ตอนที่ 1396

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้ามีอะไรมาแลกเปลี่ยน?”

ชายคนนั้นลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “ผลึกก่อเกิดหนึ่งล้านผลึก!”

ทุกคนแทบจะเป็นลม ผลึกร้อยล้านผลึกถือจำนวนเงินอันมหาศาล

ระดับศาสตร์วรยุทธของดาวเหอหนิงไม่ได้สูงเทียบเท่าดาวหยุนติ่ง เหตุผลก็มาจากทั้งทักษะบ่มเพาะที่มีบวกกับสภาพแวดล้อมของดวงดาวที่สามารถผลิตผลึกก่อเกิดได้จำนวนน้อย

เพราะงั้นแล้วผลึกก่อเกิดจำนวนหนึ่งร้อยล้านจึงรับว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก

ทุกคนชะงัก ขนาดปรมาจารย์ระดับดารายังยื่นข้อเสนอถึงหนึ่งร้อยล้านผลึกก่อเกิด หรือว่ารุ่นเยาว์ผู้นี้จะแข็งแกร่งจริงๆ? ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมปรมาจารย์ระดับดาราถึงต้องยื่นข้อแลกเปลี่ยนด้วยแทนที่จะแย่งชิงมาเลย

“ชายคนนั้นหรือว่าจะเป็น ‘เทพดาบลอยล่อง’ ปรมาจารย์เหลยตง?”

“ใช่แล้ว เป็นเขา!”

“ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ปรมาจารย์เหลยก็ยังสนใจในสมบัติชิ้นนี้!”

ทุกคนกระซิบกระซาบพูดคุยถึงตัวตนของปรมาจารย์ระดับดาราผู้นี้

“ยังไม่พอ” หลิงฮันส่ายหัว ถึงแม้เขาจะไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงของดาบเล่มนี้ แต่มูลค่าของมันต้องมากกว่าหนึ่งร้อยล้านผลึกก่อเกิดแน่นอน

ทุกคนสูดลมหายใจลึก หนึ่งร้อยล้านผลึกก่อเกิดยังไม่เพียงพอรึ นี่เจ้าต้องโลภขนาดไหนกัน

เหลยตงแสดงท่าทีไม่พึงพอใจเล็กน้อย ที่ดาวเหอหนิงแห่งนี้ ผลึกก่อเกิดจำนวนหนึ่งร้อยล้านถือว่าเป็นทรัพยากรจำนวนมหาศาล หากไม่ใช่เพราะหลิงฮันเองก็เป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางเหมือนกัน เขาคงจะลงมือขโมยมาแล้ว

แต่เพียงเพราะว่าหลิงฮันมีระดับพลังเท่ากันกับเขา เหลยตงจึงไม่คิดจะลงมือผลีผลาม

เขาแสดงท่าทีลังเลและกล่าว “ข้าขอรู้ชื่อของสหายได้รึไม่ รวมถึงเจ้ามาจากขุมอำนาจใด?”

Anchor

ดาวเหอหนิงมีปรมจารย์ระดับดาราเพียงหยิบมือ ถึงแม้บางคนจะเป็นจอมยุทธที่ปลีกตัวสันโดษไม่ยุ่งกับทางโลก แต่พวกเขาก็ล้วนแต่เป็นจอมยุทธเฒ่าที่บ่มเพาะพลังมานานแล้วไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนปี

แต่เห็นได้ชัดว่าชายตรงหน้าเขานั้นยังมีพลังชีวิตอันเปี่ยมล้น อีกฝ่ายจะต้องเป็นรุ่นเยาว์ที่มีอายุน้อยกว่าห้าร้อยปีแน่นอน

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก สามารถบรรลุระดับดาราได้ก่อนอายุห้าร้อยปีเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป บางทีอีกฝ่ายอาจจะมีความสามารถอันทรงพลังเกินกว่าจะจินตนาการ

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ก่อนจะถามชื่อแซ่คนอื่น ไม่ใช่ว่าเจ้าควรจะบอกของตัวเองมาก่อนรึ?”

ช่างอวดดี!

สิบพยัคฆ์แห่งตระกูลหวังตกตะลึง ไม่น่าแปลกใจที่หลิงฮันกล้าสังหารคนของตระกูลหวัง ขนาดแม้แต่ปรมาจารย์ระดับราหลิงฮันก็ยังกล้าต่อล้อต่อเถียง

เหลยตงไม่แสดงท่าทีโมโหเนื่องจากเขารู้ถึงระดับพลังบ่มเพาะของหลิงฮัน “ข้าคือเหลยตงแห่งจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์”

เขาจงใจกล่าวคำว่าจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ออกไปเพราะว่าหลิงฮันนั้นไม่มีทางเป็นของจักรวรรดิแห่งนี้ ไม่เช่นนั้นหากมีปรมาจารย์ระดับดาราที่เยาว์วัยเช่นนี้อยู่ในจักรวรรดิเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อน

หลิงฮันยิ้ม “หลิงฮัน จักรวรรดิต้าหลิง”

จักรวรรดิต้าหลิง?

เหลยตงแสดงสีหน้าสับสน มันคือจักรวรรดิแห่งใดกัน?

“จักรวรรดิต้าหลิง… ข้ารู้จัก!” จู่ๆก็มีใครบางคนเอ่ยแทรก “มันคือจักรวรรดิเล็กๆภายใต้การปกครองของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ จักรวรรดิที่ว่าเพิ่งจะปรากฏขึ้นจากการเปิดสวรรค์เมื่อยี่สิบปีก่อน”

พรวด!

