บทที่ 2005 นายแห่งอาชูร่ามีจิตใจสุกใสผ่องแผ้ว?
เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางถลกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นว่าทั่วทั้งร่างปรากฏเส้นเลือดอันน่าหวาดกลัวมากกว่าเดิม “เอาละ นายบอกฉันสิ แบบนี้เรียกว่าเส้นเลือดหายไปงั้นเหรอ ฉันแทบจะกลายเป็นมนุษย์เส้นเลือดอยู่แล้ว!”
เป่ยโต่วจ้องมองข้อมือของเยี่ยหวันหวั่น ตกตะลึงไปแล้ว “บัดซบ! พี่เฟิง! นี่มันเรื่องอะไรกัน ผ่านไปนาทีเดียวเองนะ! ทำไมถึงลุกลามขนาดนี้เลยล่ะ”
มองเห็นแล้วว่าเส้นสายสีแดงบนร่างเยี่ยหวันหวั่นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสีสันก็เข้มขึ้นกว่าเดิมด้วย แดงฉานจนดูเหมือนเลือดจะทะลักออกมาแล้ว
คนที่เหลือก็ร้อนรนแล้วเช่นกัน รีบต้อนถามเนี่ยอู๋หมิง “นี่มันอะไรกัน ไหนบอกไว้ดิบดีว่ายาถึงโรคหายไง!”
เนี่ยอู๋หมิงถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างระมัดระมัง แล้วเอ่ยว่า “ไม่ถูกต้องนะ นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมถึงไม่ได้ผลล่ะ คนที่ตายบอกว่าหนอนกู่จะตายภายในหนึ่งนาทีนี่นา แล้วจากนั้นเส้นเลือดจะหายไป!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยว “วิทยาศาสตร์กับผีสิ ไอ้สิ่งนี้เดิมทีมันก็ไม่เป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว! สรุปแล้วยาถอนพิษห่วยๆ เม็ดนี้ของนายใช้การได้ไหม”
ชีซิงเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวาย “สรุปแล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เนี่ยอู๋หมิงอึกอัก “แค่ก...นี่…เป็นไปได้ว่า…บางที…ยาถอนพิษ…อาจจะ…ไม่ได้ผล…”
ชีซิงถามต่อไป “ทำไมยาถอนถึงอาจจะไม่ได้ผลกันล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงจึงตอบว่า “กู่สองใจเป็นหนึ่งยังสามารถกลายพันธุ์ได้…ดังนั้นการที่ยาจะไม่ได้ผล…อันที่จริงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกแล้ว ไม่ควรไปหวังพึ่งเนี่ยอู๋หมิงคนนี้เลย!
ใบหน้าเป่ยโต่วเต็มไปด้วยความงุนงง “ถ้างั้น ตอนนี้ควรทำยังไงดีล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยเสียงอ่อยๆ “ตอนนี้…ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเหลืออยู่แค่ทางเดียวแล้ว!”
ชีซิงเอ่ยถาม “ทางไหนล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงตอบไปว่า “ไปพาตัวคนที่เป็นพาหะของกู่ตัวลูกมาถอนพิษ…”
ชีซิง เป่ยโต่ว ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสสามรวมถึงชาวพันธมิตรอู๋เว่ยต่างก็ตัวแข็งทื่อไปหมดแล้ว
ไปหาคนที่เป็นพาหะของกู่ตัวลูก…ไปตาม…นายแห่งอาชูร่า…มาถอนพิษงั้นเหรอ
“ไปหานายแห่งอาชูร่าเพื่อถอนพิษกู่งั้นเหรอ แบบนั้นพี่เฟิงจะไม่ตายจริงๆ หรอกเหรอ!” เป่ยโต่วโพล่งถามออกมา
เนี่ยอู๋หมิงคิดๆ ดูแล้ว จึงเอ่ยออกมาว่า “พิษกู่จะขยายตัวตามความปรารถนาในใจคน ยิ่งผู้ที่เป็นพาหะของกู่มีความรู้สึกลึกล้ำต่อคนรักมากเท่าไร ปฏิกิริยาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เส้นเลือดก็จะเพิ่มมากขึ้น สีสันก็จะเข้มขึ้นด้วย แน่นอน ถ้าหากว่านายแห่งอาชูร่ามีจิตใจสุกใสผ่องแผ้ว ไม่มีคนที่ชอบพอ แบบนั้นถึงออกฤทธิ์ก็จะไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย”
