ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 748 เข้าปะทะ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หลินฮั่นหัวมองคังผิงแวบหนึ่ง สีหน้าฉายแววไม่พอใจอยู่บ้าง เจตจำนงกระบี่อันคมกริบสายหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรุนแรง เหี้ยมหาญยิ่งกว่าคังผิง

“ท่านคัง ฮูหยินของท่านเสียชีวิตแล้ว จิตใจท่านเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ข้าเข้าใจดี แต่ว่าหากท่านจะสังหารแขกของเขาโถงทองต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่อาจนิ่งดูดายเช่นกัน”

หลินฮั่นหัวโบกมือให้เยี่ยนจ้าวเกอ บอกให้ชายหนุ่มถอยไปด้านหลัง

เขามองคังผิงตรงๆ “ท่านอาจารย์อนุญาตให้พวกท่านอยู่ที่ทะเลหวงเจีย แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะทำอะไรตามใจ ไม่เห็นหัวเขาโถงทองของข้าในเขตตะวันอาคเนย์ได้”

คังผิงเอ่ยอย่างเย็นชา “ราชากระบี่ภูผาเงากล่าวหนักไปแล้ว ข้าไม่ได้ไม่เคารพองค์ประมุขอาคเนย์กับเขาโถงทอง แต่แค้นสังหารภรรยาไม่อาจไม่ชำระ หากเสร็จเรื่องแล้ว ข้าจะไปขอรับโทษที่เขาโถงทองเอง องค์ประมุขอาคเนย์จะลงโทษอย่างไร ข้ายินดีรับไว้

“แต่หากจะให้ข้ากล้ำกลืนความอัปยศ ราชากระบี่ภูผาเงาก็เท่ากับบีบบังคับผู้คน”

เห็นหลินฮั่นหัวสายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา คังผิงสีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย “ฮูหยินของข้าเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของข้าเช่นกัน ศิษย์พี่ศิษย์น้องของข้ามีอย่างน้อยสองคนที่ตายเพราะเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้”

“เด็กน้อยแซ่เยี่ยนผู้นี้ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเขาโถงทอง เขาโถงทองยังจะขวางไม่ให้พวกข้าแก้แค้นอีกหรือ?”

หลินฮั่นหัวมองเขาด้วยรอยยิ้ม “คนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดอย่างท่าน จะลงมือกับคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ท่านยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ?”

“ระหว่างพวกท่านมีความแค้นต้องชำระ เขาโถงทองของข้าจะไม่ก้าวก่ายเป็นอันขาด ข้าได้ยินมาว่าบุตรสองคนของท่านมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายใช่หรือไม่?”

“ไฉนจึงไม่เห็นพวกเขามาแก้แค้นให้มารดา กลับให้ท่านออกหน้าเอง”

“พูดถึงด้านอายุ พวกเขาเกรงว่าจะแก่กว่าสหายน้อยเยี่ยนมาก พูดถึงด้านพลังฝึกปรือ ยิ่งสูงกว่าถึงสองขั้น” หลินฮั่นหัวแค่นเสียงกล่าว “สมมติถือให้พวกเขากับสหายน้อยเยี่ยนอายุเท่ากัน เหตุใดไม่เห็นพวกเขาแก้แค้นให้กับมารดา?”

พลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอเหนือกว่าจอมยุทธ์ระดับเดียวกัน วันนี้เป็นความจริงที่ได้รับการยอมรับไปทั่วทะเลหวงเจียแล้ว

แม้แต่หลินฮั่นหัวกับคังผิงก็ทราบถึงเรื่องนี้

อย่าเห็นว่าคังเม่าเซิงกับคังจิ่นหยวนมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย เมื่อต้องเผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอ แม้แต่คังผิงเองก็ไม่มั่นใจ

คังจิ่นหยวนเคยประมือกับเยี่ยนจ้าวเกอมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

คังเม่าเซิงทำให้คังผิงรู้สึกภูมิใจมาโดยตลอด เป็นคนพิเศษท่ามกลางคนรุ่นเดียวกัน

แต่เทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว กลับห่างชั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่โดดเด่น แต่ว่าคู่ต่อสู้ในตอนนี้เป็นปีศาจ

