ตอนที่ 2314 มหาสงครามด้านนอกหุบเขา (3)

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

เมื่อราชาแมลงกลืนทองคำเห็นดังนั้น ก็โจมตีทันทีโดยไม่ยั้งมือ นิ้วทั้งสิบโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

ชิ้นส่วนของคริสตัลสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าสู่พายุสีดำ ด้านในก็ส่งเสียงตวาดด้านความโมโหออกมา ทันใดนั้นเองดาบสีน้ำเงินที่มีขนาดมากกว่าหนึ่งร้อยจั้งก็โจมตีออกมา

ดาบเล่มนี้มีรูปร่างแปลกประหลาดมาก มันทั้งยาวทั้งโค้ง เหมือนจะเป็นดาบแต่ก็ไม่ใช่ดาบ แต่หลังจากที่มีเสียงคำรามดังก้องออกมา ปราณเย็นก็แผ่ออกมา ปราณที่ว่านั้นเป็นพลังที่น่ากลัวมากจริงๆ

ราชาแมลงกลืนทองคำมองดาบนั้นด้วยความว่างเปล่า เดิมทีกระบี่คริสตัลได้ส่องแสงออกมา ลำแสงคริสตัลมากกว่าสิบสายได้รวมตัวกัน จนกลายเป็นสายรุ้งเส้นหนึ่งที่มีความยาวมากกว่าสิบจั้ง

เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างโจมตีใส่กัน เขาเห็นเพียงปราณเย็นที่ปรากฏออกมาพร้อมกันเท่านั้น จากนั้นก็มีเสียง “ตู้มๆ” ดังขึ้นอย่างน่าอันตราย

ใบมีดยักษ์สีน้ำเงินเล่มนั้นฟันลงไปที่ตรงกลางของคู่ต่อสู้ทันที

กระบี่คริสตัลเล่มนั้นคมกริบและแข็งแรงเกินกว่าสมบัติธรรมดาจะป้องกันได้

เมื่อไม่มีอะไรสามารถป้องกันลำแสงคริสตัลนั้นได้ เมื่อลำแสงนั้นฟันเข้ามา มันโดนคนที่อยู่กลางพายุอย่างไม่ลังเล

จากนั้นก็มีเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้น พายุสีดำก็ม้วนตัวแรงขึ้น กลายเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่

เสียงหวีดหวิวของพายุหมุนดังขึ้น แสงคริสตัลก็กะพริบขึ้นอย่างรุนแรง ไม่นานพายุหมุนยักษ์ก็ถูกทำลายลงไปทันที

“ปัง”

แสงคริสตัลพุ่งโจมตีเงาคนร่างใหญ่ จากนั้นคนผู้นั้นก็กระเด็นออกมาจากพายุหมุน หลังจากร่างกายของเขาไกว่ไปมาหลายครั้ง ก็กลับมายืนอย่างมั่นคงในระยะร้อยจั้งที่ห่างออกไป

คนผู้นั้นคือปู้เมี่ยที่แสนดุร้าย

ปู้เมี่ยในตอนนี้ดูจนตรอกอย่างมาก บนร่างกายของเขามีแผลมากมาย และต้นขาของเขาข้างหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป กลางฝ่ามือของเขามีโล่กระดูกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา มันดูเสียหายไม่น้อยทีเดียว

อีกทั้งชายร่างยักษ์ก็มามองที่เด็กคนนี้จากระยะไกลอีกด้วย นอกจากสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจัดแล้ว ยังแฝงไปด้วยความกลัวอีกด้วย

แม้ว่าเทพปู้เมี่ยจะถูกโจมตีอย่างรุนแรง แต่หลังจากที่เขาส่งเสียงคำรามเล็กแหลมขึ้นอีกครั้ง บาดแผลบนร่างกายก็หายไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดขาที่หายไป ก็ยังสามารถงอกออกมาใหม่ได้

ราชาแมลงกลืนทองคำเห็นดังนั้น ก็หรี่ตาพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นและชี้นิ้วที่ชายร่างยักษ์ผู้นั้น

“ตู้มๆ” เสียงดังเกิดขึ้น

ชั่ววินาทีนั้นเอง บริเวณโดยรอบของชายร่างยักษ์ผู้นั้นก็มีปราณกระบี่จำนวนมากมายมหาศาลปรากฏขึ้น และพุ่งมาโจมตีที่จุดกึ่งกลางอย่างแม่นยำ