เหลยตงสำลักออกมาทันที มาจากการเปิดสวรรค์เมื่อยี่สิบปีก่อน? นั่นไม่ได้หมายความว่าหลิงฮันใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบปีในการยกระดับจากระดับทลายมิติมายังระดับดาราหลอกรึ?

ต้องเป็นเรื่องโกหกแน่!

“เจ้าเป็นคนของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ?” เหลยตงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “ถ้าเจ้าจะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิด” จักรพรรดินีจะเป็นภรรยาของเขาในอนาคต จะบอกว่าเขาเป็นคนของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะก็ไม่ผิดอะไร

“สหาย เจ้าช่างกล้านัก!” เหลยตงกล่าว

คนของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะบังอาจล้ำเส้นมาปรากฏตัวที่นี่แถมยังช่วงชิงสมบัติของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์โดยไม่เห็นปรมาจารย์ของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์อยู่ในสายตา?

“งั้นรึ?” หลิงฮันยิ้มและทำท่าที่ไม่ใส่ใจ

ในที่สุดเหลยตงก็คิดที่จะลงมือ

อีกฝ่ายเป็นศัตรูของจักรวรรดิ และตอนนี้เมื่อเขาอยู่ที่นี่แล้วเขาก็ต้องเป็นคนรับหน้าที่จัดการผู้บุกรุกต่อให้ไม่มีเรื่องสมบัติเข้ามาเกี่ยวก็ตาม

และในเมื่อหลิงฮันเป็นคนของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ อีดฝ่ายย่อมไม่สามารถใช้อำนาจแห่งจักรภพที่นี่ได้ แต่ตัวเขายังสามารถใช้อำนาจแห่งจักรภพเพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ขึ้นหนึ่งดาว

ปรมาจารย์เช่นพวกเขา พลังต่อสู้หนึ่งดาวมีค่าขนาดไหน?

ดังนั้นเมื่อมั่นใจว่าจะชนะเขาจึงตัดสินใจลงมือ

“เหอๆ ในเมื่อเจ้ากล้ามาถึงที่นี่เจ้าก็ต้องรับความเสี่ยงของเจ้าเอง!” หลี่เฉิงคำราม เบื้องหลังของเขาปรากฏดวงดาราสองดวงที่มีขนาดเท่ากัน

นั่นหมายถึง… เขามีพลังบ่มเพาะระดับดาราขั้นกลางชั้นสูงสุด!

‘พรึบ’ มือของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บสีดำและโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน อำนาจของกรงเล็บนี้เพียงพอที่จะสังหารเฉินหลุยเจียงและคนอื่นๆ

หลิงฮันชี้นิ้วออกไป ‘ตูม’ กรงเล็บถูกทำลายทันที ปราณก่อเกิดที่แตกสลายกระจัดไปทั่วบริเวณส่งผลให้โรงน้ำชาพังทลายและเมืองทั้งเมืองสั่นสะเทือน

นี่คือเหตุผลว่าทำไมปรมาจารย์ระดับดาราถึงมักจะต่อสู้กันบนฟากฟ้า พลังทำลายของการโจมตีของพวกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป

เหลยตงไม่แยแส ในสายตาของเขา ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราก็ยังเป็นเพียงมดปลวกที่ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นหรือตาย สีหน้าของเหลยตงเปลี่ยนเป็นจริงจัง พลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าที่เขาคาดไว้ นึกไม่ถึงว่าจะสามารถสลายการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย

ใบหน้าของสิบพยัคฆ์แห่งตระกูลหวังแสดงออกถึงความหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าหลิงฮันแข็งแกร่งขนาดไหน แต่การที่หลิงฮันสามารถตอบโต้การโจมตีของปรมาจารย์ระดับดาราได้หมายความว่าอย่างไร?

หลิงฮันเองก็เป็นปรมาจารย์ระดับดารา!

พวกเขาช่างกล้าหาญยิ่งนักที่รนหาที่ตายคิดจะทวงความแค้นกับปรมาจารย์เช่นนั้น

เหลยตงชักดาบออกมา เขาที่ถูกเรียกว่าเทพดาบลอยล่องแน่นอนว่าต้องเชี่ยวชาญทักษะการใช้ดาบ

หลิงฮันยังคงนิ่งเฉย เขาเคยแม้แต่สังหารจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงมาแล้ว เหลยตงย่อมไม่อยู่ในสายตาของเขา

“ไปสู้กันบนฟ้า!” เหลยตงกล่าว การต่อของปรมาจารย์เช่นพวกเขาจะส่งผลให้สิ่งมีชีวิตรอบข้างตกตาย หากเป็นเช่นนั้นชื่อของเขาก็จะถูกตราหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถูกประชากรรังเกียจ อำนาจแห่งจักรภพก็จะส่งผลเสียต่อตัวเขาเอง

“แล้วแต่เจ้า” หลิงฮันกล่าว

ทั้งสองลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและเริ่มปะทะกันด้วยความสูงที่ห่างจากฟุตหลายหมื่นเมตร

“เพลงดาบลอยล่องหมื่นลี้ ดาบพิฆาตไร้ร่องลอย!” เหลยตงสะบั้นดาบ ‘พรึบ’ คลื่นดาบนับไม่ถ้วนเคลื่อนที่เรียงกันอย่างเป็นรูปแบบพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน

คลื่นดาบนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่บนท้องฟ้าจนไร้ที่หลบ

“รับดาบของข้าบ้าง” หลิงฮันใช้นิ้วแทนดาบสะบัดออกไปด้านหน้า

Anchor

ทักษะดาบฟ้าคำรามผสานกับอำนาจสวรรค์!

เรียบง่ายแต่ทรงพลัง การโจมตีของเขาน่าสะพรึงกลัวราวกับจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง