บทที่579

เมื่อได้ยินที่เย่เฉินพูด อู๋ตงไห่รู้สึกแน่นในใจ

รู้ดีว่าเย่เฉินจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆขนาดนี้ แต่ตัวเองเสนอราคาสูงเสียดฟ้าถึงหนึ่งพันล้าน เดิมทีคิดว่าเขาเห็นแก่เงิน ก็จะไม่สนใจเรื่องขัดแย้งเล็กๆน้อยๆเมื่อกี้ซะอีก

แต่คิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่เห็นเงินมูลค่ากว่าพันล้านอยู่ในสายตา เริ่มแรก ก็ต้องการจะคิดบัญชีเก่าเมื่อตะกี้กับตัวเองแล้ว

ถ้าปกติแล้ว ต่อให้ธุรกิจใหญ่ขนาดไหน เจอกับคู่ต่อสู้ที่เจรจาอย่างนี้ อู๋ตงไห่ก็คงจะโมโหแล้วเดินจากไปแล้ว

แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่กล้าที่จะทิ้งแล้วเดินจากไปจริงๆ

เพราะว่า ในใจลึกๆของเขาไม่สามารถต้านทานความยั่วยวนของยาอายุวัฒนะได้เลย เหมือนกับติดอยู่ในกับดักของมัน ขนาดที่ว่าสมองคิดแต่ถึงมัน และเพ้อฝันถึงผลลัพธ์หลังจากที่ได้กินมันเข้าไป

ดังนั้น เขาก็แทบจะคุกเข่าลงโดยที่ไม่ลังเลเลย สองมือกำปั้น พูดกับเย่เฉินอย่างจริงจังว่า : “อาจาย์เย่ เมื่อกี้แซ่อู๋มีตาหามีแววไม่ เพื่อนร่วมงานทุกคนในจินหลิงต่างก็เคารพคุณในฐานะมังกรที่แท้จริงบนโลก คุณอย่าได้ถือสาคนทั่วไปอย่างพวกเราเลยนะ!”

อู๋ตงไห่พูดจากได้มีชั้นเชิงมาก

เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเหยียบย่ำตัวเองอีก เขาตั้งใจที่จะเทิดทูลให้อีกฝ่ายสูงส่ง ในเวลานี้ คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะถือสาเขาได้อีกต่อไป

แต่ว่า ในเวลานี้ที่เย่เฉินมีต่อสองพ่อลูกตระกูลอู๋ ไม่เพียงแต่ฉลองวันเกิดก่อนหน้านี้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาทำลายจี้ซื่อถังของซือเทียนฉีแล้ว

ความโมโหนี้ เย่เฉินจะต้องปล่อยออกไป ไม่ปล่อยออกไปก็จะไม่มีความสุข

ดังนั้น เย่เฉินมองไปที่อู๋ตงไห่ ยิ้มอย่างเฉยเมย พูดว่า : “หนึ่งพันล้านช่างมีความจริงใจจริงๆ แต่ว่าประธานอู๋ มารยาของคุณ เหมือนว่าจะสู้ลูกชายของคุณไม่ได้นะ ”

อู๋ตงไห่ตกตะลึง เข้าใจขึ้นมาทันที เย่เฉินกำลังว่าที่ตัวเองไม่ได้เคาะหัวแสดงความเคารพ

เขาไม่คิดว่าเรื่องเคาะหัวแสดงความเคารพเป็นเรื่องที่น่าขายขี้หน้าอะไร ถึงอย่างไรก็ทำเพื่อยาอายุวัฒนะ!

คิดมาถึงตรงนี้ เขาไม่หยุดคิดไตร่ตรองเลย ก้มหัวลงกราบไหว้

หลังจากที่เคาะหัวเสร็จแล้ว อู๋ตงไห่ก็เงยหน้าขึ้นมา พูดด้วยความจริงใจ : “อาจารย์เย่ คุณได้โปรดให้โอกาสแซ่อู๋อีกสักครั้ง ขอเพียงคุณยอมขายยาอายุวัฒนะให้ผม ผมจะรีบเอาเงินสดหนึ่งพันล้านโอนเข้าบัญชีของคุณทันที! ”

