ตอนที่ 953: พิจารณาคดีกับผู้อาวุโสทั้งสอง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 953: พิจารณาคดีกับผู้อาวุโสทั้งสอง

การกลับมาอย่างกะทันหันของเจี้ยนเฉินทำให้ผู้นำเผ่าไทฮงอึ้งไปเล็กน้อย แต่เขาก็กลับมาได้สติอย่างรวดเร็ว เขาหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วพูดว่า “อ้าว บังเอิญจริง ข้ากำลังสงสัยเลยว่าผู้คุมกฎสบายดีหรือไม่จากการไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด”

เจี้ยนเฉินและนูบิสยืนอยู่ห่าง 5 เมตรจากเขา เจี้ยนเฉินมองไปที่เขาอย่างสงบแล้วพูด “ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไทโตว ห้าปีมาถึงแล้วในตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องมาจบเรื่องระหว่างพวกเรากัน”

เจี้ยนเฉินได้ไปยั่วยุจอมยุทธคนอื่นของเผ่าไทฮงเพราะว่าเขาไปเรียกชื่อของผู้นำเผ่าของพวกเขาตรง ๆ เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ชี้ไปที่เขาแล้วตะโกนออกมา “เจ้ากล้าที่จะมาเรียกชื่อของผู้นำเผ่าของพวกเราตรง ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน ! เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วงั้นหรือ ? ทำไมเจ้าไม่รีบมาขอโทษล่ะ ? ถ้าคิดเรื่องที่เผ่าเต่าของเจ้าจะเป็นสาขาของเผ่าไทฮงในไม่ช้า ข้าจะยกโทษให้กับความไม่เคารพของเจ้า ถ้าเจ้าขอโทษ”

ในตอนนี้ ทุกคนจากกลุ่มของเผ่าไทฮงเริ่มที่จะปฏิบัติต่อเผ่าเต่าเหมือนว่าเป็นเผ่าสาขาของตัวเองมานานแล้ว แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นผู้คุมกฎ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ควรค่าแก่การเคารพในสายตาของพวกเขา เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้ว เผ่าเต่านั้นเต็มไปด้วยคนที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งแต่อ่อนแอในเรื่องการโจมตี พวกเผ่าเต่าไม่ได้มีอันตรายมากเท่าไร

แววตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเย็นชา แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือทำอะไร นูบิสก็ได้พุ่งเข้าไปที่คนหนึ่งเหมือนลำแสงสีทอง ก่อนที่คนผู้นั้นจะทันได้ตั้งตัว นูบิสก็ใช้มือของเขาแทงเข้าไปที่หน้าอกของจอมยุทธของเผ่าไทฮงและกระชากเอาหัวใจของคนผู้นั้นออกมา

“อ้าก ! ” คนคนนั้นร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าเวทนา เขาเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน แต่ว่ามันยังไม่เพียงพอที่จะจบชีวิตของเขาลง ความเจ็บปวดที่ถูกดึงหัวใจออกไปนั้นยากเกินกว่าจะทน

นูบิสบีบหัวใจแหลกคามือในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่คนผู้นั้น “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าจะได้รับในการดูหมิ่นพี่น้องของข้า ครั้งต่อไป ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ จะฆ่าเจ้าซะ” นูบิสเย็นชาและไม่ได้แสงความเคารพใดใดต่อเผ่าไทฮงเลย

บรรยากาศอึมครึมทันทีหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่มือที่เปื้อนเลือดของนูบิสและกลัวจับใจทันที

ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามตกใจในความเหี้ยมโหดของนูบิส เขาต้องทรงพลังและกล้าหาญมากถึงขนาดกล้าควักหัวใจของบางคนออกมาต่อหน้าผู้นำเผ่าไทฮง

สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งตกใจมากกว่าคือความแข็งแกร่งของนูบิสที่เขาได้ระเบิดออกมา มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเลย

ไทโตวหน้าซีด เขาไม่สามารถบอกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของนูบิสได้ก่อนหน้านี้ และไม่คิดว่าเขาจะโจมตีไปที่คนของเผ่าเขาอย่างกะทันหันแบบนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงไม่ได้ใส่ใจ และทำให้นูบิสทำให้คนของเขา 1 คนบาดเจ็บต่อหน้าเขา

