บทที่ 857 คุณแสนรัก คุณทำอะไรอยู่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 857 คุณแสนรัก คุณทำอะไรอยู่?
แต่ครั้งนี้ วีแชทของเธอกลับถูกเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

[แสนรัก: เธอไม่ได้อยู่ที่เดอะวิวซี?]

[คิตตี้: อ่า…]

[แสนรัก: เธออยู่ที่ไหน? ใครใช้ให้เธอไป?]

[คิตตี้: …]

ตัวอักษรสั้นๆ ไม่กี่คำ เส้นหมี่นิ่งอยู่ตรงนั้น เธอถูกคำพูดดุดันและน้ำเสียงที่เหี้ยมโหดที่สามารถรู้สึกได้ผ่านหน้าจอ มองดูจนทำให้พูดไม่ออกสักคำ

ไม่ใช่ เธอได้อธิบายกับเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

เขาไม่ใช่ว่าตอบกลับคำพูดที่แล้งน้ำใจไม่กี่คำนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ?

งั้นตอนนี้นี่มันคืออะไร? ทำไมดูท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องเลยสักนิด?

เส้นหมี่มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้เริ่มแก้ตัวอีกครั้ง

[คิตตี้: …ฉันออกมาเองค่ะ คุณไปฝึกซ้อม ฉันอยู่ที่เดอะวิวซีก็ไม่มีอะไรทำ จึงกลับมาทำงานที่โรงพยาบาล]

[แสนรัก: …]

[คิตตี้: คุณวางใจได้ เมื่อคุณกลับมา ฉันก็จะกลับไปทันทีค่ะ]

เธอรีบพิมพ์ประโยคนี้ออกมา เหมือนกับว่าอยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้ และก็กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ยินยอม

ยังดีที่ครั้งนี้ หลังจากเธอส่งข้อความนี้ไป ผ่านไปไม่กี่วินาทีฝ่ายตรงข้ามก็ตอบกลับ “อวดดี” ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่เย็นชา แต่สำหรับเธอก็ดีมากแล้ว

เธอเคยคิดไว้ เวลานี้ ในเมื่อเธอไม่แน่ชัดว่าทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องนี้

เช่นนั้น เธอยังไม่ต้องบอกกับเขาก่อนชั่วคราว

เพราะว่า เธอไม่รู้ว่าในนี้แอบแฝงอะไรอยู่ ตอนที่ไชยันต์บีบบังคับให้เธอจากไป คำที่พูดออกมาไม่น่าฟังขนาดนั้น เธอส่งข้อความขอความช่วยเหลือถึงผู้ชายคนนี้ ที่ตอบกลับมา ท่าทางกลับไม่เหมือนกับตอนนี้เลยสักนิด

ในนี้จะต้องมีอะไรลับลมคมในแน่นอน

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ยังไม่ต้องพูดก่อนชั่วคราว

เส้นหมี่วางโทรศัพท์ลง คืนนี้ เธอนอนหลับสบายมาก

และที่เธอไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เธอหลับลง ทางด้านกองทัพ แสนรักก็วางโทรศัพท์ลง แม้แต่หยดน้ำบนเส้นผมก็ยังไม่ได้เช็ด เขาเปิดประตูห้องอย่างแรง แล้วจ้องมองไปทางคนที่เฝ้าเขาอยู่ด้านนอก

“นี่ก็คือเป้าหมายที่พวกนายควบคุมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของฉัน?”

“อะ…อะไรนะครับ?”

รองผู้นำเดชาที่กำลังอยู่ด้านนอก จู่ๆ ได้ยินคำพูดนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที

หลายวันมานี้ พวกเขาควบคุมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเขาจริงๆ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ จนถึงโน๊ตบุ๊ก พวกเขาไม่ให้เขาใช้ทั้งหมด เหตุผลก็คือกำลังฝึกซ้อม ของพวกนี้ไม่จำเป็น

และคืนนี้ ก็เป็นเพียงเพราะเด็กสองคนจะโทรศัพท์หาเขา

“คุณชายน้อยครับ คุณ…เข้าใจผิดแล้วครับ พวกเราไม่ได้ควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ พวกเราไม่ให้คุณ เพียงเพราะคุณฝึกซ้อมอยู่ตลอด ไม่มีเวลาใช้งานครับ”

รองผู้นำเดชายังไม่เต็มใจที่จะยอมรับ

ผลปรากฏว่า เพิ่งพูดจบ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสลัวคนนี้ ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ยังมีหยดน้ำไหลอยู่ของเขา เผยรอยยิ้มเย้ยหยันเย็นชาจนน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“ได้ งั้นนายอย่าให้ฉันพบเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง”

“…”

“ถ้าหากมีครั้งที่สอง ฉันรับรอง นายจะต้องเสียใจที่ส่งฉันมาที่นี่แน่นอน!”

