บทที่ 2015 ภัยพิบัติของเมืองหมาป่าทะเลทราย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ทะเลทรายตะวันตก

ลมพัดเม็ดทรายปลิวไปทุกที่ ขบวนสินค้ากําลังเคลื่อนตัวผ่านทะเลทรายที่แห้งแล้งด้วยความยากลําบาก

“โอ้ สวรรค์ ในที่สุดเราก็กลับมาถึงเมืองหมาป่าทะเลทราย” ภายในขบวนสินค้า เพิ่งต้ากล่าวด้วยท่าทางอ่อนล้า

โม่หลิ่มองเผิงต้าและหัวเราะ “เด็กน้อย น้ำเสียงของเจ้าค่อนข้างแตกต่างจากตอนที่เราออกมา”

ใบหน้าของเผิงต้ากลายเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย เมื่อโม่หลี่เริ่มก่อตั้งขบวนสินค้าขึ้นมาอีกครั้ง เพิ่งต้ารู้สึกตื่นเต้นมากและคิดว่ามันจะเป็นการผจญภัยที่สนุกสนาน

แต่หลังจากสิ้นสุดการเดินทาง เพิ่งต้าก็ตระหนักถึงความไร้เดียงสาของตนเองในโลกนี้การเร่ขายสินค้าไม่เพียงยากลําบากแต่ยังเต็มไปด้วยอันตรายหากประมาทเพียงเล็กน้อยชีวิตที่เปราะบางจะถูกทะเลทรายกลืนกินอย่างไร้ปรานี

อย่างไรก็ตามผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆของขบวนสินค้าก็อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับเผิงต้า

“ถูกต้อง เรากลับถึงบ้านแล้ว”

“เราไม่พบอันตรายใดๆ ในการเดินทางครั้งนี้แต่มันเหนื่อยมาก ข้าต้องการอาบน้ำทันที”

“ข้าแทบควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว ข้าจะไปดื่มสุราที่โรงเตี้ยม ฮ่าฮ่าฮ่า”

โม่หลี่ยม เขานึกถึงภรรยาและบุตรชาย ตอนนี้บุตรชายของเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมล็ดพันธ์อมตะและกําลังฝึกฝนอย่างหนัก บุตรชายที่ไม่เอาถ่านของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์

สิ่งนี้ทําให้โม่หลี่มีความหวังและแรงจูงใจใหม่ การเดินทางของขบวนสินค้าเป็นเรื่องยากลำบากแต่เขากลับเต็มไปด้วยความสุข

“เดี๋ยว! มีบางสิ่งเกิดขึ้น!” ผู้ใช่วิญญาณสายตรวจสอบของขบวนสินค่าตะโกน

เผิงต้ากลายเป็นตื่นตระหนก ที่นี่อยู่ใกล้เมืองหมาป่าทะเลทราย มันไม่ควรมีอันตรายแต่เหตุใดจึงมีการแจ้งเตือน

โม่หลี่เร่งกระตุ้นใช้วิธีการตรวจสอบของตน หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็แข็งค้างเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตะโกนเสียงดัง“เดินทางด้วยความเร็วสูงสุด!”

เพิ่งต้าและคนอื่นๆไม่ทราบเหตุผลแต่เมื่อเห็นการแสดงออกของโม่หลี่ซึ่งเป็นผู้นําขบวนสินค้าทุกคนจึงรีบทําตามคําสั่ง

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เมืองหมาป่าทะเลทราย พวกเขาก็พบสิ่งผิดปกติโดยไม่ต้องใช้วิญญาณอีกต่อไป

ควันสีดําม้วนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้านอกจากนี้ยังมีเปลวเพลิงและกลิ่นไหม้ในอากาศ

ทุกคนในขบวนสินค้ารู้สึกไม่ดีและรีบเคลื่อนตัวไปข้างหน้า

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงประตูเมือง

“เป็นไปไม่ได้”

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“โอ้ สวรรค์ นี่คือความฝันใช่หรือไม่? มันต้องเป็นความฝัน!”

สมาชิกขบวนสินค้าคุกเข่าลงบนพื้น บางคนทรุดตัวลงและเริ่มร้องไห้ กระทั่งโม่หลี่ยังรู้สึกมึนงง

ดวงตาของเผิงต้าเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เมืองหมาป่าทะเลทรายที่เคยเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นซากปรักหักพัง มีซากศพถูกทิ้งไว้ทุกหนทุกแห่งเศษหินเกลื่อนถนนไฟกําลังลุกไหม้และสร้างเป็นฉากที่น่าหวาดกลัว

โม่หลี่พึมพําก่อนจะวิ่งเข้าไปที่เมืองชั้นใน

การเคลื่อนไหวของเขาทําให้คนอื่นๆเริ่มวิ่งไปที่บ้านของตนเองเช่นกัน

เพิ่งต้าไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ดังนั้นเขาจึงวิ่งตามโม่หลไป

โม่หลี่รวดเร็วมาก เขาทิ้งเพิ่งต้าไว้เบื้องหลัง โชคดีที่เพิ่งถ้ารู้จักเส้นทางไปบ้านของโม่หลี่แล้ว