“เจ้าช่างพูดจาใหญ่โตจริง แสดงให้ข้าเห็นสิว่าเจ้าแน่แค่ไหนถึงได้กล้าทำตัวโอหังแบบนี้ต่อหน้าข้า” ผู้นำเผ่าคำรามออกมา จิตสังหารที่แหลมคมปรากฏขึ้นที่ตาของเขาทันที

“ไทโตว ข้าเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า” เจี้ยนเฉินกันนูบิสเอาไว้และจ้องอย่างไร้อารมณ์ไปที่ผู้นำเผ่า

ความสุภาพของไทโตวหายไปทันที เขาเย้ยออกมาทันที “ดีถ้างั้น ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ให้ข้าปราบเจ้าก่อนที่จะไปสอนบทเรียนให้เจ้าหนูนั่น”

เจี้ยนเฉินเย้ยกลับไปเช่นกัน “ไทโตว อย่าลืมเกี่ยวกับข้อตกลงของพวกเรา ถ้าข้าแพ้ในการต่อสู้นี้ เผ่าเต่าจะจเป็นของเผ่าไทฮง แต่ถ้าเจ้าแพ้ มันจะกลับกัน” เจี้ยนเฉินขึ้นไปที่ท้องฟ้าทันทีที่เขาพูดจบ

“เอาล่ะ ถ้าข้าแพ้ เผ่าไทฮงจะอุทิศตัวให้กับเผ่าเต่า แต่ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้งั้นหรือ ? ” ไทโตวเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินดี แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะได้เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเหนือกว่าระดับ 14 ดาว อย่างมากที่สุด เขาก็เป็นได้แค่ในขั้นสูงสุดของ 14 ดาว เขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะอยู่ในระดับที่สามารถสูสีกับเขาได้ในระยะเวลา 5 ปีอันสั้นนี้

เพื่อที่จะไม่ให้คนในเผ่าได้รับบาดเจ็บ เจี้ยนเฉินและไทโตวจึงพุ่งขึ้นไปหลายสิบกิโลเมตร พวกเขาหยุดอยู่ที่แนวภูเขา ในขณะที่ จอมยุทธจากทั้งสองเผ่ารีบตามไปดูรอบ ๆ

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ข้าจะไม่รังแกเจ้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าโจมตีก่อน 10 กระบวนท่า” ไทโตวพูดออกมาอย่างเย่อหยิ่งในขณะที่เขาลอยกอดอกอยู่กลางอากาศ

นูบิสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเขาได้ยินทุกสิ่งที่ไทโตวพูด นูบิสพูด “เจี้ยนเฉิน เจ้าได้ยินหรือไม่ ? เขาบอกว่าจะให้เจ้าโจมตีก่อน 10 กระบวนท่า อย่าทำให้เขาผิดหวังล่ะ”

มุมปากของเจี้ยนเฉินบิดไปด้วยความเย้ยหยันในขณะที่เขามองไปที่ไทโตวด้วยความเหยียดหยาม “ไทโตว เจ้าไม่จำเป็นต้องต่อให้ข้าถึง 10 กระบวนท่าโจมตี เพียงการโจมตี 1 กระบวนท่าจากกระบี่ของข้าเท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส” ในขณะที่เจี้ยนเฉินพูด พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลก็พวยพุ่งออกมาจากเจี้ยนเฉิน มันเป็นพลังจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ในเวลาเดียวกัน ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา มันเริ่มเปล่งประกายจ้าสีดำและเติมเต็มพื้นที่รอบ ๆ ไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง มันสร้างความกดดันอย่างมหาศาลไปรอบ ๆ ทำให้ท่าทางของคนที่สังเกตการณ์อยู่เปลี่ยนไปอย่างมาก

ในตอนนี้เอง สายตาของทุกคนที่มองไปยังเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนไป รวมถึงไทโตวด้วย ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวลึกลึกและความเหลือเชื่อ

เจี้ยนเฉินยกยุทธภัณฑ์จักรพรรดิขึ้นมาด้วยมือขวาของเขา และมันก็เปล่งประกายไปด้วยปราณกระบี่ที่สูงส่งทันที เขาฟันมันห่างออกไปหลายร้อยเมตร และยิงปราณกระบี่ที่ทรงพลังซึ่งกลายเป็นแสงสีดำ มันลอยไปทางไทโตว

