บทที่ 2003 ท่านผู้นำที่ก้าวราวดุดัน
“ฉันจะให้พวกนายไปจับนายแห่งอาชูร่ามาให้ฉันต่างหาก…”
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งตะโกนประโยคนี้จบ จากนั้นซือเยี่ยหานกับหลินเชวียก็ก้าวเข้ามาจากทางประตูหลังแล้ว
เงาร่างของคนทั้งสองซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ได้ยินประโยคนี้ของเยี่ยหวันหวั่นเข้าพอดี
ซือเยี่ยหานถึงกับชะงักไป
มุมปากของหลินเชวียหยักยกขึ้นด้วยความเบิกบาน “ดูเหมือนยัยคนนี้ก็ยังกระฉับกระเฉงดีนี่นา…”
เพียงแต่ เกรงว่าไม่จำเป็นต้องให้เธอมาจับตัว ใครบางคนก็มาด้วยตัวเองแล้ว
เวลานี้เอง ใบหน้าของเป่ยโต่วขมขื่น สีหน้าปรากฏความสิ้นหวังแล้ว “จบเห่แล้วเหล่าชี พี่เฟิงถูกพิษบงการจิตใจ พูดจาเหลวไหลแล้ว”
ใบหน้าชีซิงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ผนึกกำลังร่วมกับเป่ยโต่วพร้อมด้วยผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามกดตัวเยี่ยหวันหวั่นไว้อย่างแน่นหนา ถึงพอจะฝืนควบคุมเธอไว้ได้
ไม่ว่าพวกเป่ยโต่วจะพูดอะไรเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ฟังทั้งนั้น ร่างกายทรมานจนแทบจะระเบิดแล้ว
ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก็ทำให้เธอใกล้จะสูญเสียสติสัมปชัญญะแล้ว…
เป่ยโต่วเหงื่อท่วมศีรษะแล้ว “ไม่ได้ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเกิดพี่เฟิงเสียการควบคุมแล้วโผเข้าไปล่วงเกินนายแห่งอาชูร่าเข้า! รีบพาพี่เฟิงไปเร็ว! แล้วติดต่อไปหาชิวสุ่ย ให้พาหมอที่วิจัยยาถอนพิษมาด้วย! ก่อนหน้านี้ได้ยินหมอบอกว่าถ้าออกฤทธิ์แล้วจะต้องกำจัดกู่ให้ได้ภายในสองชั่วโมง ไม่งั้นก็จบเห่แล้ว!”
ชีซิงพยักหน้ารับ “ก็มีแต่ต้องทำแบบนี้แล้ว”
ขณะที่ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยกำลังจะคุ้มกันเยี่ยหวันหวั่นออกไป ตอนนี้เอง เนี่ยอู๋หมิงก็รีบกระโจนเข้ามาแล้วร้องว่า “ไอ๊หยา ไปหาหมออะไรกันล่ะ ฉันมียาถอนพิษนะ!”
“อะไรนะ นายมียาถอนพิษเหรอ”
ชั่วพริบตาเดียว สายตาของคนทั้งหมดก็มองไปที่ร่างของเนี่ยอู๋หมิงแล้ว
เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว!”
ชีซิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ทำไมนายถึงมียาถอนพิษล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงตอบด้วยสีหน้ามั่นใจว่า “เดิมทีฉันก็มีอยู่แล้ว!”
พอพูดจบก็เดินเข้าไปหาเยี่ยหวันหวั่น “น้องสาวคนดี เธอดูสิ วันนี้บังเอิญมีฉันอยู่ที่นี่ด้วย ทันรับมือกู่พิศวาสของเธอที่ออกฤทธิ์พอดี น้องสาวดวงของเธอนี้ช่างดีจริงๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่เขา “พี่รีบหลบไปให้พ้นจากฉันซะ!”
เนี่ยอู๋หมิงยังพูดต่อไป “ไอ๊หยา ใจเย็นๆ สิ ตอนนี้พิษของเธอกำเริบแล้ว อย่าฉุนเฉียวเกินไปสิ ถ้าฉุนเฉียวเกินไปจะทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น และทำให้พิษกระจายเร็วขึ้นนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นโมโหแล้ว “พี่ยังจะมาพูดดีอีก!”
