ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 747 จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้สูญเสียภรรยาและกำลังจะคลุ้มคลั่ง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ประมุขอาคเนย์อนุญาตให้พวกคังผิงอยู่ในทะเลหวงเจียต่อ

พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ประมุขอาคเนย์เห็นด้วยกับเรื่องที่พวกคังผิงวางค่ายกลบูชาฟ้า

ในเรื่องนี้จะมีการสนทนาระหว่างคนที่มีระดับสูงกว่า เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจรับรู้

เขาแค่ต้องการทราบว่า ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องตั้งหลักในทะเลหวงเจียได้แล้ว

พลังโดยรวมและจำนวนยอดฝีมือของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง เป็นอันดับหนึ่งของทะเลหวงเจียอย่างไม่ต้องสงสัย ครั้นแรงกดดันจากภายนอกหายไป พวกเขาก็ไร้ข้อกริ่งเกรง สามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ในทะเลหวงเจียต่อได้

กลับเป็นฝ่ายกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียน เพราะการเดินทางไปสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ พลังของสำนักแสงสว่างและสำนักความมืดได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ ต่อจากนี้เกรงว่าจะลำบากแล้ว

แต่ว่าเมื่อได้ยินคำพูดของหลินฮั่นหัว เยี่ยนจ้าวเกอก็มีแรงกดดันในใจไม่มาก

อีกฝ่ายแจ้งให้เขาทราบอย่างลับๆ เป็นการเฉพาะ หมายความว่าฝั่งประมุขอาคเนย์ยังคงดูแลตัวเองอยู่

ประมุขอาคเนย์เห็นด้วยกับเรื่องที่พวกคังผิงวางค่ายกลบูชาฟ้า ไม่ได้สืบสาวเอาความ เยี่ยนจ้าวเกอที่เปิดโปงเรื่องนี้เมื่อก่อนหน้า จึงมีสภาพน่ากระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

ไม่อาจขับไล่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องออกจากทะเลหวงเจียได้ เช่นนั้นราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ตั้งหลักได้อีกครั้ง ย่อมกลับมาชำระบัญชี

เทียบกับขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนเช่นหอกระบี่ทะเลเหนือ สำนักแสงสว่าง สำนักความมืด และเกาะมนุษย์สำริดแล้ว พวกเขาต้องเคียดแค้นเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งกว่าแน่

ถึงอย่างไรในการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ตกเป็นฝ่ายได้เปรียบ

สุดท้ายกลับเกือบถูกเยี่ยนจ้าวเกอพลิกเรือ พวกเขาย่อมคิดแค้น

ที่คังฮูหยินสามแม่ลูกลงมือหมายจะลอบกำจัดเยี่ยนจ้าวเกอด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้เอง

ในตอนนั้นเขาโถงทองยังไม่ได้ส่งข่าวกลับมา อีกฝ่ายยังกล้าเสี่ยงอันตราย ตอนนี้ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูด

เรื่องที่ชัดเจนเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคาดเดาได้ พวกหลินฮั่นหัวและเฉินจื้อเหลียงย่อมคาดเดาได้เช่นกัน

‘ท่านอาจารย์ไม่ได้ลืมสหายบนทะเลหวงเจียที่อาจจะถูกแก้แค้นผู้นี้’ หลินฮั่นหัวมองเยี่ยนจ้าวเกอ ‘จริงด้วย บางทีอาจะเป็นเพราะสาเหตุบางอย่าง จึงเห็นด้วยกับเรื่องค่ายกลบูชาฟ้า แต่การใช้ดุลพินิจกำหนดกลยุทธ์หลังรู้เรื่อง กลับการถูกคนปิดบังไว้ เป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง’

ยิ่งไปกว่านั้น หวังฮุ่ยลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์ก็ติดหนี้บุญคุณของเยี่ยนจ้าวเกออยู่ด้วย

เขาเอ่ยปากถามว่า “สหายน้อยเยี่ยนจะอยู่ที่ทะเลหวงเจียต่อหรือจะไปที่อื่น?”

เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “อาจจะต้องรบวนราชากระบี่สักระยะแล้ว”

หลินฮั่นหัวพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”

สถานการณ์ของทะเลหวงเจียต่อจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องศึกษาสถานการณ์ใหญ่ และวางแผนอย่างละเอียด

ถึงอย่างไรด้านในอาณาเขตของสำนักแสงสว่างก็มีบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่ใช้ลงไปยังโลกแปดพิภพด้วย

ประมุขอาคเนย์ไม่ได้ข้ามแม่น้ำรื้อสะพาน เยี่ยนจ้าวเกอเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของทะเลหวงเจียจะปลอดภัยยิ่งกว่า โดยเฉพาะหลินฮั่นหวาที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางยังคอยคุมสถานการณ์อยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง

เพียงแต่ว่า จากการสนทนาอย่างลับๆ ในวันนี้ ขณะที่หลินฮั่นหัวแสดงจุดยืน ความจริงได้บอกเยี่ยนจ้าวเกอเป็นนัยๆ ไปด้วยว่า ต่อจากนี้อย่าได้ยั่วยุราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีก

เยี่ยนจ้าวเกอกำลังใคร่ครวญอยู่พอดีในตอนที่มีคนเข้ามาส่งข่าว

อีกฝ่ายใช้วิธีส่งกระแสเสียงแจ้งหลินฮั่นหัว เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ทราบรายละเอียด

หลังจากหลินฮั่นหัวได้ยิน ก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอว่า “เชิญเขาเข้ามาเถอะ”

คนรับใช้ผละไปตามคำสั่ง ต่อมา เงาร่างสายหนึ่งก็เดินเข้ามาด้านใน

กลับเป็นคังผิง

คังผิงครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกอ สายตาเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

หลินฮั่นหัวว่า “ไม่ทราบว่าท่านคังมีธุระอะไรหรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ หลินฮั่นหัวเห็นคังผิง กลับไม่ปิดบังตัวเอง อีกทั้งยังให้ตนคอยอยู่ด้านข้าง ความจริงกำลังแสดงจุดยืนให้คังผิงและราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเห็นว่า เขาต้องการคุ้มครองตน

คังผิงเข้าใจความคิดของหลินฮั่นหัวอย่างรวดเร็ว หลังจากใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆ พูดว่า “ภรรยาข้าเสียชีวิตแล้ว ข้าในฐานะสามี ย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้”

ภรรยา…

คังฮูหยินเสียชีวิตแล้วจริงๆ ด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจเยือกเย็น ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ

ในตอนที่ออกจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อได้เห็นประกายกระบี่ของกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยที่ผิดปกติ เขาก็คาดเดาไว้คร่าวๆ แล้ว

ในการพังทลายของน้ำวนสีเลือดเมื่อตอนนั้น พวกหลัวจื้อเทาหนีออกมาได้ก่อนก้าวหนึ่ง แต่ที่คังฮูหยินยังสามารถหาทางรอดได้ เยี่ยนจ้าวเกอตกตะลึงจริงๆ

แต่ว่าดูจากตอนนี้ ท้ายที่สุดก็เป็นการฝืน

หลินฮั่นหัวขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็คลายออกอย่างรวดเร็ว

คังผิงสีหน้าไร้อารมณ์ เยี่ยนจ้าวเกอที่เงียบมาโดยตลอดครั้งนี้เอ่ยปากถาม “บุตรของท่านไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้าง?”

“พวกเขาไม่เป็นอะไร” คังผิงตอบอย่างสงบนิ่ง สายตาจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอ

แรงกดดันอันน่ากลัวของยอดฝีมือขั้นสะพานเซียน พลันพุ่งมาหาเยี่ยนจ้าวเกอดุจคลื่นสูงเทียมฟ้า แทบทำให้คนต้องกลั้นหายใจ

เจตจำนงกระบี่อันทรงพลังปรากฏขึ้น ทำลายคลื่นโหมกระหน่ำให้หายไปในพริบตา

หลินฮั่นหัวไม่ทราบว่ายืนอยู่ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่เมื่อไร พูดอย่างเรียบเฉย “ท่านคัง ระงับความเศร้าเสีย”

คังผิงไม่ปล่อยกลิ่นอายออกมาอีก แต่สบตากับหลินฮั่นหัวอย่างไร้ความเกรงกลัว

“ฮูหยินของข้าตายแล้ว” คังผิงพูดทีละคำ “มีคนจำเป็นต้องชดใช้ด้วยชีวิต!