ไทโตวเคร่งเครียดอย่างไม่รู้ตัว เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังของการโจมตีและไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาขับพลังของเขาทั้งหมดออกมา และใช้พลังธรรมชาติที่รวมตัวกันเป็นโล่วงกลมกว้าง 3 เมตรเพื่อป้องกันปราณกระบี่ที่กำลังพุ่งเข้ามา

บู้ม ! ทันทีที่โล่สัมผัสกับปราณกระบี่ มันก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยเสียงอันดัง ในขณะที่ปราณกระบี่ยังคงพุ่งต่อไปอย่างกำลังไม่ลดลง มันพุ่งต่อไปที่ไทโตวและผ่านหน้าอกของเขาไป

“อ้าก ! ” ไทโตวร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด เขาทรงตัวอยู่กลางอากาศไม่ได้อีกต่อไปและหล่นลงมาจากท้องฟ้า เขากระแทกลงที่พื้นอย่างแรง

ทุกคนนิ่งอึ้งหลังจากที่เห็นแบบนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ ที่มาจากเผ่าไทฮง พวกเขาตกตะลึงเป็นที่สุด ไทโตวเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่า แต่เขายังพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว พวกเขายากที่เชื่อเรื่องที่เหนือจินตนาการที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้

จอมยุทธจากเผ่าเต่ารวมถึงผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามทั้งหมดตาโตเช่นกัน พวกเขาจ้องออกไปอย่างเหลือเชื่อและยากที่จะยอมรับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้

ผู้นำเผ่าไทฮงเป็นจอมยุทธ 16 ดาว แต่เขายังไม่สามารถรับการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากผู้คุมกฎเผ่าเต่าได้ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

เจี้ยนเฉินลดตัวลงจากท้องฟ้าและมาถึงตรงหน้าไทโตว “เจ้ายอมแพ้หรือไม่ ? “

ไทโตวหน้าซีดและลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยตัวที่สั่นเทา ในขณะที่ความกลัวแผ่กระจายอยู่ในดวงตาของเขา เขาพูดอย่างเศร้าโศก “ข้าแพ้แล้ว จากนี้เป็นต้นไป เผ่าไทฮงของข้าจะเป็นของเผ่าเต่า”

“พวกเรากลับกันเถอะถ้างั้น” เจี้ยนเฉินพูดกับไทโตว หลังจากนั้น เขาก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนกลับไปที่เผ่าเต่า

ชัยชนะของผู้คุมกฎเผ่าเต่าที่มีเหนือผู้นำเผ่าไทฮงได้กระจายไปทั่วทั้งเผ่าอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาทั้งหมดยินดีอย่างมาก ความยินดีปรากฏอยู่ทุกที่ในตอนนี้ แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่พูดคุยกันเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของผู้คุมกฎที่มีในตอนนี้

คนที่ตำแหน่งสูงของเผ่าเต่าได้รวมตัวกันอยู่ที่โถงพร้อมกับคนของเผ่าไทฮงและเจี้ยนเฉินด้วย เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนบัลลังก์ในขณะที่เขาจ้องลงมาด้วยสายตาที่แหลมคม เขามีพลังที่ปฏิเสธไม่ได้

“ไทโตว บอกทุกคนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เจ้ามีกับผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามออกมาซะ ทำไมพวกเขาถึงพูดแทนเจ้าตลอดเลย ? ” เจี้ยนเฉินจ้องเขม็งไปที่ไทโตวที่อยู่ด้านล่าง

ท่าทางของผู้อาวุโสทั้งสองเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขารู้ได้ทันทีว่าเจี้ยนเฉินจะต้องต่อต้านพวกเขาแน่ พวกเขากดไม่ได้ที่จะเสียดายที่ครั้งหนึ่งเคยต่อต้านเจี้ยนเฉินในทุกเรื่อง แต่มันก็สายไปแล้วในตอนนี้

