ตอนที่ 2014 งานชุมนุมโอสถเมฆา

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวผู้คนทั้งหลายถึงกับต้องตื่นตะลึง

และเทพสวรรค์ขั้นปลายพร้อมทั้งยังเป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวอย่างเปียวหยูนี้จะมีธุระใดให้มาขอเทพถ่องแท้น้อยๆ ผู้นี้กัน?

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ผู้อาวุโสเปียวหยูโปรดว่ามาเถอะ”

เทพสวรรค์เปียวหยูเปิดปากออกพูด “สามปีจากนี้เจ็ดดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสถของแดนใต้เราจะจัดงานชุมนุมยอดโอสถขึ้นและมันจะมียอดอัจฉริยะการโอสถมากมายไปรวมตัวกันที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา ข้าแค่สงสัยว่าเจ้าจะสนใจหรือไม่?”

เย่หยวนนั้นยังไม่ทันได้กล่าวตอบอะไรออกไปแต่ทางชางหยวนกลับพูดขึ้นมาแทน “งานชุมนุมโอสถเมฆา! ท่าน… ท่านกำลังเชิญเย่หยวนไปร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆา?”

มหาพิภพถงเทียนนั้นมันตั้งอยู่ล้อมรอบโดยมีเขาแห่งถงเทียนเป็นศูนย์กลางแบ่งเป็นเหนือ ใต้ ออก ตก กลาง ห้าดินแดนด้วยกัน

และพื้นที่ที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ตั้งอยู่มันก็คือแดนใต้นั่นเอง

แดนใต้นั้นมีดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลแต่ดินแดนที่จะกล้าเรียกตนเองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถนั้นมีไม่มาก

แดนใต้นั้นมีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถอยู่ด้วยกันเจ็ดแห่ง แต่ละที่ย่อมล้วนเป็นถึงยอดเมืองหลวงจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านโอสถมาอย่างยาวนาน

และหนึ่งในนั้นมันก็คือยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมากที่สุดในหมู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

งานชุมนุมยอดโอสถนั้นมันจะจัดขึ้นทุกๆ ห้าพันปีที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา เป็นงานที่รวบรวมยอดนักหลอมโอสถจากทั่วทุกทิศภายในแดนใต้นี้

ชื่อจริงๆ ของงานนั้นมันคืองานชุมนุมโอสถเมฆา!

เหล่านักหลอมโอสถที่จะเข้าร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ได้ย่อมเป็นยอดอัจฉริยะหาสิ่งใดเปรียบ

แต่สิ่งที่ชางหยวนตื้นตะลึงมากที่สุดก็คือตัวตนระดับเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยิ่งใหญ่ปานใด? เหตุใดตัวเขาถึงกับต้องออกหน้ามาเชิญเย่หยวนไปงานชุมนุมโอสถเมฆาเองถึงหน้าบ้านเช่นนี้ด้วย?

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นมันก็เป็นหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถเช่นกัน

และในฐานะเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น ตัวตนของเทพสวรรค์เปียวหยูจะต้องยิ่งใหญ่ปานใด?

แต่ตอนนี้ตัวเขาผู้นั้นกลับออกมาถึงหน้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เพื่อเชิญเทพถ่องแท้ผู้หนึ่ง มีหรือที่เรื่องเช่นนี้จะไม่ทำให้เขาตื่นตะลึง?

แต่ทางเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นกลับส่ายหัวออกมา “มันเป็นการร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆาจริง แต่มันมิใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก ด้วยฝีมือของเย่หยวน ปล่อยเขาไปเข้าร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆามันคงเป็นการรังแกผู้คนจนเกินไป”

ชางหยวนนั้นเบิกตากว้างขึ้นอย่างตื่นตะลึง “รังแกผู้คน?”

เขานั้นไม่อาจเข้าใจความหมายที่เทพสวรรค์เปียวหยูต้องการสื่อได้ เทพถ่องแท้สามดาวผู้หนึ่งจะไปรังแกผู้คนได้?

ในงานชุมนุมโอสถเมฆานั้นมันมีแต่ยอดอัจฉริยะ คนระดับนี้เองก็น่าจะมีมากมายนับไม่ถ้วน

การที่เย่หยวนวางยาพิษทัพเทพถ่องแท้นับพันได้มันย่อมจะเหนือล้ำจนทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแน่น

เพราะฉะนั้นในสายตาของชางหยวนแล้วเย่หยวนนั้นจึงจะเป็นแค่จอมพิษที่เก่งกาจผู้หนึ่ง

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องเลิกคิ้วสูงก่อนจะถามขึ้น “งานชุมนุมโอสถเมฆานี้ยิ่งใหญ่มากหรือ?”

