บทที่ 840 เผยไพ่ลับทั้งหมด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

ในทันทีที่ค่ายกลป้องกันของตระกูลหลินถูกปิดลง กองทหารของเผิงติงเทียนที่ซ่อนอยู่ก็ดาหน้ามุ่งเข้ามาที่เกาะหนานชานทันที ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเผิงติงเทียนเตรียมการล่วงหน้ามาก่อนนานแล้ว

เมื่อเห็นสถานการณ์มันกลับตาลปัตรเช่นนี้ หลินหงเหวินจึงหัวเราะขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาและหันไปพูดกับเผิงติงเทียนว่า “เผิงติงเทียน ข้าขอยอมรับเลยว่าเจ้าเตรียมตัวมาดีมากจริง ๆ!”

เผิงติงเทียนหัวเราะ “ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้าไปก่อนหน้านี้แล้วแต่เจ้ากลับโยนทิ้งมันอย่างไม่ใยดี ดังนั้นเจ้าเองก็ต้องรับกับผลที่ตามมาให้ได้! ส่วนเจ้าสหายน้อยจิตกร! ไหนเจ้าลองบอกข้ามาทีว่าเจ้าเป็นคนของสำนักไหนกันแน่ หากสำนักของเจ้าใหญ่พอข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปก็ได้ อ๋อ ข้าขอพูดเผื่อเอาไว้ก่อนว่าถ้าหากข้าปล่อยเจ้าไปจริง ๆ เจ้าก็ควรไปแต่ตัวไม่ควรนำสิ่งที่ไม่ใช่ของเจ้าตั้งแต่แรกติดตัวไปด้วย ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้าใจความหมายที่ข้าพูดจริงไหม?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “ข้าไม่เข้าใจความหมายที่เจ้าพูดเลยสักนิดและข้าก็ไม่มีความจำเป็นที่จะบอกเจ้าด้วยว่าข้าเป็นใครมาจากไหน เอาล่ะอย่าพูดอะไรให้มันยืดยาวมากไปกว่านี้อีกเลย เจ้าวางแผนจะทำอะไรไว้ก็รีบ ๆ ทำสักที”

“คนหนุ่มนี่ช่างใจร้อนซะจริง ๆ! ถ้าอย่างนั้นข้าไม่พูดอะไรต่อแล้วก็ได้!” เผิงติงเทียนหัวเราะ

ก่อนหน้านี้เผิงติงเทียนได้ส่งคนออกไปสืบหาข่าวที่อาณาเขตรอบ ๆ เกี่ยวกับตัวตนของหลิงตู้ฉิงแล้ว ซึ่งไม่มีใครได้ความคืบหน้าอะไรเลยเขาจึงเดาว่า หลิงตู้ฉิงน่าจะเป็นคนที่มาจากอาณาเขตที่ห่างไกลมาก ๆ ดังนั้นต่อให้หลิงตู้ฉิงจะเป็นคนของสำนักใหญ่จริง แต่ด้วยระยะทางที่ไกลมาก ๆ หากเขาฆ่าหลิงตู้ฉิงตายไปและกว่าที่สำนักของหลิงตู้ฉิงจะรู้ก็คงอาจจะต้องใช้เวลาเป็นร้อยหรือไม่ก็พันปี

ด้วยระยะเวลาที่นานขนาดนั้น หากเขาตั้งใจบ่มเพาะอยู่บนหอคอยเสียงสวรรค์ตลอดเวลา เขาก็คงมีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับพวกสำนักใหญ่ข้างนอกใช่ไหม?

นี่คือความคิดของเผิงติงเทียน ผู้ที่ไม่เคยรู้เลยว่าโลกภายนอกนั้นมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเขามากมายจนถึงขนาดที่ต่อให้เขามีเวลาบ่มเพาะสักแสนปี เขาก็ยังคงไม่อาจต่อกรกับสำนักมหาอำนาจได้อยู่ดี

ในอีกด้านหนึ่ง หลินหงเหวินพูดกับกงเจี้ยนฟานว่า “สหายกง วันนี้ข้าคงต้องขอร้องให้ท่านช่วยข้าสักหน่อยแล้ว!”

กงเจี้ยนฟานพยักหน้าตอบรับทันที “ไม่ต้องกังวล ตอนนี้พวกเราก็เหมือนเป็นญาติกันไปแล้ว ดังนั้นข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของทหารเมืองหนานหัวที่กำลังมาสมทบและค่ายกลป้องกันของตระกูลท่านยังคงใช้ไม่ได้อยู่แบบนี้ ข้าเกรงว่าพวกเราคงจะต้องสูญเสียกันหนักแน่นอน!”