เป่ยโต่วพลันกระจ่างแจ้งในทันใด “เวรแล้ว! มิน่าละเมื่อกี้นายแห่งอาชูร่าถึงไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด! ฉันก็ว่าแล้วว่าเป็นไปไม่ได้! จะว่าไปแล้ว นายแห่งอาชูร่าไม่ได้ทำอะไรเลยก็ต้องตายไปด้วยกันแบบนี้ ดูเหมือนจะน่าเวทนาอยู่บ้างนะ”
ไม่ชอบฉัน ไม่ยอมอยู่กับฉันก็ตายซะเถอะ กู่พิศวาสช่างวิปริตจริงๆ
“แบบนั้นเป็นไปได้ไหมว่าถ้าทางฝั่งนายแห่งอาชูร่าจะได้รับยาถอนพิษแล้ว กำจัดกู่ได้แล้ว ต่อไปผู้นำของพวกเราก็จะไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม ถึงยังไงทางอาชูร่าก็มีหนทางมากกว่าพวกเรา เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะปล่อยให้นายแห่งอาชูร่าของพวกเขาตาย” ชีซิงโอบกอดความหวังเสี้ยวสุดท้ายไว้แล้วเอ่ยถาม
เนี่ยอู๋หมิงจึงอธิบายว่า “ตอนนี้มีแต่ต้องฆ่ากู่ตัวแม่ถึงจะกำจัดกู่ได้ แต่ก็ไม่อาจตัดข้อสันนิษฐานที่ว่าสามารถค้นคว้ายาถอนพิษเพื่อฆ่ากู่ตัวลูกทิ้งไปได้
แต่ว่ากู่พิศวาสมีลักษณะเฉพาะตัว ถ้ากู่ตัวแม่ตาย กู่ตัวลูกจะตายไปด้วย พิษของคนทั้งสองจะคลี่คลายลง เพียงแต่ ถ้ากู่ตัวลูกตาย กู่ตัวแม่จะไม่ตายไปด้วย
ถ้าหากนายแห่งอาชูร่ากินยาถอนพิษที่ฆ่ากู่ตัวลูกในร่างกายตัวเอง นายแห่งอาชูร่าจะไม่เป็นอะไร แต่ผู้นำของพวกนาย…จะต้องตายแน่นอน”
เป่ยโต่วทึ่มทื่อไปแล้ว “บัดซบ…แบบนั้นไม่ใช่ว่าจบเห่แล้วเหรอ! ฉันเดาไว้แปดสิบเปอร์เซ็นต์เลยว่ากู่ตัวลูกของนายแห่งอาชูร่าถูกกำจัดแล้วแน่นอน ดังนั้นถึงได้ไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิด!”
———————————————————
บทที่ 2006 ต้องการให้คุณกอดฉัน
ในเวลาเดียวกัน ณ หลังพุ่มไม้
เมื่อหลินเชวียฟังประโยคนั้นของเนี่ยอู๋หมิงที่ว่า ‘ยิ่งผู้ที่เป็นพาหะของกู่มีความรู้สึกลึกล้ำต่อคนรักมากเท่าไร ปฏิกิริยาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เส้นเลือดก็จะเพิ่มมากขึ้น สีสันก็จะเข้มขึ้นด้วย’ จากนั้นก็มองไปที่ลำคอของซือเยี่ยหานทันที
เวลานี้ซือเยี่ยหานเปลี่ยนมาสวมชุดสูทสีดำที่มิดชิดเข้ารูป ยังคงมองไม่เห็นร่องรอยในบริเวณที่เผยออกมา แต่ก่อนหน้านี้ที่ซือเยี่ยหานสวมชุดนอน เขาจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าบนร่างกายนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือด ดูแล้วน่าหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง
ซือเยี่ยหานหลุบตาลง ค่อยๆ ยกฝ่ามือขึ้นมา มองเห็นแล้วว่าเส้นสายสีแดงราวกับใยแมงมุมนั้นเริ่มคืบคลานเข้าปกคลุมฝ่ามืออย่างหนาแน่นแล้ว…
หลินเชวียเหลือบตามองฝ่ามือของซือเยี่ยหาน จากนั้นก็เผยแววตาตื่นตระหนก “แย่แล้ว…”
ขณะที่คิดจะมองต่อ ซือเยี่ยหานกลับลดมือลงแล้ว ซ่อนร่องรอยบนฝ่ามือไว้
หลินเชวียกระแอมไอทีหนึ่ง “พี่เก้า ตอนนี้จะทำยังไงดี...”