ในขณะเดียวกันนั้น ชายร่างเล็กก็บินไปอยู่ด้านหน้าของศัตรูด้วยความเงียบเชียบ

สีหน้าของชายร่างยักษ์ผู้นั้นเปลี่ยนแปลงไปทันที ปากก็ส่งเสียงร้องคำราม หมัดหนึ่งโจมตีเข้าที่หน้าอก ปราณสีดำก็ทะลักออกมา จนกระดูกสีขาวก็ทิ่มทะลุร่างกายออกมา

อีกทั้งโล่กระดูกที่อยู่กลางฝ่ามือของชายร่างยักษ์ก็คล้ายจะพังแล้ว เขาพุ่งโจมตีชายร่างเล็กด้วยความโหดร้าย เสียงปะทะกันดังขึ้น กลายเป็นแสงสีขาวกระจายไปทั่ว ทันใดนั้นร่างของชายร่างยักษ์ก็บิดเบี้ยวแล้วหายไปจากจุดเดิมที่เขายืนอยู่

ทันใดนั้นเอง กลางอากาศที่ห่างออกไปประมาณร้อยจั้ง เกิดระลอกคลื่นอันหนึ่งขึ้น ชายร่างยักษ์คนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมา

“ตู้ม” เสียงระเบิดดังลั่น

คนร่างเล็กยกหมัดขึ้น จากนั้นโล่กระดูกของฝ่ายตรงข้ามก็ระเบิดอย่างรุนแรง สายตาของเขาก็มีประกายความเย็นชาแผ่ออกมา ทันใดนั้นร่างของเขาทั้งร่างก็กลายเป็นสายรุ้งแล้วพุ่งไปที่ที่ชายร่างยักษ์คนนั้นยืนอยู่

เทพปู้เมี่ยรู้สึกตกใจอย่างมาก สายตากวาดมองไปทั่ว ต้นขาที่เพิ่งสร้างใหม่ของเขายังคงมีเลือดไหลอยู่เล็กน้อย มันยังสร้างไม่เสร็จดีนัก ตอนนั้นเขาต้องกัดฟันแล้วย้ายร่างของตัวเองออกจากจุดเดิมอีกครั้ง

ราชาแมลงกลืนทองคำไม่อยากจะปล่อยศัตรูหนีไปแบบนี้ มันจึงควบคุมสายรุ้งแล้วไล่ตามไป

คนหนึ่งหลบหนีไม่พัก อีกคนก็ไล่ตามไม่หยุด

ในตอนนั้นเอง นักพรตซานเฉวียนก็เพิ่งพูดคำว่า “สิบ” ออกมา แต่วานรที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกลับมองพวกเขาด้วยความเย็นชา สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงเลย

“เป็นไปไม่ได้ พิษของงูโลหิตนั้นร้ายแรงมาก ต่อให้เป็นร่างอมตะก็ต้องตาย เขาไม่มีทางหลบหนีไปได้เกินสามก้าวแน่นอน” ใบหน้าของนักพรตตื่นตระหนกอย่างมาก เขาตะโกนขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ “โง่มากที่อยากจะจัดการผู้น้อยแซ่หานด้วยพิษโลหิต ช่างคิดเพ้อฝันเสียจริง งูน้อยตัวนั้นกัดไม่เข้าผิวหนังของข้าน้อยหรอก” วานรยักษ์ตัวนั้นหัวเราะอย่างดุร้าย เขายกมือข้างที่โดนกัดขึ้นมา แล้วตบมันเบาๆ พบว่าขนของมันมีสายฟ้าส่องประกายแปร๊บๆ

“ฟู่” เสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสีดำกลุ่มหนึ่งไหลออกมาจากปากแผลที่เป็นรอยฟันสองรู รอยนั้นเล็กมาก จนแทบจะมองไม่เห็น

นั่นคือพิษของงูโลหิตตัวนั้นที่หานลี่ขับออกมา

เดิมร่างกายของหานลี่ก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ต่อให้พิษแพร่กระจายไปจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้หานลี่เคยฝึกวิชาหมื่นพิษมาแล้ว ทำให้เขาสามารถควบคุมพิษได้ทุกชนิด พิษโลหิตเหล่านี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

