ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 745 รู้เช่นนี้ น่าจะขวางท่านแต่แรก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเหล่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็มั่นใจ

ไม่เพียงพวกหลัวจื้อเทาและถานจิ่นที่เป็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างเท่านั้น คังฮูหยินสามแม่ลูกและเขาต่างหายสาปสูญไปเป็นเวลานาน

ยอดฝีมือจากแต่ละที่ซึ่งพอจะรู้ตำแหน่งของทุกคนคร่าวๆ ต่างรวมตัวกันบนดินแดนหลวนเซียง เพื่อตามหาพวกนาง

บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เกิดความผิดปกติ กลายเป็นเขตแดนมายา ทำให้ประตูร่องแยกมิติของที่นี่หายไปด้วย

ยอดฝีมือจากแต่ละที่ซึ่งมาสนับสนุนโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังกริ่งเกรงกันและกัน จึงยื้อยันกันอยู่บนดินแดนหลวนเซียง ไม่มีใครกล้าวู่วาม

ตอนนี้ขณะเห็นบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ทุกคนพลันรู้สึกตัว ความสนใจต่างอยู่ที่นี่

เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง กลิ่นอายที่แข็งแกร่งที่สุดมีสองสาย เป็นปราณกระบี่ทั้งคู่

สายหนึ่งยิ่งใหญ่ทรงพลังเหมือนกับมหาสมุทร

สายหนึ่งไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด สะท้อนถึงความน่าอัศจรรย์ของกาลเวลา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นยอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ทางหนึ่งคือกู้หง ผู้คุ้มหอกระบี่ทะเลเหนือ ส่วนทางหนึ่งเป็นคนในสิบกระบี่ผู้วิเศษ

กู้หงก่อนหน้านี้ถูกยอดฝีมือฝีมือจากแต่ละพรรครุมจู่โจมได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้หายดีแล้วหรือไม่ยังบอกไม่ได้ คนที่มาสมควรเป็นเฮ่อตงเฉิง ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอกจากคังผิงกับกู้จางอีกคน

นอกจากกู้หงกับเฮ่อตงเฉิงแล้ว ใกล้ๆ ยังมีกลิ่นอายของยอดฝีมือด้านวรยุทธ์คนอื่นปรากฏขึ้นด้วย

หนึ่งในนี้ยังมีคนของสำนักแสงสว่าง และจอมยุทธ์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

ครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกออกมา พวกกู้หงก็ชะงักไป

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ทราบสถานการณ์ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ต่างคนต่างมาเพื่อตามหาคน

เยี่ยนจ้าวเกอเมื่อเห็นกู้กง ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่เมื่อคิดดูอีกที ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

กู้หงมายังที่นี่ ก็เพราะได้รับการไหว้วานจากสำนักแสงสว่าง

ถึงแม้ว่าเรื่องที่หนงอวี่ซวนสวมรอยในเหตุการณ์ค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ จะทำให้หอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักแสงสว่างไม่พอใจกัน แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ไม่ได้เป็นศัตรูคู่อาฆาต เหมือนสำนักแสงสว่างและสำนักความมืด

เยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้ว่าสำนักแสงสว่างต้องจ่ายอะไรเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับหอกระบี่ทะเลเหนือดีขึ้น แต่ก็คงจะไม่ได้มีน้อยแน่

หนงอวี่ซวนตายไปแล้ว หอกระบี่ทะเลเหนือให้อภัยสำนักแสงสว่าง ถือว่ามีเหตุผลและเห็นแก่น้ำใจ

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแม้ตอนนี้จะลดธงรบหยุดตีกลองศึก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประมุขอาคเนย์ ก่อนจะถึงเวลานั้นไม่มีใครทราบว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร

ทุกคนไม่แน่ว่าจะยังมีเวลาร่วมมือกันต้านศัตรู น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า สำนักแสงสว่างตั้งใจคืนดี หอกระบี่ทะเลเหลือก็ออกตัวช่วยอีกแรง