เมื่อได้ยินกงเจี้ยนฟานเอ่ยถึงค่ายกลป้องกัน หลินหงเหวินก็อดไม่ได้ที่จะเบนสายตาไปจ้องเขม็งที่หลินซือหยวนและหลินหงตู่ พร้อมกับตวาดว่า “ซือหยวน หงตู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคงไม่เปลี่ยนใจอะไรอีกแล้ว แต่ข้าอยากจะถามพวกเจ้าสักหน่อยว่าเป็นเพราะอะไรเจ้าถึงได้หักหลังข้าแบบนี้ มันมีสิ่งใดที่ทำให้พวกเจ้าไม่พอใจจนหันหลังให้กับตระกูลได้ถึงขนาดนี้กัน?”

หลินซือหยวนและหลินหงตู่ต่างไม่ตอบกลับอะไร พวกเขาเอาแต่แสดงสีหน้าเย้ยหยันใส่หลินหงเหวิน

ในทางกลับกัน เผิงติงเทียนกลับพูดแทรกว่า “เจ้าไม่ต้องเสียเวลาถามอะไรพวกเขาให้มันมากมายนัก พวกเขาเป็นคนของข้ามาตั้งนานแล้ว แต่เพื่อเห็นแก่พวกเขาที่เคยเป็นคนของตระกูลหลินมาก่อนข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าตระกูลหลินอีกสักครั้ง หากพวกเจ้าตระกูลหลินยอมไปจากเกาะหนานชานแต่โดยดี โดยทิ้งหลินหรูซวนไว้ที่นี่ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ตามราวีพวกเจ้า!”

ในระหว่างที่พวกเขาคุยกัน กองทัพของเมืองหนานหัวก็มาถึงพอดีและเริ่มใช้ค่ายกลรบเสริมความแข็งแกร่งของพวกเขา ซึ่งมันทำให้เท่ากับว่าทางฝั่งของเผิงติงเทียนมีตัวช่วยที่มีอำนาจเท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมาอีก1!

หลินหงเหวินตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “อย่าเพิ่งได้ใจไป เจ้ายังไม่ทันได้รบกับพวกข้าสักหน่อย ดังนั้นอย่าคิดว่าพวกข้าจะยอมเจ้าง่ายขนาดนั้น สหายกงเดี๋ยวท่านกับข้าพวกเรามาร่วมมือกันรับมือกับกองทัพของเมืองหนานหัว ส่วนคนอื่น ๆ พวกเจ้าจงแยกกันไปรับมือกับผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามและจงจำเอาไว้ให้ดีว่าถ้าพวกเราแพ้ศึกครั้งนี้ มันจะหมายความว่าบ้านของพวกเราจะถูกชิงไปและทุกคนจะหมดสิทธิ์เข้าถึงหอคอยเสียงสวรรค์ไปตลอดกาล!”

กงเจี้ยนฟานขมวดคิ้วและถามกลับ “สหายหลิน แล้วเผิงติงเทียนล่ะ?”

ด้วยอำนาจของพวกเขาสองคนร่วมมือกัน กงเจี้ยนฟานมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าน่าจะสามารถรับมือกับค่ายกลรบของกองทัพเมืองหนานหัวไหว

แต่เผิงติงเทียนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงล่ะ?

ใครจะรับหน้าที่รับมือกับเขากัน?

หลินหงเหวินตอบกลับด้วยสีหน้าหม่นหมอง “สำหรับเผิงติงเทียน ข้าจะให้พ่อของข้าเป็นคนจัดการเขาเอง!”

กงเจี้ยนฟานตาโตทันที จากนั้นเขาถามกลับด้วยสีหน้าตกตะลึง “ไม่ใช่ว่าพ่อของท่านตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ!?”

หลินหงเหวินส่ายหัว “ไม่หรอกนั่นเป็นเพียงข่าวลวงที่ข้าปล่อยออกไปเท่านั้น อันที่จริงพ่อของข้าอยู่ในสภาวะจำศีลเพราะพลังชีวิตของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว และข้าคิดว่าหลังจากจบศึกนี้ พลังชีวิตของเขาน่าจะหมดลงทันทีเช่นกัน”

หลังจากพูดจบ หลินหงเหวินหยิบจี้หยกชิ้นหนึ่งขึ้นมา จากนั้นเขาก็บีบมันจนแหลกละเอียดและแค่เพียงชั่วอึดใจ ชายชราผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นออกมาจากใต้พื้นดินของเกาะหนานชานพร้อมกับถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

“ท่านพ่อ ตอนนี้พวกเรากำลังถูกโจมตีโดยเมืองหนานหัว พวกเขาต้องการจะยึดเกาะหนานชานให้ไปเป็นของพวกเขา!” หลินหงเหวินรีบแจ้งทันที

ในเวลาเดียวกัน เผิงติงเทียนก็มองไปที่ร่างของชายชราเช่นกัน ซึ่งมันทำห้าเขาอดไม่ได้ที่จะชมวดคิ้วแน่นและถามว่า “ผู้อาวุโสจ้านเผิงนี่ท่านยังไม่ตายงั้นเหรอ?”