เมื่อหวงหยวนจื่อที่เห็นดังนั้น สีหน้าก็มืดครึ้มลงอย่างมาก และหลังจากที่เขากวาดสายตาไปมองปู้เมี่ยที่หลบหนีราชาแมลงกลืนทองคำด้วยความอับอายแล้ว ใบหน้าของเขาก็โหดเหี้ยมมากขึ้น เท้าข้างหนึ่งของเขากำลังเหยียบซุ้มประตูขนาดใหญ่อยู่

ทันใดนั้นซุ้มที่ว่าก็เลือนรางหายไป

วานรยักษ์ที่ยืนอยู่กลางอากาศ ได้ยินเสียงพายุและลมหมุนอยู่ จากนั้นซุ้มประตูขนาดยักษ์ก็ปรากฏที่ข้างกายเขาอย่างเงียบเชียบ

หวงหยวนจื่อก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนของเขาเช่นกัน จากนั้นก็มีเสียงดังตู้มเกิดขึ้น แขนทั้งสองข้างเขาก็ประกบกันโดยร่ายคาถาเพื่อเป็นการกระตุ้น จากนั้นมันก็ระเบิดตัวเอง กลายเป็นหมอกโลหิตพุ่งเข้าไปในใต้ฐานของซุ้มประตูนี้

เมื่อหานลี่เห็นดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิชาลับอะไรอีก ดังนั้นแววตาของวานรยักษ์ก็ส่องประกาย ทันใดนั้นมีหมัดพุ่งโจมตีซุ้มประตูจากที่สูง

ทันทีที่หมัดที่เต็มไปด้วยขนปรากฏขึ้นมา ท้องฟ้าก็มืดสนิทไปทันที จิตสังหารที่มองไม่เห็นก็พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุหมุน พุ่งโจมตีไปที่หวงหยวนจื่อและซุ้มประตูจนตัวเขากระเด็นออกไป

ในตอนนั้นเองหวงหยวนจื่อก็กรีดร้องเสียงดัง เลือดท่วมร่างกาย เลือดจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากผิวหนัง ทันใดนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นเงาโลหิตแล้วพุ่งเข้าไปในซุ้มประตูอีกครั้ง

“ตู้ม” เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง

ซุ้มประตูกลายเป็นความว่างเปล่า จากนั้นเขาก็เห็นเงาพระจันทร์อยู่ในแหล่งน้ำ ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมโชยมา จิตสังหารขนาดใหญ่เมื่อครู่กลายเป็นระเบิดแล้วพัดออกไปจนไกลลิบ เพียงแสงสว่างเดียวก็ทำให้พลังของเขาหายไป

“วิถีมายา”

เมื่อวานรยักษ์เห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกตกใจและประหลาดใจนิดหน่อย ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเสียงต่ำ มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นมาร่ายคาถา เขาจะแสดงเคล็ดวิชาลับเพื่อทำลายวิชาภาพลวงตาที่อยู่ด้านหน้าเขา

ด้วยเนตรวิญญาณของเขา แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซียนอยู่แล้ว การแสดงภาพลวงตาต่อหน้าเขา ถือเป็นการแกว่งขวานที่หน้าบ้านคนตัดไม้จริงๆ รนหาที่ตายชัดๆ

แต่ว่าในช่วงเวลานั้นเอง เสียงกัดฟันกร๊อดของหวงหยวนจื่อก็ดังขึ้นมากลางอากาศ “พลังของท่านช่างแข็งแกร่งจริงๆ เดิมทีผู้น้อยแซ่หวงก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของท่านได้ แต่ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าน้อยสัญญาว่า ข้าจะไม่ฆ่าชิงหยวนจื่อ และจะไม่ออกจากแม่น้ำอเวจีแห่งนี้ หากสหายยอมละมือและจากไปในตอนนี้ ข้าน้อยจะมอบของขวัญที่ข้าน้อยสะสมมาครึ่งชีวิตให้ท่าน หากไม่แล้วนั้นจะเป็นการบังคับให้ท่านและข้าตายไปด้วยกันทั้งคู่”

“ตายไปด้วยกันทั้งคู่ ด้วยมายากระจอกๆ ของเจ้าหรือ” เมื่อวานรยักษ์ได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียงหัวเราะดังลั่น ดวงตามีแสงสีน้ำเงินเปล่งประกายออกมา มือสีทองพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า