“เยี่ยนจ้าวเกอ?!” จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างเห็นเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัวขึ้น จิตใจก็เปลี่ยนเป็นเลวร้ายทันที

น่าเสียดาย พูดถึงด้านความสัมพันธ์แล้ว หอกระบี่ทะเลเหนือกลับใกล้ชิดเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับมหาสมุทรนั้น แผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งมาทางบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์

เจตจำนงที่ยิ่งใหญ่ดุจท้องทะเลของกู้หงเข้าปะทะในทันที คุ้มกันเยี่ยนจ้าวเกอ ขวางอีกฝ่ายเอาไว้

“สหายน้อยเยี่ยน…” กู้หงใช้สายตาสอบถามมองเยี่ยนจ้าวเกอ

ชายหนุ่มแบมือ “พวกหลัวจื้อเทากับถานจิ่นอยู่ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ แต่ว่ากระแสปั่นป่วนของมิติเวลาด้านในนั้นในตอนนี้กำลังรุนแรง พวกเขาจะออกมาได้หรือไม่ ต้องดูความสามารถของตัวเองแล้ว”

“นอกจากนี้แล้ว ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็อยู่ด้านในเช่นกัน”

กู้หงตกใจ มองไปยังบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ เห็นด้านในนั้นกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

พริบตาต่อมาก็มีเงาคนพุ่งมาจากด้านใน สภาพทุลักทุเล กลับเป็นหลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่าง

ด้วยประสบการณ์ของหลัวจื้อเทา ตอนนี้มีความรู้สึกรอดตายจากภัยพิบัติ ในใจยังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่

ยอดฝีมือของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่นำคนมายังที่นี่ ดูเหมือนแก่หง่อม แต่ว่าลูกตาปราดเปรียวและอ่อนเยาว์เหมือนกับคนหนุ่ม เป็นยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น

หลังจากเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทาออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ แต่ไม่เห็นเงาของคังฮูหยินสามแม่ลูก ก็อดร้อนรนขึ้นมาไม่ได้

เขากระตุ้นประกายกระบี่ พิรุณแสงตกลงมามากมาย ‘หยาดฝน’ กระจายไปทั่ว มิติกำลังเสื่อมสลาย

กู้หงกระตุ้นพลังฝึกปรือของตัวเองถึงขีดสุดท่ามกลางเสียงกู่ร้อง

ปราณกระบี่ยิ่งใหญ่กลายเป็นมหาสมุทรไร้ขอบเขต ลอยนิ่งอยู่กลางท้องฟ้า คลื่นน้ำสูงเท่านภา เข้าปะทะกับอีกฝ่าย

ครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทาหลุดออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อย่างปลอดภัยแล้ว กู้หงก็ไม่คิดสู้ต่อ แต่นำทุกคนสู้พลางถอยพลาง

หลัวจื้อเทาแม้จะออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ได้ แต่ก็อ่อนระโหยโรยแรง มาตรว่าจะมีกงจักรตะวันอยู่ในมือ แต่ก็ไม่อาจเข้าร่วมการต่อสู้ของยอดฝีมือในขั้นสะพานเซียนได้อีก

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมียอดฝีมือมากมาย ถ้าหากมีกองกำลังเสริม พวกเขาก็ได้แต่รับมือด้วยความอิดโรย

นอกจากนี้เมื่อเห็นหลัวจื้อเทามองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยใบหน้าเคียดแค้น กู้หงก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา

เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจ หลังจากมองหลัวจื้อเทาด้วยรอยยิ้มแล้ว ก็หันไปมองบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อีกครั้ง

เฮ่อตงเฉิงเป็นห่วงทางบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เช่นกัน เห็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับกู้หงถอยไป กลับโล่งใจลง รีบพุ่งไปยังร่องแยกมิตินั้น

ร่องแยกมิติที่เปล่งแสงระยิบระยับกำลังบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ประกายแสงส่องสว่างอย่างแปลกประหลาด

