผู้ใด?”

ปีศาจอมตะฉีเจียค้นความทรงจําของตนเองและค่อยๆพบเบาะแสบางอย่าง

ก่อนหน้านี้เขาเคยค้นวิญญาณของชิงสุ่ยจื่อและได้รับข้อมูลมากมาย ตัวตนที่แท้จริงของนักพเนจรหัวใจสีชาติไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้น ทางแห่งเลือดที่อาละวาดอยู่ในทะเลทรายตะวันตก

หลังจากไล่ล่าไปอีกสักพัก ปีศาจอมตะฉีเจียก็ตะโกน “เจ้าจะวิ่งไปที่ใด?”

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตาย

นักพเนจรหัวใจสีชาติสัมผัสได้ถึงกระแสลมปราณที่พัดอยู่รอบๆและทําให้ความเร็วของเขาลดลง

เขาถอนหายใจและทําได้เพียงหันหลังกลับไปต่อสู้กับปีศาจอมตะฉีเจีย

เมื่อการต่อสู้ที่แท้จริงปะทุขึ้นนักพเนจรหัวใจสีชาติก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว

นักพเนจรหัวใจสีชาติพยายามดิ้นรนสุดกําลัง เขาลอบถอนหายใจอยู่ภายในสมกับเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เขาแข็งแกร่งเกินไป

นักพเนจรหัวใจสีชาติรู้สึกว่าตนเองเหมือนเรือล่เล็กที่ลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นยักษ์

เมื่อเวลาผ่านไป นักพเนจรหัวใจสีชาติก็ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้สัตว์อสูรแรกกาเนิดตัวหนึ่งกลับพุ่งขึ้นมาจากพื้นทรายและจู่โจมปีศาจอมตะฉีเจียจากด้านหลัง

ปีศาจอมตะฉีเจียถูกปิดล้อมแต่เขาไม่ตื่นตระหนก เขาส่งมือปราณพุ่งเข้ากระแทกสัตว์อสูรแรกกําเนิด

แต่ก่อนที่มือปราณจะปะทะเป้าหมาย สัตว์อสูรแรกกําเนิดกลับเปลี่ยนร่างเป็นนกนางแอ่นและพุ่งเข้าหาปีศาจอมตะฉีเจียราวกับลูกศรสีดํา

“ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ” ปีศาจอมตะฉีเจียรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

มันไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเทพธิดาเก่าวิญญาณ

นางและนักพเนจรหัวใจสีชาติเดินทางมายังทะเลทรายตะวันตกพร้อมกันเพื่อช่วยเหลือกันและกัน

ด้วยการเสริมกําลังจากนาง สถานการณ์ของนักพเนจรหัวใจสีชาติดีขึ้นทันทีเขาสามารถหลบหนีจากความตายอันน่าสยดสยอง

“เราไม่สามารถต่อสู้ได้นานกว่านี้ ปีศาจเฒ่าผู้นี้น่ากลัวเกินไป เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเราสามารถต่อสู้กับเขาได้ในเวลานี้เพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับวิธีการของเรา”นักพเนจรหัวใจสีชาติรีบถ่ายทอดเสียงถึงเทพธิดาเก่าวิญญาณ

นักพเนจรหัวใจสีชาติตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของปีศาจอมตะฉีเจียคนผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญบนจุดสูงสุดในยุคปัจจุบัน หากต่อสู้กันจริงๆมันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ผู้อมตะทั้งสองของวังสวรรค์จะถูกฆ่าโดยปีศาจอมตะฉีเจีย

“ข้ามีแผนแล้ว ตามข้ามา!” เทพธิดาเก่าวิญญาณตอบกลับขณะต่อสู้

ปีศาจอมตะฉีเจียไล่ล่าผู้อมตะทั่งสองไปถึงทะเลทรายแห่งหนึ่ง

เทพธิดาเก่าวิญญาณเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิด นางซ่อนนักพเนจรหัวใจสีชาติไว้ในปากก่อนที่นางจะมุดลงไปใต้ทะเลทราย

ปีศาจอมตะฉีเจียก่นเสียงเย็น “โง่เขลา!”

ด้วยการผลักฝ่ามือ กระแสลมปราณสีขาวน้ํานมกดพื้นทรายให้จมลึกลงไปหลายสิบเมตร

เทพธิดาเก่าวิญญาณส่งเสียงครวญครางขณะที่นางได้รับบาดเจ็บสาหัส

นักพเนจรหัวใจสีชาติรีบรักษานาง

เทพธิดาเก่าวิญญาณไม่กล้ากลับไปต่อสู้ นางให้ความสําคัญกับการหลบหนีลงไปใต้พื้นทรายเท่านั้น

ปีศาจอมตะฉีเจียกระโดดตามลงไปในทะเลทรายและไล่ล่าต่อ หลังจากชั่วครู่อสูรวิญญาณแรกกําเนิดที่มีร่างกายใหญ่โตก็ปรากฏตัวออกมาจากบริเวณใกล้เคียง

รูม่านตาของปีศาจอมตะฉีเจียหดเล็กลง

อสูรวิญญาณแรกกําเนิดตัวนี้มีรูปร่างที่ดูแปลกประหลาด มันมีกระดองเต่าอุ้งเท้าพยัคฆ์หางมังกรลําคออสรพิษและศีรษะมนุษย์ ดวงตาของมันเรืองแสงสีแดงและดูเหมือนมันกําลังโกรธจัด