ผู้อาวุโสสองยืนขึ้นแล้วอธิบายทันที “ผู้คุมกฎ อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรโดยไม่มีมูลเลย ถูกต้อง ที่พวกเราทั้งสองมีบางอย่างที่ทำให้ผู้คุมกฎไม่สบายใจ แต่พวกเราก็คิดถึงแต่เผ่าในการที่มีเรื่องกับเผ่าไทฮง พวกเราไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะสู้กับเผ่าไทฮงได้ด้วยความแข็งแกร่งของเราในตอนนั้น ถ้าเราทำสงคราม เผ่าเต่าจะต้องสูญเสียอย่างมากเป็นแน่”

“ผู้อาวุโสสองพูดถูก ตอนที่พวกเรายอมแพ้เผ่าไทฮงก่อนหน้านี้ พวกเราคิดถึงแต่เผ่าเต่า พวกเราไม่ได้มีเจตนาอื่น ได้โปรดคิดถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ด้วย อย่าให้ร้ายคนบริสุทธิ์เลย” ผู้อาวุโสสามอธิบายออกมาเช่นกัน พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดกับเจี้ยนเฉินแบบก่อนหน้านี้ ในตอนนี้พวกเขามีความนอบน้อมกว่าเดิมมาก

เจี้ยนเฉินไม่สนใจผู้อาวุโสทั้งสองและถามไทโตว “ไทโตว อธิบายว่ามาว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไร ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่โกหก เพราะเจ้าคงจะรู้ผลลัพธ์ดี”

ไทโตวลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะยืนขึ้นมาจากที่นั่ง เขาป้องมือไปที่เจี้ยนเฉินแล้วพูด “ข้าขอตอบผู้คุมกฎ ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามได้รับสินบนจากเผ่าไทฮงไว้เมื่อหลายปีที่แล้ว และพวกเขามีข้อตกลงกับเผ่าไทฮง ทันทีที่ผู้อาวุโสสูงสุดตายไป พวกเขาจะนำเผ่าเต่าให้มาเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าไทฮง”

“อะไรนะ ! ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามเป็นหนอนบ่อนไส้ พวกเขาเป็นผู้ทรยศของเผ่าเต่า ! ” เสียงอุทานดังขึ้นมาในโถง ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก

“เจ้าโกหก ผู้คุมกฎ อย่าไปฟังคำลวงของไทโตว เขาต้องการที่จะให้พวกเราทะเลาะกันเองและให้เผ่าเต่าสู้กันเอง”

“ไทโตวกำลังโกหก ท่านจะเชื่อคำพูดของเขาไม่ได้นะ”

ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามปากแข็งและไม่ยอมรับ พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาจะโดยลงโทษแบบไหนถ้าพวกเขาสารภาพ

เผ่าเต่ามีอยู่มานานมากมากแล้วและมีกฎที่เข้มงวด และผลลัพธ์ของคนทรยศก็ถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนในนั้น

ไทโตวดึงเอาชิ้นหนังสัตว์ขึ้นมาและพูด “ผู้คุมกฎ นี่เป็นข้อตกลงที่เผ่าของข้ามีกับผู้อาวุโสในตอนนั้น ลายวิญญาณยังคงสลักอยู่ในนี้ มันเป็นของจริงแน่นอน”

เจี้ยนเฉินโบกมือและแผ่นหนังสัตว์ก็บินมาที่มือของเขาทันที เมื่อเขาอ่านทั้งหมดแล้ว ใบหน้าของเขาก็หมองลง เขาโยนมันไปที่คนด้านล่างแล้วพูด “ทุกคนดูซะ ! “

แผ่นหนังสัตว์ถูกส่งผ่านไปยังทุกคน ในไม่ช้า ทุกคนก็อ่านมันหมด และพวกเขาก็แสดงท่าทางน่ากลัวออกมาหลังจากนั้น

ทั้งผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามหน้าซีด ความสิ้นหวังทอดอยู่ในดวงตาของพวกเขา

เซียนผู้คุมกฎเดินออกมาในตอนนี้และป้องมือไปที่เจี้ยนเฉิน “ผู้คุมกฎ ข้าเป็นผู้อาวุโสที่มีหน้าที่คุมกฎ ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามร่วมมือกับคนนอกและต้องได้รับการลงโทษในการทรยศ พวกเขาจะต้องไม่ถูกยกโทษและจะได้รับโทษตาย”