ตอนที่ 2315 แรงตัดที่แข็งแกร่ง

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากรัศมีของการระเบิด

จากนั้นก็มีมือขนาดใหญ่สองข้างโผล่ออกมา หลังจากนั้นระเบิดเหล่านั้นก็กระเด็นออกไปทันที

รัศมีลำแสงถูกสองมือนั้นฉีกออกเป็นชิ้นๆ

วานรยักษ์ก้าวเท้าออกมายืนอยู่ตรงกลางของลำแสงสีม่วงทอง แม้ว่าร่างกายของเขาจะมีรอยด่างดำเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก

“ที่แท้นี่ก็ไม่ใช่ศพแม่ลูกหยินเหลยของจริง มีพลังได้แค่หนึ่งในสิบ แรงแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอกนะ ช่างคิดเพ้อฝันเสียจริง เป็นวิชาที่เลียนแบบของจริงได้เหมือนมาก นับว่าน่าสนใจไม่น้อย” วานรยักษ์ยิ้มออกมาแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง

“หึ เม็ดเดียวใช้ไม่ได้ผล งั้นสิบเม็ดร้อยเม็ดล่ะ” รอบด้านเงียบลงในทันที หวงหยวนจื่อเองก็ตกใจกับสภาพผิวหนังของวานรยักษ์ตัวนั้น แต่เขาก็พูดโต้ตอบอย่างดุร้ายขึ้น

สิ้นเสียง ลูกปัดที่อยู่โดยรอบก็สั่นขึ้น จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาหานลี่ราวกับเม็ดฝน

“โง่เง่า แม้ว่าผู้น้อยแซ่หานจะรู้ว่านี่ไม่ใช่วิชาที่แท้จริง แต่การทำลายมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”

น้ำเสียงวานรยักษ์พูดเสียงเบา ทันใดนั้นอักษรรูนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นบนผิวหนังของเขา ในขณะเดียวกันก็มีลำแสงวิญญาณปรากฏขึ้น แบ่งร่างออกมาเป็น วิหคมัจฉา วิญญาณแท้ หงส์สวรรค์ นงยูง เป็นต้น หลังจากที่เงาวิญญาณแท้เหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น มันก็บินวนไปรอบๆ และพุ่งเข้าไปในร่างวานรยักษ์รวดเร็วเหมือนสายฟ้าพร้อมหายไปอย่างไร้ร่องรอย

วินาทีถัดมาร่างกายของวานรยักษ์ที่อยู่ในแสงสีทองม่วงก็ขยายใหญ่ขึ้นมา ที่ไหล่ทั้งสองข้างและใต้ซี่โคร่งมีเปล่งแสงออกมา ร่างกายของเขามีสามหัว หกแขน ทั่วทั้งร่างกายก็เต็มไปด้วยเกล็ดสีทอง หน้าผากก็มีเขาสั้นๆ ปรากฏขึ้นมา

หานลี่เข้าสู่นิพพานเปลี่ยนร่างขั้นที่สาม

หลังจากเปลี่ยนร่างแล้ว ปราณที่อยู่รอบกายของวานรยักษ์ก็ดูน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย จากนั้นสายตาของเขาก็ดูโหดเหี้ยมขึ้นอย่างมาก ตรงช่วงแขนของเขาก็มีกลุ่มก้อนสีเขียวระเบิดขึ้น พริบตาเดียวก็กลายเป็นกระบี่ไม้สีดำ มาตกอยู่ที่กลางฝ่ามือของเขาพอดี

นั่นคือกระบี่จิตวิญญาณสวรรค์ทมิฬ

กระบี่เล่มนั้นสั่นเล็กน้อย ในตอนนั้นเองอักษรรูนห้าสีก็พวยพุ่งออกมา ส่องแสงสว่างวาบ วงแหวนแสงสีเขียวดำก็ระเบิดออกมาจากตัวของวานรยักษ์ และกระจายไปทั่วทุกทิศ ระลอกคลื่นที่แข็งแกร่งยังแผ่กระจายออกไป

ในตอนนั้นเองวงแหวนสีเขียวดำก็ปะทะกับลูกปัดเหล่านั้น

“ตู้มๆ” เกิดระเบิดเสียงดังลั่น

ทำให้เกิดฉากที่น่าตกใจอย่างมาก

ลูกปัดทั้งหมดก็ส่งเสียงอื้ออึง ด้านนอกส่องแสงสีเลือดอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ทยอยกลายเป็นเถ้าธุลี