ชีซิงจ้องเนี่ยอู๋หมิงด้วยแววตาเยียบเย็นนิดๆ “นายมียาถอนจริงๆ ใช่ไหม”
เนี่ยอู๋หมิงแบะปาก “ก็บอกแล้วไงว่ามี ไม่เชื่อก็ถามผู้นำของพวกนายสิ ผู้นำของพวกนายก็รู้เหมือนกัน! แต่เป็นตายยังไงผู้นำของพวกนายก็ไม่ยอมรับยาของฉันเท่านั้นเอง”
ชีซิงมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง “ผู้นำไม่ต้องการยาถอนพิษงั้นเหรอ”
เนี่ยอู๋หมิงถอนหายใจด้วยท่าทางจนปัญญา “จริงๆ นะ ไม่เชื่อนายก็ถามเธอเองสิ ฉันอุตส่าห์จะให้ส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเธอแล้ว เธอก็ไม่ยอมซื้อ”
พวกชีซิงได้ยินแล้วก็ผงะไป ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้นำของตัวเองจึงทำแบบนี้
เป่ยโต่วรีบร้อนถาม “พี่เฟิง มียาถอนพิษแล้วทำไมถึงไม่กิน!”
เยี่ยหวันหวั่นชักสีหน้า เอ่ยด้วยสีหน้าที่ยอมตายแต่ไม่ยอมรับความอยุติธรรม “ไสหัวไปให้พ้นจากฉันให้หมด ไม่กิน! โดนกู่พิศวาสก็ยังต้องพึ่งการกินยาเพื่อกำจัดกู่อีก แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยจ้องมองผู้นำที่ก้าวราวดุดันของตัวเองด้วยความอับจนวาจา
ควรว่ายังไงกับผู้นำของพวกเขาดีนะ
หลินเชวียที่อยู่หลังต้นไม้ก็ได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่กลับพูดไม่ออก
ซือเยี่ยหานนิ่งอึ้งไป…
ซือเยี่ยหานนวดหว่างคิ้ว น่าจะรู้ตั้งนานแล้วสิน่า…
ชีซิงปวดหัวเหลือเกิน ทำได้เพียงเอ่ยเกลี้ยกล่อมด้วยความอดทน “พี่เฟิง จะเอาแต่ใจไม่ได้นะครับ ตอนนี้พิษของพี่กำเริบแล้ว เหลือเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง จำเป็นต้องกินยาถอนอย่างเร่งด่วน”
——————————————————————-
บทที่ 2004 ในสมองล้วนเต็มไปด้วยเขา
พอชีซิงพูดจบ ก็ไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว รีบพูดกับเนี่ยอู๋หมิงว่า “นายไม่ต้องลดราคาแล้ว ฉันจะจ่ายให้เต็มจำนวน รีบเอายาถอนมาให้ฉันซะ!”
เยี่ยหวันหวั่นต่อต้านแล้ว “อย่าซื้อนะ! ถ้าซื้อมาฉันจะไม่กิน!”
เป่ยโต่วเอ่ยเกลี้ยกล่อม “พี่เฟิง พี่ก็อย่าคิดมากเลย ถ้าไม่กินยา…แล้วจะกำจัดกู่นี้ได้ยังไงล่ะ วิธีกำจัดกู่โดยที่รักษาหน้าพี่ไว้ได้น่ะไม่มีอยู่หรอกนะ! ไม่แน่ว่าอาจจะตายเร็วขึ้นด้วย!”
เยี่ยหวันหวั่นยังคงต่อต้าน “ไม่กิน!”
สถานการณ์หยุดนิ่งไปชั่วขณะ ในเวลานี้เอง ดวงตาของผู้อาวุโสใหญ่พลันกลอกกลิ้ง ค่อยๆ อ้าปากแล้วเอ่ยประโยคหนึ่งว่า “ท่านผู้นำของผม ถ้าผู้นำไม่กินยา นายแห่งอาชูร่าก็ต้องตายด้วยนะครับ ความตายหนักอึ้งดั่งขุนเขา เบาหวิวดุจขนนก ผู้นำจะหักใจมองเห็นคนงามต้องสิ้นชีพไปพร้อมกับผู้นำได้เหรอครับ”
หลังจากผู้อาวุโสใหญ่พูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็พลันชะงักไปแล้ว…
ใช่สินะ หลังจากกู่พิศวาสนี้ออกฤทธิ์ จะทำให้คนทั้งสองตายไปพร้อมกัน
แถมยังตายอย่างอนาถมากด้วย ปากลิ้นพุพองเลือดออกเจ็ดทวาร…
ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองชั่วโมงแล้ว และด้วยนิสัยที่เป็นปัญหาของซือเยี่ยหาน หากรอจนกว่าเขาจะยอมมาแก้พิษร่วมกับเธอ ไม่แน่ว่าต้นหญ้าบนหลุมศพคงสูงเท่าตัวคนแล้ว
ผู้อาวุโสสามรีบเอ่ยเสริมว่า “ผู้นำครับ ผู้นำดูสินายแห่งอาชูร่าเป็นคนงามที่ดูดีถึงขนาดนี้ ผู้นำหักใจปล่อยให้เขาตายอย่างน่าอนาถแบบนั้นได้เหรอครับ”
เป่ยโต่วก็เข้าร่วมวงด้วย “ใช่แล้วๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นลูบศิลาจารึกในอก สีหน้ายุ่งเหยิงอยู่สามวินาที สุดท้ายจึงเปิดปากเอ่ยว่า “เนี่ยอู๋หมิง ส่งยามาให้ฉัน”
ดีเหลือเกิน!