ความเอนเอียงในใจของหลินฮั่นหัวชัดเจนยิ่ง ข้ออ้างเมื่อครู่จึงเป็นการหาเรื่อง

กระนั้นแค่การใช้ใหญ่รังแกเล็กก็สามารถทำให้เขาสอดมือไปในเรื่องนี้ได้แล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอผูกมิตรกับเขาโถงทอง เขาถ้าหากขอความช่วยเหลือจากเขาโถงทอง เขาโถงทองย่อมลงมือช่วยเหลือ สิ่งที่ต้องกังวลคือบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

ม่านตาของคังผิงหดตัวเล็กน้อย “นี่คือความคิดของเขาโถงทอง หรือเป็นความคิดส่วนตัวของราชากระบี่ภูผาเงา?”

หลินฮั่นหัวขมวดคิ้ว “เป็นความคิดส่วนตัวของข้าแล้วอย่างไร?”

คังผิงไม่ลดละ “ราชากระบี่ภูผาเงาท่านมีพลังฝึกปรือแข้งแกร่ง ข้าเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า แต่ก็ต้องสู้ อย่างมากแค่ตายเท่านั้น

“ข้าตายไปไม่เสียดาย องค์ประมุขอาคเนย์กล้าแข็ง ไม่กริ่งเกรงอันใด แต่ว่าพวกเราทั้งสองต้องมาผิดใจกันเรื่องนี้ ท่านว่าคุ้มค่าหรือไม่?”

หลินฮั่นหัวหัวเราะเหอะๆ ดวงตาพลันอันตรายขึ้นมา “ท่านกำลังข่มขู่ใคร?”

คังผิงส่ายหน้า “ผู้สืบทอดของเขาโถงทองล้วนเป็นจอมยุทธ์สายกระบี่ กล้าแกร่งอหังการ ท่านยิ่งเป็นคนที่โดดเด่น ข้าจะมีความคิดข่มขู่ได้อย่างไร? แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดให้ชัดเจน”

เขาชี้ไปที่เยี่ยนจ้าวเกอ “เด็กน้อยผู้นี้ ข้าจำเป็นต้องสังหารทิ้งให้ได้ ไม่ว่าข้าจะต้องใช้วิธีอะไร ไม่ว่าข้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนขนาดไหน!”

หลินฮั่นหัวขมวดคิ้วเงียบงัน เขาย่อมไม่กลัวคังผิง แต่ถ้าคังผิงตายไป ย่อมต้องมีปัญหาตามมาแน่

ความตายของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นรวมรูปอย่างเลี่ยวเจิง ความสำคัญไม่อาจเทียบเคียงกับคังฮูหยินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงได้

คังฮูหยินกับคังผิงแม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่นั่นเป็นความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าในสายตาของคนอื่นก็คือ คังผิงยังคงเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในขั้นสะพานเซียน

การตายของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้หนึ่ง ความสำคัญย่อมแตกต่างกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง

ในทะเลหวงเจียในตอนนี้ คังผิงเป็นยอดฝีมือที่แกร่งที่สุดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง คำสั่งในการวางค่ายกลบูชาฟ้า ความจริงตกอยู่ที่ตัวเขา ไม่ใช่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

หากเขาไม่ยอมรับแล้วตายด้วยมือของหลินฮั่นหัว คนที่อยู่เบื้องหลังเขาสมควรเดือดดาล

การอนุญาตให้พวกคังผิงอยู่ในทะเลหวงเจียต่อของประมุขอาคเนย์ ได้มีการปรึกษากับบุคคลยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเขาเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่ให้คนที่อยู่เบื้องหลังไม่พอใจได้

หลินฮั่นหัวไม่เคยหวาดกลัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เขาไม่ทราบว่าอาจารย์ของตัวเองคิดทำอะไรกันแน่

คังผิงครั้งนี้มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเย็นชา “เมื่อครู่เจ้าปากดีมากไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ได้แต่แอบหลบด้านหลังคนอื่นหรืออย่างไร?”