นี่คือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานที่ครอบครองวิญญาณอมตะจํานวนมาก

“ชิงโจวปรากฏตัวแล้ว!” นักพเนจรหัวใจสีชาติอุทาน

อสูรวิญญาณแรกกําเนิดตัวนี้ก็คือชิงโจว

หลังจากวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกยึดครองโดยตระกูลฟาง ชิงโจวหลบหนีและซ่อนตัวอยู่อย่างลับๆ

ในสงครามชะตากรรม วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเมืองจักรพรรดิรวมเป็นหนึ่ง เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์ควบคุมมันหลังการต่อสู้จบลง เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์ส่งข้อมูลทุกอย่างให้กับวังสวรรค์

ฉินติงหลิงได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของฟางตี้เฉิงและยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับชิงโจวเนื่องจากชิงโจวถูกขังอยู่ในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์มาอย่างยาวนานเทพอมตะบัวสวรรค์จึงมีความเข้าใจ เกี่ยวกับมันและรู้วิธีค้นหามัน

ด้วยเหตุนี้ฉินติงหลิจึงสั่งให้เทพธิดาเก่าวิญญาณค้นหาชิงโจวและกําหราบมัน

ชิงโจวเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานาน นอกจากพลังการต่อสู้ที่โดดเด่น มันยังมีความสามารถโดยธรรมชาติในการค้นหาและจดจําทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจจิตวิญญาณหากวังสวรรค์สามารถกําหราบมันพวกเขาจะสามารถจัดการทั้งฟางหยวนและเทพปีศาจจิตวิญญาณนี่คือการยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัว

เทพธิดาเก่าวิญญาณพบที่อยู่ของชิงโจวเมื่อไม่นานมานี้แต่ความแข็งแกร่งของนางไม่เพียงพอนางไม่มีความมั่นใจเมื่อนักพเนจรหัวใจสีชาติพบปีศาจอมตะฉีเจียนางจึงวางแผนล่อปีศาจอมตะฉีเจียให้มาต่อสู้กับชิงโจว

“ยอดเยี่ยม ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเฝ้ามองจากข้างสนามและรอเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นักพเนจรหัวใจสีชาติยิ้ม

“ชิงโจวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจอมตะฉีเจีย เราต้องสังเกตสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ”เทพธิดาเก่าวิญญาณกล่าวขณะเคลื่อนตัวลึกลงไปในพื้นทราย

อย่างไรก็ตามสถานการณ์กลับไม่เป็นไปตามความคาดหมายของพวกเขาปีศาจอมตะฉีเจียรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติเขาดูดกลืนกระแสลมปราณที่อยู่รอบๆก่อนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน

เมื่อไม่พบคู่ต่อสู้ ชิงโจวตัดสินใจออกจากสนามรบและหลบหนีไป

ลึกลงไปใต้พื้นทราย สองผู้อมตะของวังสวรรค์มองหน้ากัน นักพเนจรหัวใจสีชาติกล่าว “บัดซบ! มรดกที่แท้จริงของบรรพชนบ่อเลือดกําลังจะถูกฉกชิง!”

เทพธิดาเก่าวิญญาณตกตะลึงก่อนจะสามารถตอบสนอง “เจ้าพบมรดกที่แท้จริงบนเส้นทาง แห่งเลือดงั้นหรือ?”

นักพเนจรหัวใจสีชาติพยักหน้าและถอนหายใจ “เบาะแสของวังสวรรค์ไม่ผิดกระแสลมปราณเปิดเผยการคงอยู่ของมรดกที่แท้จริงของบรรพชนบ่อเลือดข้าค้นหามันมานานกว่าครึ่งเดือนก่อนจะไปถึงสถานที่แห่งนั้นแต่ปีศาจอมตะฉีเจียกําลังจะฉกชิงมันไป”

เทพธิดาเก่าวิญญาณเงียบ

อีกด้านหนึ่ง ปีศาจอมตะฉีเจียเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

“มันอยู่ที่นี่จริงๆ” เขาตรวจสอบก่อนจะพบเป้าหมาย

หลังจากชั่วครู่เขาก็ได้รับมรดกที่แท้จริงของบรรพชนบ่อเลือด

ย้อนกลับไปบรรพชนบ่อเลือดทิ้งมรดกของเขาเอาไว้ทั่วทั้งห้าภูมิภาค

อย่างไรก็ตามหนึ่งในมรดกที่แท้จริงของบรรพชนบ่อเลือดตกอยู่ในมือของปีศาจอมตะฉีเจียเรียบร้อยแล้ว

“มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งเลือด น่าทิ้ง ด้วยมรดกที่แท้จริงนี้ ข้าจะสามารถจัดการผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดได้ง่ายขึ้น”

“วิญญาณอมตะปราณโลหิตดวงนี้เหมาะสมกับข้าจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ปีศาจอมตะฉีเจียหัวเราะอย่างเต็มที่

ท่าไม้ตายที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ล้วนพึ่งพาทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณตอนนี้เมื่อเขาได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณความแข็งแกร่งของเขายิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

แม้มันจะยังห่างไกลจากจุดสูงสุดในอดีตของเขา แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าช่วงเวลาที่เขาต่อสู้กับฟางหยวนมาก