เย่เฉินมองเขา หัวเล่นอย่างสนุกสนาน พูดว่า : “ยาอายุวัฒนะน่ะง่าย จริงๆแล้วสิ่งที่คุณเดาไว้ก็ไม่ผิด จริงๆฉันยังมียาอายุวัฒนะ แต่เป็นยาที่ฉันเก็บไว้ให้ตัวเอง แต่ในเมื่อคุณให้ราคาที่เหมาะสม งั้นฉันก็สามารถพิจารณาขายให้คุณได้……”

พูดแล้ว เย่เฉินก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ค่อยๆหยิบกล่องไม้ขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเหมือนกับที่มอบให้คุณท่านซ่ง หลังจากที่เปิดออก ข้างในนั้นมียาอายุวัฒนะอยู่หนึ่งเม็ดจริงๆ

หลังจากที่หยิบยาอายุวัฒนะออกมาหนึ่งเม็ด เย่เฉินก็ลุกขึ้นยืน พูดกับคำที่อยู่ตรงนั้นว่า : “ทุกท่าน ยาอายุวัฒนะนี้มีความสำคัญมาก เมื่อกี้ฉันปิดบังความลับกับทุกคน หวังว่าทุกคนจะให้อภัย เวลานี้ฉันจะบอกความจริงกับทุกคน ยาอายุวัฒนะนี้ จริงๆแล้วยังมีอีกหนึ่งเม็ด แต่เม็ดนี้ฉันเตรียมไว้ให้ตัวเอง ในใจจริงๆไม่ได้จะเอาออกมาขาย แต่ประธานอู๋มีท่าทีที่ซื่อสัตย์ และให้ราคาที่สูงมาก ดังนั้นฉันจึงต้องพิจารณาให้ดีๆแล้ว”

แม้ว่าทุกคนจะโลภอยากได้ยาอายุวัฒนะนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงอย่างไร คนที่สามารถเอาเงินสดมาได้พันล้าน น้อยมาก

คาดว่าตรงนี้คงไม่เกินห้าคน

อีกอย่าง ในเวลานี้ใครบ้างที่กล้าแย่งกับตระกูลอู๋?

เพื่อยาอายุวัฒนะอู๋ตงไห่ สองพ่อลูกต่างก็คุกเข่าเคาะหัวแสดงความเคารพให้กับเย่เฉิน หากในเวลานี้เสนอราคาแย่งกับเขา งั้นคงจะต้องโดนเขาฝังใจแค้น?

อู๋ตงไห่มองไปยังเม็ดยาอายุวัฒนะนี้ ดมกลิ่นยาหมอสดชื่นที่กระจายมาจากยาอายุวัฒนะ พูดด้วยความดีใจว่า : “อาจารย์เย่ ขอเพียงแค่คุณยอมที่จะขาย เงินสดหนึ่งพันล้านก็จะเข้าบัญชีคุณทันที!”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย : “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องเม็ดยาอายุวัฒนะนี้ ยังมีอีกเรื่องที่ยังพูดกันไม่ชัดเจนเลย”

“ยังมี?”อู๋ตงไห่ขมวดคิ้วถามว่า : “เรื่องอะไร?”

ท่าทางของเย่เฉินก็ค่อยๆขรึมขึ้นมา พูดถามด้วยความเยือกเย็นว่า : “ฉันกับซือเทียนฉีล้วนเป็นเพื่อนต่างวัยที่มีมิตรภาพอย่างลึกซึ้ง พวกคุณสองคนทำลายจี้ซื่อถังของซือเทียนฉี เรื่องนี้ จะคิดบัญชียังไง?”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา คุณท่านซ่งก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วสีหน้าของเขาเคร่งขรึม โพล่งพูดไปว่า : “อู๋ตงไห่ หมอเทพซือ เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการการแพทย์ มีความรู้เรื่องการรักษา ช่วยคนมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เขาก็เป็นเพื่อนสนิทกับฉัน ทำไมคุณต้องทำลายร้านยาของเขาด้วย?!”

เมื่ออู๋ตงไห่ได้ยินประโยคนี้ รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที

คิดไม่ถึง ซือเทียนฉีเป็นเพื่อนต่างวัยที่มีมิตรภาพอย่างลึกซึ้งกับเย่เฉิน?!