เมื่อเผิงต้ามาถึงบ้านของโม่หลี่ เขาพบว่ามันกลายเป็นซากปรักหักพังโม่หลี่คุกเข่าอยู่บนพื้นและมองศพของภรรยาที่เขาขุดขึ้นมาอย่างเงียบๆ

“นี่เป็นไปได้อย่างไร เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่?” เผิงตารู้สึกสับสน

เมืองหมาป่าทะเลทรายมีผู้ใช้วิญญาณจํานวนมากอาศัยอยู่ แต่มันกลับถูกทําลายล้างและกลายเป็นเมืองที่ไร้ชีวิต

ผู้ใดที่สามารถทําสิ่งนี้?

มันเกิดจากกระแสลมปราณงั้นหรือ?

แต่พิจารณาจากร่องรอย มันไม่ควรมีกระแสลมปราณเกิดขึ้นที่นี่

โลกนี้อันตรายเกินไป แม้พวกเขาจะเป็นผู้ใช้วิญญาณ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัย”เผิงตารู้สึกถึง ความไร้นัยสําคัญของตนเอง

เขามองโม่หลี่และอ้าปากหลายครั้งก่อนจะสามารถกล่าวออกมาในที่สุด “ท่านลุงเราต้องเข้มแข็งอย่าลืมว่ายังมีบุตรชายของท่าน”

ถ้อยคําเหล่านี้ทําให้ร่างของโม่หลี่สั่นสะท้านขึ้น ดวงตาของเขากลับมามีความหวังอีกครั้ง

“เผิงต้า ขอบใจที่เตือน ลูกชายของข้ายังอยู่ในเมืองชั้นใน เขาเป็นเมล็ดพันธุ์อมตะและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเขาต้องไม่เป็นไร เขาต้องได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมไปหาเขากันเถอะ!”

โม่หลี่แบกศพของภรรยาและรีบเดินทางไปยังเมืองชั้นในพร้อมกับเผิงต้า

แต่พื้นที่ของเมืองชั้นในกลับกลายเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่

หายไปอย่างสมบูรณ์!

สมาชิกขบวนสินค้ายืนอยู่รอบปล่องภูเขาไฟด้วยสายตาว่างเปล่า

โม่หลี่เดินเข้าไปหาพวกเขาและมองหลุมขนาดใหญ่ด้วยใบหน้าซีดขาวและริมฝีปากสั่นเทา

เพิ่งต้าสูดหายใจอย่างหนักหน่วง หลุมขนาดใหญ่ดูเหมือนรอยเท้าของสัตว์ร้ายรอยเท้าขนาดใหญ่หมายความว่าสัตว์ร้ายตัวนี้มีร่างกายใหญ่โตเกินจินตนาการ

“นี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์!”

“สัตว์อสูร!”

“สัตว์อสูรขนาดเท่าภูเขาโจมตีเมืองหมาป่าทะเลทรายและสังหารทุกคน!”

สมาชิกขบวนสินค้าวิเคราะห์และเริ่มร้องไห้

โม่หลี่เงียบ เพิ่งถ้าไม่รู้ว่าควรปลอบโยนเขาอย่างไร

“ฮม!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงคลื่นอากาศดังขึ้นจากบนท้องฟ้า

เสียงนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ยังไม่ได้จากไป?” เผิงตารีบเงยหน้าขึ้นและเห็นสองร่างลอยอยู่กลางอากาศ

“ผู้อมตะ!” บางคนตะโกน

“ภัยพิบัติเกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน” ผู้อมตะผู้หนึ่งกล่าว เสียงของพวกเขาดังไปทั่ว

“สัตว์ร้ายตัวนี้ทําให้ตระกูลโม่ของข้าประสบความสูญเสียครั้งใหญ่รอจนกว่าข้าจะจับมันได้ ข้า จะดึงเส้นเอ็นและถลกหนักของมันออกมาเพื่อบรรเทาความโกรธของข้า!”ผู้อมตะอีกคนกล่าวด้วยความโกรธ
“ไปเถอะ เราอาจตามมันทัน” ผู้อมตะทั้งสองรีบบินจากไป

ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่บนพื้นเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่บางคนจะเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

“ท่านพ่อท่านแม่ตายอย่างน่าอนาถ ข้าไม่สามารถแก้แค้นให้พวกท่านแต่ผู้อมตะของเราจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับพวกท่าน!”