เมื่อคำถามนี้ถูกกล่าวความเงียบงันมันก็เกิดขึ้นทั่วบริเวณ ทุกผู้คนต่างหันมามองดูเย่หยวนเป็นตาเดียว

“สหายหนุ่มเย่หยวน เจ้าไม่รู้ถึงงานชุมนุมโอสถเมฆาจริง?” เทพสวรรค์เฉาหยวนถามขึ้นอย่างตื่นตะลึง

“งานชุมนุมโอสถเมฆานี้มีชื่อเสียงมากหรือท่าน?” เย่หยวนได้แต่ถามกลับไปด้วยใบหน้ามึนงง

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่รู้ถึงงานชุมนุมโอสถเมฆาใดๆ นี้และหวู่เฉินก็ไม่เคยจะบอกเล่าใดๆ แก่เขา

เขานั้นถามหวู่เฉินไปเมื่อสักครู่แต่อีกฝ่ายนั้นก็ไม่ได้รับรู้ถึงงานเช่นนี้ด้วย

ดูท่าแล้วงานชุมนุมโอสถเมฆานี้มันจะเพิ่งเกิดขึ้นมาหลังจากที่จอมเทพนิรันดร์ตายลงไป

เทพสวรรค์ชางหยวนนั้นยิ้มตอบกลับมา “ไม่เคยได้ยินชื่องานชุมนุมโอสถเมฆาเจ้าก็เรียกตนเองว่าเป็นนักหลอมโอสถได้หรือ?”

เพราะตอนนี้แม้แต่พวกหลู่เหยียนก็ยังมึนงง

พวกเขานั้นพอเข้าใจได้ว่าการปรากฏตัวของสองเทพสวรรค์นี้มันมิใช่แผนการของเย่หยวนแน่

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยเยาะ “แค่รู้จักงานชุมนุมโอสถเมฆาก็เป็นนักหลอมโอสถได้แล้วหรือ?”

เหล่าเทพสวรรค์เฉาหยวนทั้งหลายนั้นต่างคาดคิดกันไปว่าสุดท้ายแล้วเย่หยวนก็คงมีเบื้องหลังที่ลึกล้ำ เขาจึงสามารถจะมีพรสวรรค์ฝีมือที่เหนือล้ำได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้

แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายเริ่มจะไม่แน่แล้ว

ในแดนใต้นี้ตราบเท่าที่เป็นศิษย์มีอาจารย์มันย่อมจะพอรู้ชื่องานชุมนุมโอสถเมฆาบ้าง

นอกจากนั้นแล้วเย่หยวนยังเป็นถึงยอดนักหลอมโอสถผู้เก่งกาจ

หากเย่หยวนนั้นเป็นแค่ยอดอัจฉริยะคนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากโคลนตม เช่นนั้นแล้ว… ตัวเขาจะต้องมากพรสวรรค์ถึงขนาดใดกัน?

เทพสวรรค์เฉาหยวนบอกเล่าขึ้น “สหายหนุ่มเย่หยวนนั้นไม่ทราบ แต่ว่างานชุมนุมโอสถเมฆานี้มันมีชื่อเสียงลือลั่นทั้งแดนใต้เรา มันเป็นงานที่เหล่านักหลอมโอสถทั้งหลายต่างเฝ้ารอ ตราบเท่าที่คนผู้นั้นเดินทางตามเต๋าโอสถ พวกเขาย่อมจะถือว่าการร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆานี้เป็นเกียรติอย่างสูงส่ง หลายๆ ครั้งมันยังมีนักหลอมโอสถจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ออกมาเข้าร่วม…”

เทพสวรรค์เฉาหยวนบอกเล่าเรื่องราวของงานชุมนุมโอสถเมฆาทำให้เย่หยวนรู้สึกสนใจอย่างมาก

รวบรวมยอดนักหลอมโอสถจากทั้งแดนใต้ มันย่อมจะหมายถึงงานชุมนุมที่สุดแสนยิ่งใหญ่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้มีวิชาโอสถถึงอาณาจักรเต๋าอย่างเทพสวรรค์เปียวหยู

การแลกเปลี่ยนความรู้กับคนระดับนั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่เย่หยวนเฝ้าฝัน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียอาณาจักรบรรพกาลนั้นมันก็สุดแสนเลือนราง เย่หยวนเข้าใจได้อย่างดีว่าต่อให้จะเก็บตัวในห้องไปคนเดียวอีกสักเท่าใดมันก็คงไม่อาจส่งตัวเขาขึ้นไปถึงได้

หากตัวเขานั้นได้ประมือกับยอดคนอย่างเทพสวรรค์เปียวหยูอีกหลายๆ ครั้ง ตัวเขาอาจจะก้าวข้ามเส้นกั้นนี้ไปได้

“เช่นนั้นเองหรือ แน่นอนว่าข้าย่อมต้องไปสัมผัสประสบการณ์เช่นนั้นให้ได้สักครั้ง” เย่หยวนพยักหน้ารับ