“พลังแห่งการทำลายล้าง สมบัติสวรรค์ทมิฬ ไม่ เป็นไปไม่ได้…” หวงหยวนจื่อที่ยืนอยู่กลางอากาศก็กรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจ เสียงที่เปล่งออกมาดูแหบแห้งอย่างมาก

แต่ว่าในเวลานี้ วานรยักษ์กลับหัวเราะเย็นๆ ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็กวาดสายตาไปที่ซุ้มประตู กระบี่ไม้ในมือของเขาก็ตั้งตรงขึ้น และฟันไปที่ซุ้มแห่งนั้น ปราณกระบี่สีเขียวก็พุ่งออกไป

ในเวลาเดียวกัน แขนอีกข้างของเขาเหมือนจะเลือนหายไป หมัดอีกสองก็ต่อยที่ซุ้มประตูแปดบานที่เหลือ

กลุ่มแสงสีทองอีกสิบกว่ากลุ่มก็ปรากฏขึ้นมา มันกะพริบแปร๊บๆ จากนั้นลำแสงกระบี่สีเขียวก็พุ่งไปโจมตีซุ้มประตูแปดบานอย่างต่อเนื่อง

“ตู้มๆ” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก้อนลำแสงสีทองหายไปหมดแล้ว กลายเป็นระลอกคลื่นสีทอง ทันใดนั้นเองซุ้มประตูก็จมหายไปกลางอากาศทันที

ด้วยพลังการโจมตีของลำแสงสีทอง ทำให้ซุ้มประตูที่เหลือแตกละเอียด โดยไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลย เงาวิญญาณทั้งแปดก็ปรากฏขึ้นเหนือซากประตูที่หักพัง แต่เขาดิ้นรนได้เพียงชั่วครู่ ก็โดนลำแสงสีทองโจมตีเข้าไปอีกทีและทำให้พวกมันตายเรียบ

ในตอนนั้นเอง หลังจากลำแสงของกระบี่สีเขียวเลือนราง เขาก็ตัดซุ้มประตูบานสุดท้าย พร้อมหั่นครึ่งประตู “ตู้ม” เสียงดังสนั่น วิญญาณสีเหลืองจางๆ ออกมาจากซุ้มประตูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก หลังจากที่มันเลือนราง มันหายไปท่ามกลางความว่างเปล่า พริบตาเดียววิญญาณตนนั้นก็อยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณพันจั้ง

“พี่ซานเฉวียน รีบลงมือเถอะ ร่างแยกของข้าถูกทำลายทั้งหมดแล้ว หากยังไม่ลงมืออีกล่ะก็…อ๊าก…”

ร่างเงาวิญญาณสีเหลืองนั้นคือหวงหยวนจื่อ แต่เมื่อครู่เขาเพิ่งพูดออกมาได้แค่สองคำ อยู่ๆ ด้านบนของเขาก็เกิดระลอกคลื่น พร้อมกับมีฝ่ามือยักษ์สีม่วงทองขนาดร้อยจั้งปรากฏออกมา และตบลงมาด้วยความรวดเร็ว

หวงหยวนจื่อตกใจอย่างมาก เขาต้องการจะหลบหนี แต่ฝ่ามือสีม่วงทองพร้อมอักษรรูนสีเงินก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศ หลังจากเขาหันหลังกลับมามอง ก็พบว่ามันสายเกินไปแล้ว

หวงหยวนจื่อรู้สึกว่าอากาศรอบด้านของเขาควบแน่นมากขึ้น ปราณที่อยู่ในร่างกายก็ใช้งานไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือหายตัวได้ ราวกับว่าเขากำลังถูกจองจำอยู่

หวงจื่อหยวนตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง เขาขู่ร้องคำรามเสียงดัง

ในเวลาเดียวกันวิญญาณสีเหลืองของเขาที่ยืนอยู่กลางอากาศก็มีรัศมีลำแสงหลากสีฉายเข้ามาที่ร่างกายของเขา สมบัตินับสิบชิ้นหลากหลายชนิดก็ลอยออกจากร่างกายของเขา จากนั้นมันก็ระเบิดทันที