เพิ่งต้าเงียบ เขารู้สึกว่าไร้นัยสําคัญของตนเองอีกครั้ง

“ข้าจะตามพวกเขาไป”โม่หลี่กล่าวอย่างแน่วแน่

“ท่านผู้นํา ท่านบ้าไปแล้วงั้นหรือ?” บางคนพยายามโน้มน้าว

แต่ทัศนคติของโม่หลี่ยังมั่นคง “ข้าไร้ความสามารถ ข้าไม่สามารถแก้แค้นให้กับภรรยาและบุตรชาย แต่ข้าจะเดิมพันด้วยกําลังทั้งหมดเพื่อดูความตายของคนร้ายด้วยตาของข้าเองหากข้าไม่ สามารถแม้แต่จะทําความเข้าใจสถานการณ์ข้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”

ทุกคนถูกกระตุ้นด้วยคํากล่าวของโม่หลี่

“ท่านลุง ข้าจะตามท่านไป” เผิงตากล่าว

“เจ้าควรอยู่ที่นี่” โม่หลี่กล่าวกับเผิงตา

เผิงต้าเผยรอยยิ้มขมขื่น “ท่านลง ท่านช่วยข้ามาหลายครั้ง ท่านเป็นคนใกล้ชิดที่สุดบนโลกใบนี้ของข้า ตั้งแต่ข้าติดตามท่านข้าจะไม่แยกจากท่านในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ข้าจะตามท่านไป!”

โม่หลี่มองเผิงตาก่อนจะพยักหน้า “เช่นนั้นก็ตามข้ามา”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณรีบติดตามผู้อมตะไปและทิ้งเมืองหมาป่าทะเลทรายเอาไว้เบื้องหลัง

ระหว่างทางพวกเขายังพบรอยเท้าของสัตว์ร้ายที่ถูกทิ้งไว้

หลังจากหนึ่งวันหนึ่งคืนพวกเขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้อง

“นี่ไม่ใช่เสียงฟ้าร้องแต่เป็นเสียงการต่อสู้ของผู้อมตะ!”

“ฟังให้ดี เจ้าจะได้ยินเสียงคํารามของสัตว์ร้าย”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณรู้สึกตื่นเต้นและรีบเดินทางต่อ

แต่ในเวลานี้ปราณสีดํากลับพุ่งผ่านท้องฟ้า

ผู้ใช้วิญญาณผู้หนึ่งกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาเริ่มเน่าเปื่อยในไม่ช้าร่างกายของเขาก็กลายเป็นโครงกระดูกสีขาว

ทุกคนตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงนี้และรีบหลบหนีไปทุกทิศทาง

“มันอันตรายเกินไป เราไม่สามารถเข้าใกล!”

“นี่เป็นเพียงผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างผู้อมตะกับสัตว์อสูร เราไม่มีกําลังพอที่จะต่อต้าน

“หากเราเข้าใกล้กว่านี้ เราจะเสียชีวิต”

ผู้ใช้วิญญาณส่วนใหญ่ต้องการกลับ

“ข้ายังต้องการลองดู พวกเจ้ากลับไปเถอะ” โม่หลี่เป็นคนเดียวที่ต้องการอยู่

เผิงต้าต้องการติดตามเขาแต่ครั้งนี้ทัศนคติของโม่หลี่มั่นคงมาก เขาขับไล่เผิงต้าไป

โม่หลี่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพียงล่าพังอย่างยากลําบาก เมื่อเขาปีนขึ้นไปบนเนินทรายและลอบสังเกตการณ์เขาต้องสูดหายใจลึกกับสิ่งที่เห็น

ไกลออกไปมีหมอกหนาทึกปกคลุมอยู่รอบๆ

เห็นได้ชัดว่าหมอกเหล่านี้คือพลังปราณจากก่อนหน้า ท่ามกลางกลุ่มหมอกโม่หลี่สามารถมองเห็นเงาร่างของสัตว์อสูรและสายฟ้าแลบเป็นครั้งคราว

โม่หลี่กําลังจะก้าวไปข้างหน้าแต่เขากลับถูกกดลงจากด้านหลัง

“ท่านลง ท่านอยากตายงั้นหรือ? อย่าไป ท่านจะตาย!” เพิ่งต้าตะโกน

“เหตุใดเจ้ายังไม่ไป?” โม่หลี่โกรธมาก

เพิ่งต้ากล่าวด้วยความจริงใจ “ท่านลุง ท่านคือผู้มีพระคุณของข้า ข้าจะลืมความเมตตาของท่านและมองดูท่านเดินเข้าสู่ประตูมรณะได้อย่างไรท่านลุงมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่าฆ่าตัวตาย!”

แต่โม่หลี่ไม่สน “เด็กเหลือขอ ไปให้พ้น!”

“ข้าไม่ไป!”

“เจ้าบ้า! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้ายังเด็ก เจ้ายังมีชีวิตอีกยาวไกล อย่าทิ้งชีวิตไว้ที่นี่!”

“ท่านลุง ข้าจะช่วยท่าน!”

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าช่วย แม้ข้าจะตาย ข้าก็จะแก้แค้น แม้มันจะเป็นการโจมตีที่ไร้ประโยชน์แต่ตราบเท่าที่มันปะทะตัวสัตว์ร้าย ข้าก็พอใจแล้ว!”

“คริน…”

ขณะที่ทั้งสองกําลังทะเลาะวิวาท พายุใหญ่ก็พัดมาจากระยะไกล

“บัดซบ!” โม่หลี่และเผิงตาไม่มีเวลาหลบและถูกพายุพัดพาไป

บุคคลที่ไร้นัยสําคัญทั้งสองหายตัวไปท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ํา