หาจุดอ่อนของพี่เฟิงเจอแล้ว!
ด้านหลังต้นไม้ หลินเชวียก็โล่งอกด้วยเช่นกัน “ค่อยยังชั่วๆ ยัยคนนี้นี่นะ ในที่สุดก็ยอมกินยาจนได้ ถ้ากินแต่แรกก็จบไปแล้ว…”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเยี่ยหวันหวั่นออกปากแล้ว เนี่ยอู๋หมิงจึงรีบหยิบยาถอนพิษส่งให้ทันที
เยี่ยหวันหวั่นรับขวดสีมรกตใบเล็กมา เทยาวัตถุที่มีรูปทรงเป็นยาลูกกลอนสีขาวนวลเม็ดหนึ่งออกมา แล้วเอ่ยกับเนี่ยอู๋หมิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง “พูดแล้วนะว่าลดให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์น่ะ!”
เนี่ยอู๋หมิงลูบหน้า “น้องสาวคนดีของฉัน เวลาแบบนี้แล้วเธอยังจะมาต่อราคากับฉันอีกเหรอ!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมเลิกรา “คุณก็แค่บอกมาว่าคุณจะขายในราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ไหม!”
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นบึ้งตึง ท่าทางสื่อออกมาว่าถ้านายไม่ขาย ฉันก็ไม่ต้องการชีวิตแล้ว
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เนี่ยอู๋หมิงรู้สึกว่าตัวเองได้พบคู่ต่อสู่แห่งโชคชะตาแล้ว “ขาย ฉันขาย! ขายให้เธอในราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์!”
เยี่ยหวันหวั่นถึงได้พอใจ แล้วกินยาเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ยังมีใครที่ชะตาชีวิตน่าเศร้าไปกว่าเธออีกไหมนะ
ไม่น่าเชื่อว่าจะมาถึงจุดที่ต้องกินยาถอนพิษจนได้…
จากนั้น เวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปทีละวินาที
“พี่เฟิง พี่รู้สึกยังไงบ้าง” ชีซิงเอ่ยถามด้วยความกังวล คนอื่นก็จ้องมองปฏิกิริยาของเยี่ยหวันหวั่นด้วยความไม่สบายใจเช่นกัน
เนี่ยอู๋หมิงตบหน้าอกแล้วเอ่ยด้วยด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “เฮ้อ พวกนายวางใจได้เลย ยาถอนพิษเม็ดนี้ของฉันกินเข้าไปแล้วยาถึงโรคหาย กำจัดกู่ได้ภายในหนึ่งนาทีแน่นอน!”
ชีซิงเหลือบมองเวลาบนหน้าจอมือถือแวบหนึ่ง
ผ่านไปหนึ่งนาทีแล้ว เร็วเหลือเกิน ทว่าตอนนี้ราวกับโลกทั้งใบเชื่องช้าลงก็มิปาน
เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ รอคอยให้ยาออกฤทธิ์อย่างสงบ
ไม่นานก็ค่อยยังชั่วแล้ว
เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “น้องสาว ร่างกายเธอรู้สึกยังไงบ้าง ดีขึ้นมากเลยใช่ไหม มีสติมากขึ้นหรือยัง เส้นเลือดฝอยบนตัวก็หายไปแล้วสินะ”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปประมาณสิบวินาที
“เนี่ยอู๋หมิง นายล้อฉันเล่นอยู่เหรอไง?!” หัวของเยี่ยหวันหวั่นใกล้จะระเบิดแล้ว เส้นเลือดบนหน้าผากเต้นตุบๆ “ได้สติกับผีน่ะสิ ในสมองฉันเต็มไปด้วยเขาแล้ว!”
เขาที่หมายถึงนี่…นายแห่งอาชูร่างั้นเหรอ
หรือว่าเถ้าแก่โรงงานน้ำส้มสายชูคนนั้น
หรือจะเป็นประมุขตระกูลซือท่านนั้น
เป่ยโต่วมีท่าทางงุนงง