นิ้วทั้งห้าคว้าอากาศด้านหน้า แต่ราวกับว่ากำลังจับอะไรสักอย่าง

เสียงร้องคำรามดังขึ้น ฝ่ามือสีทองก็คว้าไปที่ลำแสงทั้งห้าสีและระลอกคลื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ปรากฏขึ้น ร่างเงาคนสีเลือดก็หายไปในพริบตา

เมื่อฝ่ามือสีทองดึงกลับมา คว้ากลับมาได้เพียงเกราะสีเหลืองเปื้อนเลือดของหวงหยวนจื่อ

แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะไม่สามารถจับเขาของหวงหยวนจื่อได้ แต่เขาก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว

หานลี่ขมวดคิ้ว เขาประหลาดใจเล็กน้อย

“นี่เจ้าบังคับข้าเองนะ ข้าจะทำให้เห็นว่าประตูเก้ามายาสมปรารถนามันเก่งกาจแค่ไหน”

เสียงของหวงหยวนจื่อดังขึ้นกลางอากาศ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็ร่ายคาถาเสียงเบา ระลอกคลื่นก็เกิดรอบตัวของหานลี่ รัศมีลำแสงทั้งเก้าก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็กลายเป็นซุ้มประตูที่มีเก้าช่องทางเข้า

ช่องทางเข้าแต่ละอันมีขนาดสูงมากกว่าสิบจั้ง พื้นเรียบลื่น ทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้นมีเสียงดังหึ่งๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน พร้อมอักษรรูนสีเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น หลังจากที่อักษรเหล่านั้นสั่นได้สักพัก มันกลายเป็นลูกปัดขาวเทาขนาดนิ้วหัวแม่มือจำนวนมากมาย

ลูกปัดขาวเทาเหล่านั้นเต็มไปด้วยรอยเลือด พวกมันส่องแสงติดๆ ดับๆ ไม่หยุด กลิ่นอายดูน่ากลัวอย่างมาก

“ศพแม่ลูกหยินเหลย” ในที่สุดหานลี่ก็รู้ที่มาของพวกมัน เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก

มือข้างหนึ่งของวานรหนักก็เริ่มคาถา บนร่างกายของเขาก็ปรากฏไอเย็นส่องแสงออกมา จากนั้นเส้นไหมสีเขียวก็พุ่งออกมาอย่างมากมาย โจมตีเข้าที่ลูกปัดพวกนั้น

แม้ว่าลูกปัดหนึ่งลูกศพแม่ลูกหยินเหลยจะมีพลังทำลายล้างสูงมาก แต่ด้วยจำนวนมากขนาดนี้ หานลี่ก็ไม่กล้ารับพลังของมันโดยตรง แต่ก่อนที่พวกมันจะสามารถใช้พลังได้เต็มที่ ก็น่าจะใช้เส้นไหมกระบี่ทำลายพวกมันออกไปได้

ตอนนั้นเองรูม่านตาของวานรยักษ์ก็หดเล็กลง

ขณะที่เส้นไหมสีเขียวกับฟาดฟันลูกปัดพวกนั้นอยู่ มันก็สามารถเจาะผ่านพวกมันได้ในทันที ราวกับว่ามันคือ “ภาพลวงตา” หานลี่ชะงักไป สีหน้าแสดงความตกใจอย่างมาก

ก่อนหน้าที่เขาจะปล่อยเส้นไหมออกโจมตี เขาใช้จิตสัมผัสกวาดมองแล้ว กลับไม่พบความผิดปกติใดๆ

ในตอนนี้ลูกปัดพวกนั้นสั่นไหวเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ทยอยเข้ามาหาเขา

ความคิดของหานลี่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นร่างของวานรยักษ์ก็เปล่งแสงสีทอง มือข้างหนึ่งยื่นออกไปด้านหน้า แล้วคว้าลูกปัดสีเทาที่อยู่ห่างออกไปสิบจั้งมาไว้กลางฝ่ามือ

“ไม่ใช่ นี่มันของจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา” มือของวานรยักษ์สัมผัสที่ลูกปัดนั้นแล้วรู้สึกถึงความร้อนในมือ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

“ตู้ม” เสียงระเบิดดังขึ้น ลูกปัดสีเทาระเบิดขึ้นที่กลางฝ่ามือของวานรยักษ์ตัวนั้น และมันระเบิดอย่างรุนแรงมากขึ้น วานรยักษ์อยู่กลางดงระเบิดทันที