แน่นอนว่าชายชราที่ปรากฏตัวขึ้นคือพ่อของหลินหงเหวิน หลินจ้านเผิง ซึ่งระดับการบ่มเพาะของชายชราผู้นี้อยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด

หลินจ้านเผิงกวาดสายตามองไปที่สถานการณ์รอบ ๆ ซึ่งแค่เพียงชั่วอึดใจเดียวเขาก็รู้ได้ว่าตอนนี้ตระกูลของเขากำลังตกที่นั่งลำบากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาพูดอะไรมากและลงมือโจมตีเผิงติงเทียนทันที

เขาจำเป็นต้องฆ่าเผิงติงเทียนให้เร็วที่สุดก่อนที่พลังชีวิตของเขาจะหมดลง ไม่เช่นนั้นตระกูลของเขาจะไม่มีวันพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบได้เลย

จากนั้นมหาศึกที่มีเกาะหนานชานเป็นเดิมพันจึงเริ่มขึ้น!

หลินจ้านเผิง ปะทะกับ เผิงติงเทียน

หลินหงเหวินและกงเจี้ยนฟานปะทะกับกองทัพเมืองหนานหัว

ส่วนสมาชิกของตระกูลหลินที่เหลือต่างก็แยกกันไปรับมือกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามเผิงติงเทียนมา

“บรรพบุรุษ พวกเราควรทำยังไงกันต่อดี?” หลินหรูซวนดึงแขนเสื้อของหลิงตู้ฉิง “ข้าขอร้องท่านรีบช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้กับพวกเราหน่อยจะได้ไหม หรือไม่ท่านก็เอาภาพวาดของท่านมาให้ข้าก็ได้ ข้าจะได้ใช้พวกมันช่วยปู่กับพ่อของข้าอีกแรง!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ปู่กับพ่อของเจ้าไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพวกเขาน่าจะทำให้กองทัพเมืองหนานหัวถอยได้สำเร็จ และเมื่อไหร่ที่พวกเขาทำให้กองทัพเมืองหนานหัวถอยออกไปได้ สิ่งที่ข้าได้เตรียมไว้มันจะปรากฏขึ้นเอง”

“แต่พลังชีวิตของท่านปู่ทวดกำลังจะหมดลงแล้วนะท่านบรรพบุรุษ! ต่อให้กองทัพเมืองหนานหัวจะถอยออกไปจริง แต่อีกไม่นานพวกเขาก็จะกลับมาใหม่และเมื่อถึงเวลานั้นท่านปู่ก็สิ้นใจลงไปแล้ว พวกเราจะถูกบดขยี้อย่างแน่นอน!” หลินหรูซวนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าบอกไปแล้วไงว่าข้าเตรียมการเอาไว้แล้ว ดังนั้นกองทัพเมืองหนานหัวจะปรากฏขึ้นอีกได้ยังไง? ส่วนปู่ทวดของเจ้า…”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่หลินจ้านเผิงที่พลังชีวิตใกล้จะหมดอยู่รอมร่อ จากนั้นเขาพูดว่า “เมื่อไหร่ที่ศึกนี้จบและเขาสามารถเดินมาหาข้าได้โดยที่เขายังมีลมหายใจอยู่ ข้าจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก แต่ถ้าหากเขาตาย ข้าก็พูดได้แค่ว่าสวรรค์กำหนดมาและข้าก็ไม่ควรจะไปก้าวก่าย”

แต่แล้วในระหว่างที่กำลังคุยกัน ผู้เชี่ยวชาญระดับหลุดพ้นสามัญผู้หนึ่งที่อยู่ฝั่งของเผิงติงเทียนกลับสามารถหลุดออกมาจากแนวป้องกันได้ และเขาก็พุ่งเข้ามาหาหลิงตู้ฉิง และหลินหรูซวนทันที ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของเขาคือการจับหลินหรูซวนเป็นตัวประกัน!