“สำนักแสงสว่าง หลัวจื้อเทา เป็นมืออำมหิตโดยตรง”

“หอกระบี่ทะเลเหนือ กู้หง พัวพันกับอาจารย์อาเฮ่อด้านนอกบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ตั้งแต่ต้น ทำให้อาจารย์อาเฮ่อไม่อาจเข้าไปช่วยเหลือได้เร็วกว่านี้

“ยังมี…” คังผิงชี้ไปที่ด้านหลังหลินฮั่นหัว “ยังมีเด็กน้อยที่อยู่ด้านหลังท่าน เยี่ยนจ้าวเกอ! หลังจากสืบสาวจนถึงที่สุด ก็เป็นสถานการณ์ที่เขาสร้างขึ้นมาในตอนนั้น”

เยี่ยนจ้าวเกอเดินออกมาจากด้านหลังหลินฮั่นหัว เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “ตามความเข้าใจสถานการณ์ของข้า เมื่อช้ากว่าหลัวจื้อเทาแห่งสำนักแสงสว่างไปก้าวหนึ่ง ฮูหยินและบุตรของท่านสมควรต้องตายไปแล้ว”

“ความรักของมารดาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ แม้จะเป็นศัตรู แต่ข้าชื่นชมฮูหยินของท่านยิ่ง นางได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นแล้ว”

“ทว่าฮูหยินของท่านและบุตรของท่านคิดเอาชีวิตของข้า เมื่ออยู่ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์หากไม่มีวิธีการ คนที่ตายก็คือข้านี่เอง ข้าไม่มีความสนใจจะยื่นคอให้ฟัน และงอมือรอความตาย”

ชายหนุ่มเอ่ยต่อว่า “คนที่ฆ่าคน สุดท้ายย่อมถูกฆ่า ประโยคนี้ใช้ได้กับทุกคน”

คังผิงกล่าวอย่างช้าๆ “ใช้กับเจ้าได้เหมือนกัน”

“นี่ย่อมแน่นอน ใช้กับผู้ใดก็ได้ทั้งนั้น” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้น ขณะเดียวกันเกร็งร่าง รักษาความเยือกเย็น ความคิดมากมายทำงานอย่างรวดเร็ว ระมัดระวังตัวเต็มที่

ต่อหน้าตน คือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้สูญเสียภรรยาและกำลังจะคลุ้มคลั่ง

ทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่โดดเด่นในกลุ่มจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดเหมือนพวกกู้หง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง

บางทีอาจจะพกกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน ที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงมาด้วย

อีกฝ่ายหากครั้งนี้ลงมือด้วยความเดือดดาล เกรงว่าจะมีอานุภาพราวกับฟ้าถล่มดินทลาย

พวกหลินฮั่นหัวและเฉินจื้อเหลียงแม้ว่าจะปกป้องตน แต่ตนถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนของเขาโถงทอง คังผิงตอนนี้คิดจะแก้แค้นให้ฮูหยินของตัวเอง นี่เป็นความแค้นอย่างแท้จริง

เป็นบุญคุณความแค้นที่ล้ำลึกยิ่งกว่าตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอได้ของวิเศษต่างๆ อย่างเช่นเครื่องหอมบรรุจฟ้า และผลึกปอดแดนทะเล จากการสังหารเลี่ยวเจิง ศิษย์ร่วมสำนักของเขาเสียอีก

ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้พวกหลินฮั่นหัวไม่ลงมือ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผลแต่ประการใด

แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่เสียใจ

ตามคำพูดก่อนหน้า เขาไม่ใช่คนที่งอมือรอความตาย

ท่านมีสามีที่ร้ายกาจ ท่านมีบิดาที่เก่งกล้า ท่านอยากสังหารข้า ข้าต้องยื่นคอให้ท่านฆ่าหรือ?

ฝันไปเถอะ!

การเผชิญหน้ากับคังผิงที่น่ากลัวในตอนนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน

เยี่ยนจ้าวเกอโคจรญาณจริงแท้ทั่วร่าง ในห้วงสมองคำนวณวิธีการรับมือที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง จิตใจสงบนิ่ง เขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าคนเราเมื่อเกิดมา หลายๆ ครั้งอะไรที่ทำได้ต้องทำ ต่อให้ทำไม่ได้ก็ต้องทำ

………………..