“ไม่……..” ผู้อาวุโสหยางกรีดร้องด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง จากนั้นร่างครึ่งร่างของตัวเองก็หายไป สุดท้าย ทุกคนก็ได้หายไปจากพื้นที่ตรงนี้

เฉินโม่ที่ยืนอยู่ในความว่างเปล่า มองไปยังค่ำคืนที่ค่อยๆมาเยือน ด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้าอย่างมาก

“ครั้งนี้ได้ใช้เคล็ดวิชาสองอย่างมารวมกัน ทำให้ต้องใช้พลังอย่างมหาศาล และเกิดความเสียหายต่อชีวิตของฉัน”

“ดูเหมือนจะต้องหาของล้ำค่ามาบำรุงพลังชีวิตหน่อยแล้ว!”

เฉินโม่เหลือบมองไปยังยอดเขาที่อยู่ด้านข้าง พบว่าพลังนั้นได้ไปไกลแล้ว เขาก็เลยไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แล้วรีบบินไปยังปากทางหุบเขา

“ครั้งนี้ก็ถือว่าได้สร้างความบาดหมางไว้กับสี่สำนักใหญ่แล้ว”

เฉินโม่มาถึงที่ปากทางหุบเขา เห็นเอียนชิงเฉิงที่ยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่กำลังมองเขา “ไปเถอะ!”

“ค่ะ!” บนใบหน้าที่งดงามของเอียนชิงเฉิง ปรากฏขึ้นด้วยความดีใจ

เฉินโม่พาเอียนชิงเฉิงกลับไปยังกลุ่มคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง เฉินโม่ปลีกวิเวกฝึกฝน ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

โลกภายนอก เฉินโม่ที่ฆ่าแดนเทพแปรร่างแปดคน แดนเทพแปรพลังสิบสองคน ยังมีปรมาจารย์แดนคุ้มกายอีกหลายสิบคน ความเหิมเกริมของโลกบู๊โบราณ ก็ได้หยุดลงในทันที

ก่อนหน้านี้ อย่างเรื่องที่แย่งสำนักซานเหอ มันได้เกิดขึ้นทั่วสารทิศของชนเผ่ามังกร สำนักซานเหอถือว่าโชคดี พอดีที่เฉินเยว่กับเฉินโม่รู้จักกัน สำนักที่ไม่รู้จักเฉินโม่ ถูกโลกบู๊โบราณฆ่าทำลายล้างสำนักโดยตรง

แต่ว่าตอนนี้ ไม่ได้ยินเรื่องที่คนของโลกบู๊โบราณฆ่าคนเป็นว่าเล่นอีก

การต่อสู้ของเฉินโม่ในครั้งนี้ ราวกับว่าได้ฆ่าจนคนของโลกบู๊โบราณกลัวไปแล้ว

หญิงสาวชุดดำหลังจากที่หนีกลับไปได้ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บนเขาด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของชนเผ่ามังกร ที่ตรงนั้นก็มีพลังป้องกันเขตแดน คล้ายกับของสำนักคงต้อง

เพียงแต่ว่า ในพื้นที่เขตแดนต้องห้าม มีคนแค่สามคน ชายชุดดำหนึ่งคน หญิงชุดดำสองคน

“อาจารย์ ครั้งนี้เฉินไต้ซือหนีไปได้อีกแล้ว!” หญิงชุดดำร่างเตี้ยที่ยืนอยู่บนยอดเขามาโดยตลอด พูดอย่างขุ่นเคือง

หญิงชุดดำร่างสูงสีหน้าซีดขาวได้พูดขึ้น “พวกเธอสองคนตั้งใจฝึกให้ดี ฉันไปรักษาตัวก่อน”

“ครับ ค่ะ อาจารย์!”

หลังจากที่หญิงชุดดำไปแล้ว ชายชุดดำที่นั่งขัดสมาธิอยู่ ก็ลืมตาขึ้นมา

ถ้าหากเฉินโม่อยู่ที่นี่ ต้องเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน เพราะชายหนุ่มคนนี้เป็นคนคุ้นเคยของเขา

พื้นดินที่กว้างใหญ่ของเผ่ามังกร ความสงบที่หายากได้บังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเจียงเหอซานและพวกก็ไม่กล้าที่จะผ่อนปรน บางทีมันอาจจะเป็นความสงบก่อนที่คลื่นลมฝนจะมา

อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเฉินโม่เลย เฉินโม่ปลีกวิเวกฝึกฝนอยู่ ครั้งนี้บาดเจ็บไม่น้อย บวกกับอาการบาดเจ็บตอนที่ทะลวงแดนยังไม่หายขาด เฉินโม่ปลีกวิเวกไปครึ่งเดือนอาการถึงดีขึ้นเล็กน้อย

ครึ่งเดือนให้หลัง เฉินโม่ออกการปลีกวิเวกแล้ว

เฉินซงจื่อได้รออยู่นอกห้องนานแล้ว

“ขอแสดงความยินดีที่อาจารย์ออกจากวิเวก!”

เฉินโม่กล่าว “ไม่ต้องมากพิธี ช่วงนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย?”

เฉินซงจื่อกล่าว “อาจารย์สบายใจได้เลย ผมได้ติดต่อกับท่านประธานทุกวัน ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ!”

เฉินโม่ถาม “แล้วทางตระกูลเฉินล่ะ?”

เฉินซงจื่อกล่าว “ไม่มีอะไรเลย มีเพียงแต่คุณท่านเฉิน ที่เมื่อวานตีฝ่าแดนคุ้มกายได้สำเร็จแล้ว”

เฉินโม่ประหลาดใจเล็กน้อย “มันช่างคาดคิดไม่ถึงจริงๆ พรสวรรค์ด้านการฝึกฝนของคุณปู่ดีที่สุดในกลุ่ม!”

ความรวดเร็วในการฝึกฝนของเฉินกั๋วเหลียง เมื่อเทียบกับเฉินโม่ไม่ได้ด้อยกว่าเลย ถึงขั้นเร็วกว่าเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามความสามารถของเฉินกั๋วเหลียง โดยธรรมชาติแล้วก็ยังสู้ของเฉินโม่ไม่ได้ แต่ว่าสามารถถึงปรมาจารย์แดนคุ้มกายในเวลาอันสั้น หากให้คนของโลกบู๊โบราณรู้ เกรงว่าคงเป็นที่ฮือฮาของโลกบู๊โบราณทั้งโลก

เฉินซงจื่อยังคงรายงานต่อเนื่องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ “อาจารย์รวบรวมกองกำลังทั้งหมด ก่อตั้งสำนักโม่ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางแล้ว”

“เพียงแต่ว่าคุณมู่ของสำนักยาเซียน สองวันก่อนได้เคยโทรมาถามสถานการณ์ของอาจารย์ ผมแจ้งเขาไปว่าคุณยังปลีกวิเวกอยู่ เขาให้ผมแจ้งเขาหลังจากที่คุณออกมาแล้ว คาดว่าจะมีธุระ”

เฉินโม่ครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “มู่เจิ้งเฟิงหาฉัน? เขาไม่ได้บอกว่าเขามีเรื่องอะไรเหรอ?”

“ไม่ได้บอกครับ แค่ให้ผมแจ้งเขาเมื่อคุณออกมาแล้ว!” เฉินซงจื่อกล่าว

มู่เจิ้งเฟิงรับผิดชอบดูแลสำนักยาเซียน หรือว่าคนของโลกบู๊โบราณอยากได้สำนักยาเซียน?

“ฉันจะโทรหาถามเดี๋ยวนี้”