ทันทีที่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของมิติ สีหน้าของเฮ่อตงเฉิงก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เขารู้สึกได้ว่า ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ไม่เพียงแต่เชื่อมไปยังโลกเบื้องล่างใบหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อกับเขตแดนมิติเวลาอันเป็นเอกเทศแห่งหนึ่งด้วย

และเขตแดนของมิติเวลานั้น ในตอนนี้พังทลายลงไปโดยสมบูรณ์แล้ว อานุภาพอันน่าสะพรึงทำให้เฮ่อตงเฉิงที่อยู่ในขั้นสะพานเซียนยังรู้สึกหวาดกลัว

สิ่งที่ทำให้เขาร้อนใจยิ่งกว่าก็คือ ถ้าหากว่าคังฮูหยินสามแม่ลูกอยู่ด้านในเขตแดนมิติแห่งนั้น ตอนนี้ต่อให้เขาพุ่งเข้าไปในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก็ช่วยเหลือไม่ทันกาลอยู่ดี เขตแดนมิติแห่งนั้นได้พินาศลงแล้ว

เฮ่อตงเฉิงกำลังคิดจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย กลับเห็นประกายกระบี่ที่พร่างพราวถึงขีดสุดสายหนึ่ง พุ่งออกมาจากด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์

หลัวจื้อเทามองประกายกระบี่สายนั้น ใบหน้าฉายแววตกใจ

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเหนือความคาดหมายเช่นกัน ตามความเข้าใจของเขา น้ำวนสีเลือดนั้นจะพังทลายอย่างรวดเร็ว ระหว่างฝ่ายหลัวจื้อเทากับฝ่ายคังฮูหยิน จะมีแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่หนีออกมาได้

กระนั้นพอเห็นประกายกระบี่ที่พร่างพราวถึงขีดสุดนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้

เมื่อได้รับกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยจากคัมภีร์นภากาลเวลา ประกายกระบี่จะคงอยู่ชั่วกัลปาวสาน ยิ่งการฝึกปรือลึกล้ำเท่าไร ประกายกระบี่ก็ยิ่งบริสุทธิ์เท่านั้น เหมือนกับดวงจันทร์ไร้ร่องรอย

เหมือนกับความเจิดจ้าในตอนนี้ ความจริงแล้วเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา

สว่างในชั่วพริบตาเหมือนกับดาวตก

ภายใต้การนำของกู้หง ทุกคนไม่ได้หยุดนิ่งอยู่นาน ผละไปอย่างรวดเร็ว

ทางราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเหมือนถูกพันแข้งพันขาไว้ พวกเฮ่อตงเฉิงจึงไม่ได้ไล่ตาม

หลังจากออกห่างมาจากดินแดนหลวนเซียงแล้ว กู้หงก็มองเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทา “ทั้งสองท่าน เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“จะว่าไป เจ้าสำนักหลัวกลายเป็นปลาติดรากแหไปด้วยแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอบรรยายอย่างง่ายๆ “ข้ามาทำธุระที่บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสถานและคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะมาที่นี่ด้วย”

“ทั้งสองฝ่ายคิดจะจัดการข้า ข้าย่อมไม่อาจนั่งรอความตาย จึงใช้ประโยชน์จากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์รับมือพวกเขา”

เยี่ยนจ้าวเกอมองหลัวจื้อเทา “ตอนที่เห็นพวกเจ้าสำนักหลัว ข้าถึงได้รู้ว่าพวกผู้อาวุโสถานมาที่นี่เพื่ออะไร”

เขาหัวเราะขึ้น “แน่นอนว่าข้าไม่แน่ใจ ถ้าหากข้ารู้แต่แรก ข้าคงจะขวางทางกลับสู่โลกซ้อนโลกไว้ ดังนั้นหากพูดเรื่องผลลัพธ์แล้ว ก็ไม่มีอะไรต่างกันนัก”

………………..