แสนรักจ้องมองมาที่เขาภายใต้ความมืดราวกับปีศาจร้ายแล้วพูดประโยคนี้จบ จากนั้นก็ปิดประตูลงดัง “ปัง”

รองผู้นำเดชามองดูอยู่นิ่งนิ่ง

เป็นเวลานาน แสงไฟตรงประตูบานนี้ดับลงแล้ว เขายืนอยู่ตรงนั้นใบหน้าก็ยังซีดขาวเหงื่อซึม!

คำพูดนี้ น่าหวาดกลัวมากจริงๆ

เพราะว่า เขารู้ว่าแสนรักเป็นคนยังไง ยิ่งรู้ว่าตอนที่เขาคลุ้มคลั่งขึ้นมา น่ากลัวขนาดไหน

รองผู้นำเดชาเริ่มเสียใจเป็นครั้งแรกกับเรื่องที่ตัวเองเคยทำ…

วันต่อมาเส้นหมี่มาถึงที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า

“คิตตี้ คุณแน่ใจว่าเมื่อวานไวท์รอนคนนั้นขอนมกับไข่ไก่กับคุณ? ฉันบอกอะไรกับคุณ เมื่อคืนฉันแจ้งกับครอบครัวของเขาแล้ว แต่วันนี้ครอบครัวของเขานำของพวกนี้มา กลับถูกเขาโยนทิ้งทั้งหมด”

เธอเพิ่งมาถึง หมอนัทหมอฝึกหัดที่รับผิดชอบร่วมกับเธอก็วิ่งมาแล้วโอดครวญ

เส้นหมี่ตะลึง

ทิ้งแล้ว?

นี่จะเป็นไปได้ยังไง? เมื่อวานตอนที่เธอออกมา ผู้ป่วยคนนี้พูดกับเธออย่างชัดเจนว่าจะกินของพวกนี้

เส้นหมี่งุนงง จากนั้นก็รีบไปแผนกอายุรกรรมที่แผนกผู้ป่วยใน

เป็นจริงด้วย มาถึงที่นี่ เธอก็เห็นหญิวัยกลางคนที่แต่งตัวหรูหรา กำลังเกลี้ยกล่อมผู้ป่วยที่ถูกย้ายมาที่ห้องพักผู้ป่วยธรรมดาอยู่ตรงที่ประตู

“ก็ได้ก็ได้ ไม่กินก็ไม่กิน ลูกอย่าโมโห”

“ไสหัวออกไป

เสียงดุด่าที่ไม่ไว้หน้าดังขึ้น

ทันใดนั้น ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ก็หน้าม่อยคอตกถูกด่าออกมาจากห้องพักผู้ป่วย

เส้นหมี่เดินมา หลังจากที่เห็นทุกคนถูกด่าออกไป ภายในห้องพักผู้ป่วยที่ว่างเปล่าเหลือเพียงวัยรุ่นที่นอนโมโหอยู่บนเตียง เธอเดินมาตรงหน้าเตียงของเขายังสงสัย

“คุณไวท์รอนคะ นมกับไข่ไก่ เมื่อวานคุณเป็นคนบอกกับฉันว่าอยากทานไม่ใช่เหรอคะ?”

“…”

เพียงแค่ประโยคนี้ สายตาของวัยรุ่นคนนี้ก็ถลึงตามองมาทางเธอ

“ผมให้คุณซื้อ ไม่ได้ให้พวกเขาซื้อสักหน่อย!”

“อ้าว?”

เส้นหมี่ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ

เธอซื้อ กับครอบครัวของเขาซื้อแตกต่างกันตรงไหน? หรือว่าเด็กที่โตมาในตระกูลใหญ่โต ชอบพาลหาเรื่องขนาดนี้

เส้นหมี่เกิดความไม่พอใจเล็กน้อย

“คุณไวท์รอนคะ ฉันเป็นแค่หมอแผนกผู้ป่วยในของคุณ ทางด้านอาหารการกินและการดำรงชีวิต ฉันไม่ได้รับผิดชอบ อีกอย่างอาหารนี้ อันที่จริงตอนนี้คุณทานไม่ได้ เมื่อวานที่รับปากคุณ ก็เพื่อรักษาอารมณ์ของคุณ ให้คุณฟื้นฟูได้ดีขึ้น”

เส้นหมี่ขมวดคิ้ว เธอพูดความจริงกับผู้ป่วยคนนี้ไปเลยดีกว่า

ผลปรากฏว่า เพิ่งพูดจบ วัยรุ่นคนนี้ที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าเคร่งขรึมลงอย่างรวดเร็วในทันที