เห็นได้ชัดว่าชีวิตของหวงหยวนจื่อหมดทางไปแล้ว

ซานเฉวียนที่ยืนอยู่ห่างออกไปได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของหวงหยวนจื่อ ใบหน้าของเขาในตอนนี้ก็แสดงความลังเลอย่างมาก เขาไม่ได้รีบเข้าไปช่วยทันที หลังจากที่เขาเห็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังอีกครั้ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีทันที ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้แล้ว ในตอนนั้นเองมือข้างหนึ่งของเขาก็ร่ายคาถาทันที เมื่อแสงสว่างวาบขึ้น เขากลายเป็นรุ้งสามสีและหาทางหลบหนีออกจากหุบเขาแห่งนี้

หลังจากมันส่องแสงไม่กี่ครั้ง สายรุ้งเหล่านั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ในตอนนั้นเองมือขนาดใหญ่สีทองม่วงที่มีอักษรรูนสีเงินวนรอบอยู่ก็ปรากฏขึ้น และกดรัศมีลำแสงที่กำลังจากไปได้ทันเวลา

ไม่ว่าแสงสายรุ้งสีเหลืองจะแหลมคมเหมือนลูกศรแค่ไหน แต่ด้วยการระเบิดตัวเองของสมบัติพวกนั้นก็มีพลังรุนแรงอย่างมาก หลังจากเมื่อมาสัมผัสกับมือขนาดยักษ์สีม่วงทองแล้ว มันก็ถูกบดขยี้ทันที

หวงหยวนจื่อพยายามอย่างมากที่จะพ่นโลหิตบริสุทธิ์มากกว่าสิบคำเพื่อใช้เป็นเกราะป้องกัน แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เขาทำได้คือมองดูฝ่ามือยักษ์เท่ากับภูเขาไท่ซานกดลงมาที่ร่างกายของเขา

กลุ่มหมอกสีเลือดระเบิดกระจายออกมา ตามด้วยแสงสีเหลืองที่ค่อยเลือนราง เขารอดจากการคุมขังของฝ่ามือยักษ์ พริบตาเดียวเขาก็หนีออกมาได้ระยะหนึ่งร้อยจั้ง

ท่ามกลางแสงสีเหลือง มีคนที่สวมชุดคลุมสีเหลืองอยู่ หน้าตาคล้ายกับหวงหยวนจื่ออย่างมาก นั่นคือจิตวิญญาณขั้นก่อกำเนิดของเขา

มีแต่จิตวิญญาณของระดับมหาเมธีเท่านั้นที่จะสามารถเมินเฉยต่อการกักขังและหลบหนีออกจากฝ่ามือยักษ์ได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าเขาในตอนนี้รู้แล้วว่าสหายซานเฉวียนได้หลบหนีไปแล้ว เขาสาปแช่งอยู่ในใจ เขาร่ายคาถาขึ้นกลางฝ่ามืออย่างไม่ลังเล เขาหลบหนีไปในทิศทางเดียวกันกับซานเฉวียน

ในระยะไกล เมื่อวานรสามหัวหกแขนได้เห็นดังนั้น ใบหน้าทั้งสามของมันก็ดูเยือกเย็นขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ดาบไม้ในมือสีเขียวดำสั่นเล็กน้อยเหมือนกับจะสื่อสารอะไรสักอย่าง

“ตู้ม”

ปราณกระบี่สีเขียวรูปจันทร์เสี้ยวปรากฏออกมาและหายไปในความว่างเปล่า

บริเวณใกล้เคียงกับนักพรตที่สวมชุดสีเหลืองยืนอยู่นั้น มีระลอกคลื่นเกิดขึ้น และปราณกระบี่จันทร์เสี้ยวก็ปรากฏขึ้นมา และหายไปในความว่างเปล่าอีกครั้ง

เวลาผ่านมา มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น

กลางอากาศเกิดระลอกคลื่นขึ้น หมอกสีเลือดกลุ่มหนึ่งก็พวยพุ่งออกมา ด้านในมีชิ้นส่วนเศษเนื้อจำนวนมากมาย เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่กลางอากาศ จากนั้นก็มีเสียงดัง “ตู้ม”

