บทที่ 578

ทำไมซือเทียนฉีถึงต้องเปิดจี้ซื่อถังที่จินหลิง?ไม่ใช่เพราะว่าอยากตอบแทนบุญคุณตัวเองหรอกเหรอ ดังนั้นจึงได้อยู่ที่นี่?

ผลสุดท้าย พ่อลูกตระกูลอู๋ทำลายคลินิกยาของเขาแล้ว ลมหายใจนี้ ไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไรก็กล้ำกลืนลงไปไม่ได้!

คิดไม่ถึง ในเวลานี้ อู๋ตงไห่จะพาอู๋ซินกลับมาแล้ว

อีกอย่าง เขาไม่ได้พาอู๋ซินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง แต่กลับว่าพาอู๋ซิน มาหาเย่เฉิน!

เมื่อมาถึงตรงหน้าของเย่เฉิน อู๋ตงไห่ก็รีบยกมือกำปั้นขึ้น พูดด้วยความเคารพว่า : “อาจารย์เย่ เมื่อกี้ลูกของผมมีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินคุณแล้ว ตอนนี้ผมพาเขากลับมาขอโทษคุณ หวังว่าผู้ใหญ่อย่างคุณจะไม่ถือสาเด็ก อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับเขาเลยนะครับ”

เย่เฉินเพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ กำลังโมโหอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าอู๋ตงไห่จะพาอู๋ซินมาขอโทษแล้ว เขารู้ว่าอู๋ตงไห่ต้องการยาอายุวัฒนะ ในใจก็เลยเกิดไอเดียขึ้น พูดไปอย่างนิ่งๆ : “คุณอู๋ คำพูดที่คุณกับลูกชายของคุณพูดมา ฉันก็แค่ผู้ชายจนๆที่ตกถังข้าวสาร เศษสวะจนๆ จะคู่ควรกับคำพูดของคุณชายได้ยังไงกัน?สำหรับคุณชายอู๋แล้ว เศษสวะจนๆอย่างฉัน ไม่ใช่ว่าอยากด่าก็ด่า อยากจะตีก็ตีเหรอ?”

เมื่ออู๋ตงไห่ได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้ว่าเย่เฉินไม่ได้คิดที่จะปล่อยผ่านมันไปแล้ว

ดังนั้น เขารีบเอ่ยพูดกับอู๋ซินด้วยใบหน้าที่จมลงว่า : “ไอ้ลูกสารเลว!ยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก!”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป สายตาของผู้คนมากมายก็พันมามองตรงนี้แล้ว

ในใจของพวกเขาต่างก็เกิดคำถามกันต่างๆนาๆ หรือว่าลูกชายตระกูลอู๋จะคุกเข่าลงจริงๆเหรอ?!

ในตอนนี้อู๋ซินโมโหจนขนหัวลุกซู่ เกิดไอร้อนผ่าวไปทั้งตัว!

ไม่ว่าจะพูดยังไงเขาก็คือนายน้อยตระกูลอู๋ เป็นทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของเจียงหนาน ให้เขามาคุกเข่าให้เก็บเศษสวะจนๆที่ตกถังข้าวสาร ถ้าหากมีข่าวแพร่ออกไป ต่อไปตัวเองจะมีหน้าไปเจอใครได้อีก?

ในขณะที่เขากำลังลังเล ก็เหลือบไปเห็นสายตาของพ่อที่อยู่ข้างๆทันที อู๋ซินตกใจอย่างมาก เขากลัวว่าอู๋ตงไห่จะโมโห ดังนั้นจึงทำได้เพียงกัดฟันทำ งอทั้งสองขา คุกเข่าลงกับพื้นอย่างไม่สบอารมณ์

“โอ้ คุณชายตระกูลอู่คุกเข่าลงแล้วจริงๆ!”

ในหน้างานตรงนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที!

ใบหน้าของอู๋ซินร้อนผ่าว ในใจอยากจะตายแล้ว

หลังจากที่อู๋ตงไห่เห็นเขาคุกเข่าลงก็ไม่พูดจาอะไร ตะโกนออกไปทันที : “มัวอึ้งอยู่ทำไม?ยังไม่รู้ขอโทษอาจารย์เย่อีก!”

อู๋ซินทำได้เพียงพูดงึมงำๆว่า : “อาจารย์เย่ ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัย!”

เย่เฉินพูดอย่างนิ่งๆ : “ไม่เต็มใจจะขอโทษ ไม่พูดยังจะดีซะกว่านะ ทำแบบนี้ก็จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่นด้วย จะได้ไม่ทำให้ทุกคนหมดอารมณ์”

เมื่ออู๋ตงไห่ได่ยินประโยคนี้ ในใจก็เข้าใจทันที แค่ให้ลูกชายคุกเข่า ยังไม่พอที่จะให้เย่เฉินซาบซึ้งใจ

ดังนั้น เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห ว่า : “ยังไม่รีบเคาะหัวแสดงความเคารพอาจารย์เย่ ขอร้องให้อาจารย์เย่ให้อภัย!”

อู๋ซินกัดฟันแน่น เอนกายหมอบลงพร้อมพูดว่า : “อาจารย์เย่ ขอให้คุณให้อภัยที่ฉันบุ่มบ่ามไป ขอโทษเป็นอย่างสูง!”

เย่เฉินปรากฏรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา พูดว่า : “ในเมื่อนายขอโทษฉันอย่างจริงใจเช่นนี้ งั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วกัน”

ท้ายที่สุดแล้วอู๋ตงไห่ก็โล่งอก โพล่งพูดออกไปอย่างอดใจรอต่อไปไม่ไหวแล้วว่า : “อาจารย์เย่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จะขอร้องคุณ !ไม่รู้ว่าอาจารย์เย่จะสามารถยอมสละยาอายุวัฒนะที่เป็นที่รักให้ผมได้ไหม ผมยอมจ่ายเงินหนึ่งพันล้านหยวน! ”

คนในเหตุการณ์ต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ!

เมื่อกี้ยังห้าร้อยล้าน ตอนนี้ก็เป็นหนึ่งพันล้านเพียงชั่วพริบตาเดียวแล้ว?ตระกูลอู๋มีเงินจริงๆด้วย แปดร้อยล้าน หนึ่งพันล้านในสายตาของตระกูลอู๋ ไม่ได้มีค่าอะไรเลย

ในเวลานี้เย่เฉินก็ยิ้มออกมา แล้วพูดว่า : “ประธานอู๋คิดเยอะเกินไปแล้ว อย่าว่าไปเลยตอนนี้ฉันไม่มียาอายุวัฒนะ ถึงแม้ว่ามี ก็คงขายในราคาหนึ่งพันล้านไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าขายในราคาพันล้าน ก็ไม่มีทางขายให้คุณแน่นอน!”

พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “คนอย่างฉันแค้นพยาบาทมาก ฉันเป็นคนที่จำแม่นมาก เมื่อกี้คุณเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบที่ทำร้ายหลิวกว่าง ยังบอกให้ฉันจ่ายชดเชยกับสิ่งที่เสียไป ตอนนี้กลับว่ามาขอยาจากฉัน คุณคิดว่าฉันเป็นปลาทอง มีความจำเพียงเจ็ดวินาทีงั้นเหรอ?”