เทพสวรรค์เปียวหยูที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับมา “เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมรู้ดีว่าเจ้าจะสนใจ แต่หากเจ้าไปร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆามันย่อมจะมิใช่การไปต่อสู้กับเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายนั้น เหล่าเจ็ดยอดปรมาจารย์ผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสถนั้นจะมีเหรียญปรมาจารย์ติดตัวอยู่กันคนละสองเหรียญ แน่นอนว่าเหรียญหนึ่งมันย่อมเป็นของเทพสวรรค์ผู้นี้ แต่อีกเหรียญนั้น เทพสวรรค์ผู้นี้หวังว่าเจ้าจะรับมันไว้”

พูดไปเทพสวรรค์เปียวหยูก็ได้โยนเหรียญสีเหลืองอ่อนออกมาให้แก่เย่หยวน

เย่หยวนยกมือขึ้นมารับมันไว้และได้พบว่ามันคือเหรียญโบราณสีทองแดง

นั่นมันทำให้คนทั้งหลายตัวแข็งทื่อ!

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตกตะลึงอย่างเต็มหัวใจ

เหรียญปรมาจารย์!

นั่นมันคือเหรียญปรมาจารย์!

เหรียญปรมาจารย์แห่งงานชุมนุมโอสถเมฆามันย่อมจะหมายถึงยอดนักหลอมโอสถที่อยู่สูงสุดบนโลกหล้า ต่ำกว่าเพียงแค่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ มันเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ปานใด?

แต่ตอนนี้เทพสวรรค์เปียวหยูกลับมอบมันให้แก่เย่หยวนง่ายๆ เช่นนี้!

เจ้าเด็กคนนี้มันมีพลังใดกัน?

ตอนนี้แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์เฉาหยวนก็ยังตื่นตะลึงจนไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างได้

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะคิดว่าเย่หยวนนั้นเป็นยอดสัตว์ประหลาดจากเรื่องราวที่พวกซงหยูบอกเล่ามา

แต่สุดท้ายมันก็ยังมีความไม่เชื่ออยู่

ที่วันนี้พวกเขามานั้นมันก็เป็นเพราะว่าพวกซงหยูได้พัฒนาขึ้นรัศมีผ่าจักรพรรดิ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ทั้งหลายพวกเขาก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่ตอนนี้เมื่อเหรียญปรมาจารย์นี้ถูกโยนออกมามันก็ได้อธิบายทุกอย่างจนชัดเจนแจ่มแจ้ง

ด้วยตัวตนของเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีหรือที่เขาจะมอบเหรียญให้แก่เย่หยวนอย่างไม่มีเหตุผล?

ความตื่นตกใจของพวกชางหยวนนั้นมันมากล้ำจนทำให้เขาลืมภาษามนุษย์ไปทีเดียว

เทพสวรรค์เปียวหยูมอบเหรียญปรมาจารย์ให้แก่เย่หยวน มันหมายความว่าอย่างไร?

นี่มันย่อมเท่ากับว่าเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยอมรับเย่หยวนว่าเป็นผู้มีตำแหน่งฐานะเทียบเท่ากับตัวเอง!

นี่มัน… จะน่ากลัวจนเกินไปแล้ว!

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีฐานะที่สูงส่งปานใด? ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยว เทพสวรรค์เปียวหยูก็ยังสามารถยืนเทียบเขาได้อย่างเท่าเทียม

เพราะต่อให้เทพสวรรค์เปียวหยูจะเป็นแค่เทพสวรรค์ แต่ตำแหน่งของเขาในแดนใต้นี้มันกลับสูงล้ำจนไม่อาจหายอดฝีมือใดมาแทน

ว่ากันว่าเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลได้แล้ว

เช่นนั้นตัวตนของเขาก็จะยิ่งสูงล้ำกว่าเก่า!

จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วทำไม?

เพราะไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องการโอสถ!

แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจใช้โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดได้ แต่ลูกน้องของพวกเขาเล่า?

หากไม่มีโอสถศักดิ์สิทธิ์เป็นค่าตอบแทนแล้วมีหรือที่เทพสวรรค์จะยอมสยบรับใช้พวกเขาง่ายๆ?

เพราะฉะนั้นเทพสวรรค์เปียวหยูจึงมีตำแหน่งที่สูงล้ำในแดนใต้นี้อย่างที่ไม่แพ้ให้แก่จักรพรรดิเทพสวรรค์เลย

แต่ผู้ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นกลับยอมรับเย่หยวนว่าเทียบเท่ากับตัวเขา

นี่มัน… จะบ้าบอจนเกินไปแล้ว!

มีหรือที่เทพถ่องแท้สามดาวจะเก่งกาจสามารถได้ปานนั้น?

แต่ปัญหาก็คือตัวเขานั้นไม่ได้รู้ถึงงานชุมนุมโอสถเมฆา!

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ได้สร้างสัตว์ประหลาดประเภทใดขึ้นมากัน?!

…………………….