“ท่านเสียแรงเปล่า วิธียั่วยุไม่ได้ผลกับข้าหรอก” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “แต่ว่าคำพูดเมื่อครู่ของข้า เป็นความคิดของข้าจริงๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไม่กล้ายอมรับ”

เขาพยักหน้าให้หลินฮั่นหัว กล่าวอย่างจริงใจ “ขอรับน้ำใจของราชากระบี่แล้ว ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่ง ถ้าหากข้าออกไปจากทะเลหวงเจียได้ จะต้องเดินทางไปเขาโถงทองเพื่อขอบคุณองค์ประมุขอาคเนย์กับท่านสักครั้ง ยังมีผู้อาวุโสกระบี่ทะเลภูผาและผู้อาวุโสปีกปักษาด้วย”

“ในฐานะแขก ย่อมให้เจ้าภาพตัดสินใจ หากสามารถไม่สร้างความลำบากให้แก่เจ้าภาพได้ ย่อมไม่สร้างเลยเป็นดี”

หลินฮั่นหัวมองออกว่าความซาบซึ้งใจของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เสแสร้งแกล้งดัดเพื่อเอาใจตัวเอง

ขณะที่เขาชื่นชม ก็รู้สึกประหลาดใจกว่าเดิม

คังผิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเย็นเยียบ พยักหน้ากล่าวว่า “ประเสริฐ ประเสริฐนัก”

ครั้นพูดจบ เขาก็ไม่รีรออีก ลงมือทันที นิ้วชี้และนิ้วกลางตั้งขึ้นประดุจกระบี่ แทงใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!

การเคลื่อนไหวของเขาดูเหมือนเชื่องช้า ทว่าความจริงเร็วถึงขีดสุด ด้วยพลังฝึกปรือของหลินฮั่นหัว ยังรู้สึกตาพร่าไปเล็กน้อย

ความเร็วขนาดนี้นี้ ในสถานการณ์ปกติเกรงว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะตอบสนองไม่ทัน ถูกกระบี่แทงตายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตายอย่างไรแม้แต่ตัวเองยังไม่รู้

ทว่ากลับเห็นเยี่ยนจ้าวเกอวูบไหวร่างเหมือนแยกร่าง ราวกับคาดไว้อยู่แล้ว ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวมาตั้งแต่ต้น พร้อมป้องกันการลงมือของคังผิงตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าจะไร้ความเกรงกลัว แต่เขาก็ไม่ได้ใจกล้าโง่งม เข้าใจความแตกต่างระหว่างระดับพลังของตนกับคังผิงเป็นอย่างดี

หากรอคังผิงลงมือจริงๆ เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่าตัวเองน่าจะรับมือไม่ทัน อีกฝ่ายมีพลังฝึกปรือมากเกินไป อีกทั้งยังใช้วรยุทธ์อย่างกระบี่กาลเคลื่อนคล้อย พูดถึงแค่ความเร็วการออกกระบี่ ก็ไม่ด้อยกว่าหลินฮั่นหัวที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดแล้ว

ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงลอบเตรียมตัว ความจริงเคลื่อนไหวก่อนคังผิงหนึ่งก้าว

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ ก็แสดงการเตรียมตัวทั้งหมดที่แอบทำไว้ออกมาทันที!

แสงอาทิตย์เจิดจ้าลอยขึ้น จิตพลังที่ยิ่งใหญ่กล้าแกร่งดุจดวงอาทิตย์กลางท้องฟ้า คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ตราประทับตะวันนั่นเอง!

คังผิงคาดเดาไว้ตั้งแต่ต้น จึงยังสีหน้าดังเดิม คงแทงกระบี่ออกเหมือนก่อนหน้านี้

“เจ้าใช้ตราประทับตะวัน เดิมทียังไม่อยู่ในระดับพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง จะใช้ของวิเศษชิ้นนี้ป้องกันกระบี่ของข้าได้อย่างไร? ชีวิตน้อยๆ ของเจ้า ข้าขอไปเลยแล้วกัน!”

………………..