หลินเชวียยังพูดไม่ทันจบ วินาทีต่อมา ซือเยี่ยหานก็ขยับเท้า ก้าวออกมาจากด้านหลังต้นไม้แล้ว
“นะ…นายแห่งอาชูร่า”
หลังจากเห็นนายแห่งอาชูร่าที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เป่ยโต่วและพวกเนี่ยอู๋หมิงที่กำลังโหวกเหวกโวยวายกันอยู่พลันเหมือนถูกอุดลำคอไว้ เงียบกริบไปเลย
ในเวลานี้เอง คนทั้งหมดล้วนเพ่งพินิจไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่ราวกับรังสีเอ็กซ์เรย์
เมื่อเทียบกับเยี่ยหวันหวั่นที่มีเส้นเลือดฝอยผุดเต็มร่างแล้ว ซือเยี่ยหานดูแทบจะเป็นปกติดีเลย
ดังนั้น ตอนนี้มีความเป็นไปได้อยู่สองกรณี
กรณีแรกคือ ซือเยี่ยหานจิตใจสุกใสผ่องแผ้วไม่มีคนที่ชอบพอ กรณีที่สองคือ ซือเยี่ยหานใช้ยาถอนพิษสังหารกู่ตัวลูกไปแล้ว
แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน ผู้นำของพวกเขา…ล้วนต้องตาย
สิ่งที่ต้องรับรู้นี้ทำให้ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยทุกคนล้วนมีสีหน้าสิ้นหวัง
จบสิ้นแล้วจริงๆ!
แต่ว่า ทำไมนายแห่งอาชูร่าถึงปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ล่ะ
เป่ยโต่วน้ำตานองหน้า ตัวสั่นสะท้านพลางเอ่ยถาม “จบสิ้นแล้วๆ นายแห่งอาชูร่าจะขุ่นเคืองจนพาลโกรธ ทั้งความแค้นเก่าและคดีใหม่ ในที่สุดก็จะลงมือกับพี่เฟิงแล้วเหรอ”
ผู้อาวุโสสามก็คิดแบบนี้ “มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์นะ…”
ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจ “เฮ้อ ควรจะเกลี้ยกล่อมให้ผู้นำคิดทบทวนให้ดีแต่แรก ไม่ให้ไปยั่วยุท่านเทพปีศาจท่านนี้ แล้วตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ…”
เป่ยโต่ว ชีซิง ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสสามรวมถึงคนที่เหลือล้วนมีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตัว รีบเข้าไปคุ้มกันเยี่ยหวันหวั่น
แลเห็นสายตาของชายหนุ่มมองผ่านคนทั้งหลาย และมองตรงไปที่ร่างของหญิงสาว จากนั้น สองขาเรียวยาวก็ก้าวไป เข้าไปหาเธอทีละก้าวๆ
เวลานี้ สายตาของเยี่ยหวันหวั่นพร่ามัวเล็กน้อยแล้ว แต่ก็ยังสามารถจดจำคนที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยสัญชาตญาณ “ที่…รัก…”
เป่ยโต่วเอ่ยถามด้วยความมึนงง “พี่เฟิงพูดอะไรน่ะ”
เสียงของเยี่ยหวันหวั่นแผ่วเบามาก ทุกคนจึงได้ยินไม่ชัด
หน้าผากของเยี่ยหวันหวั่นมีหยาดเหงื่อผุดซึมเป็นชั้นๆ ร่างกายโงนเงน พอมองเห็นชายหนุ่มตรงหน้า ความน้อยใจทั้งหมดก็เอ่อล้นขึ้นมาทันที จากนั้นก็เอ่ยพึมพำด้วยความน้อยใจว่า “ที่รัก ฉันไม่เอา…ไม่เอายาถอน…ต้องการให้คุณกอด…กอดฉันไว้…”
เยี่ยหวั่นกล่าวออกมา จากนั้นก็กางแขนตรงไปหาชายหนุ่ม
ครั้งนี้ ทุกคนล้วนได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นอย่างชัดเจน ได้ยินแจ่มแจ๋วทุกคำพูดของเธอ
เอ่อ…
ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้นำของตัวเองจะต้องการให้นายแห่งอาชูร่า…กอดเธอ…
เป่ยโต่วตกใจจนฉี่แทบราดแล้ว จึงพูดจาตะกุกตะกักไปหมด “นายแห่งอาชูร่าครับ…คุณอย่าโมโหไปเลยนะครับ…ผู้นำของพวกเราเธอ…”
ในขณะที่ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอยไปแล้ว ก็ได้เห็นว่า นายแห่งอาชูร่าในชุดสูทสีดำมืดมิด ราวกับราชาแห่งรัตติกาล เดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าทีละก้าวๆ แล้วหยุดฝีเท้าลง
เขารู้ดีว่าไม่สมควร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้