ลูกไฟเพลิงสีแดงพุ่งมาจากระยะไกล และระเบิดเข้าไปที่หมอกสีเลือดนั้น เพลิงสีแดงลุกท่วม ทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีนี้กลายเป็นเถ้าธุลีทั้งหมด “ก็ถือว่าทำลายได้หมดแล้ว ประตูเก้ามายาสมปรารถนานี้ ค่อนข้างจัดการได้ยาก ทำเอาข้าถึงกับต้องเอาร่างนิพพานกลายร่างออกมาใช้ แต่ว่านักพรตซานเฉวียนท่านนั้นก็ถือว่าหนีได้เร็วจริงๆ” ร่างสามหัวหกกรของวานรยักษ์ก็ค่อยๆ หดเล็กลง กลับคืนร่างมนุษย์ธรรมดา หลังจากนั้นก็หันไปมองเส้นทางที่นักพรตซานเฉวียนหนีไปอย่างเย็นชา

หานลี่ก็ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นกลางอากาศ จากนั้นหยกมิติสีขาวก็หล่นมาอยู่ที่กลางฝ่ามือของเขาพอดี

เขารีบใช้จิตสัมผัสสำรวจมันทันที ใบหน้าแสดงออกถึงความพอใจอย่างมาก เขาพลิกมือข้างหนึ่งขึ้น แล้วเก็บมันลงไปในสร้อยข้อมือมิติ จากนั้นก็หันไปมองสนามรบอีกด้านหนึ่ง

เขาเห็นพื้นที่ภูเขาใกล้เคียงในระยะสิบลี้ มีแต่เศษชิ้นเนื้อ เศษเลือด เลือดสดจำนวนมากไหลอย่างกับแม่น้ำ กลิ่นคาวเลือดอบอวน

ตรงเนินเขากองเลือดเล็กๆ เขาเห็นราชาแมลงกลืนทองคำในร่างคนตัวเล็กคนหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ ในมือของเขาถือหัวที่มีขนยาวรุงรังและมีขนาดเล็กเท่ากำปั้นอยู่ ดูไปแล้วน่าจะเป็นศีรษะของปู้เมี่ย แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงหดเล็กลงขนาดนั้น

นี่คือศีรษะของปู้เมี่ยหลังจากคืนร่างแล้ว เขาเกือบจะมีร่างกายเป็นอมตะแล้ว แต่ตอนนี้กองเลือดพวกนั้นไม่มีการตอบสนอง แปลว่าเด็กคนนี้ได้ฆ่าเขาไปแล้วจริงๆ

“จินเอ๋อร์ กลับกันเถอะ”

หานลี่ยิ้มเล็กน้อย แล้วสั่งให้เขากลับมา

เมื่อเด็กคนนั้นได้ยินเสียงของหานลี่ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากลับหลังหัน ยกเท้าขึ้น จากนั้นก็มีเสียง “ฟิ้ว” และเขาก็หายตัวไปจากจุดเดิม

ระลอกคลื่นปรากฏที่ข้างกายของหานลี่ จากนั้นเด็กคนนั้นก็ปรากฏตัวข้างๆ เขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

“ทำได้ไม่เลว แม้ว่าปู้เมี่ยจะเก่งกาจมาก แต่ตราบใดที่ถูกตัดศีรษะ พลังของการเยียวยาจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อบังคับให้จิตวิญญาณขั้นก่อกำเนิดออกจากร่าง ก็จะฆ่าได้ง่ายมากขึ้น เหมือนว่าด้านการต่อสู้ เจ้าไม่มีอาจารย์เป็นคนสอน แต่เจ้าก็ไม่ต้องให้ข้าสอนอะไรอีกแล้ว ทำได้ดีมาก!” หานลี่กวาดสายตามองหัวในมือของเด็กคนนั้น แล้วพูดอย่างชื่นชม

เมื่อเด็กคนนั้นได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเช่นเดิม แต่โค้งคำนับให้หานลี่ ทันใดนั้นเขามอบหัวและสร้อยข้อมือมิติให้กับหานลี่

หานลี่ยิ้ม และรับของทั้งสองสิ่งมาไว้ในมือ

แต่ว่าหลังจากที่เขากวาดสายตามองศีรษะนั้นแล้ว เขาก็ส่ายหน้าแล้วโยนมันออกไป พร้อมอ้าปาก ทันใดนั้นก็มีประจุสายฟ้าสีทองปรากฏออกมา

เสียงฟ้าร้องดังขึ้น จากนั้นหัวชิ้นนั้นก็หายไปท่ามกลางประจุสายฟ้าสีทอง