ตอนที่ 959: เทพเจ้าอสรพิษพิโรธ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 959: เทพเจ้าอสรพิษพิโรธ

แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่เต็มไปด้วยบาดแผลในขณะที่เลือดย้อมพวกเขาจนเป็นสีแดงทั้งหมด พวกเขาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่

จอมยุทธที่ดูอยู่จากด้านข้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจจนถึงขีดสุด ไม่เพียงแต่เจี้ยนเฉินจะมีโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดคอยปกป้องเขาเท่านั้น แต่เขายังทรงพลังอีกด้วย มันเพียงพอที่จะยกให้เขาเป็นสุดยอดจอมยุทธในอาณาจักรทะเล พวกเขาเชื่อว่าชื่อเสียงของเจี้ยนเฉินจะต้องเกริกไกรไปทั่วทั้งอาณาจักรทะเลหลังจากเรื่องที่เขาบุกมาที่ศาลาเทพเจ้าอสรพิษกระจายออกไป เขาคงจะโดยยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดจอมยุทธของอาณาจักรทะเล

ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกขมวดคิ้วเล็กน้อย พวกเขาบอกได้เลยว่าเจี้ยนเฉินกำลังทรมานแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่อยู่ แต่พวกเขาได้ตกลงไว้แล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งแม้แต่นิดเดียว พวกเขาได้แต่มองแม่ทัพศักดิ์ศิษย์ทั้งสี่ถูกทรมานอย่างโหดร้ายจากเจี้ยนเฉินแม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิฟันออกไปเหมือนภาพติดตาครั้งแล้วครั้งเล่าไปที่แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ทำให้บาดแผลของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ตกอยู่ในจุดที่พวกเขาไม่สามารถสวนกลับการโจมตีที่เหมือนพายุของเจี้ยนเฉินได้เลย ถ้าไม่ใช่ว่าเจี้ยนเฉินต้องการที่จะทรมานพวกเขา พวกเขาคงตายนานไปแล้ว

แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ถอยกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะแยกกันในตอนท้าย ในตอนที่พวกเขาพุ่งออกไปในทิศทางที่ต่างกัน พวกเขาถึงสลัดหลุดออกจากเจี้ยนเฉินได้ แต่นั่นก็นับรวมได้ 3 คนเท่านั้น คนสุดท้ายยังเผชิญหน้าอยู่กับการโจมตีที่เหมือนห่าฝนของเจี้ยนเฉิน เขาเป็นคนที่เอาเกราะไหมบรรพกาลของเจี้ยนเฉินไป

“เจี้ยนเฉิน ถ้าข้าจะต้องตายในวันนี้ ข้าก็จะไม่ให้มันง่ายนักหรอก” โทสะเผาไหม้อยู่ในดวงตาของแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขาเริ่มขยายตัวออก เสื้อของเขาฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ และเขาก็กลายเป็นมังกรอสรพิษตัวยาว 300 เมตรในพริบตา

เกราะไหมบรรพกาลที่อยู่บนตัวเขาก็ขยายออกเช่นกันแต่มันก็ไม่ได้ขาด มันขยายออกหลายเท่าและกลายเป็นเหมือนเข็มขัด มันพันรอบส่วนช่วงบนของร่างมังกรอสรพิษอย่างแน่น แต่มันก็ไม่ได้คลุมตัวของเขาไปทั้งหมด

โฮก ! มังกรอสรพิษคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวไปบนท้องฟ้าและชั้นแสงสีแดงโลหิตก็เริ่มที่จะส่องแสงออกมาจากร่างของมังกร พลังแห่งการมีอยู่ของมันเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวดในอัตราที่เหลือเชื่อหลังจากที่แสงปรากฎออกมา และเขาก็มีพลังถึงขั้นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6

ตาของเจี้ยนเฉินหรี่เล็กลง เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ใช้ทักษะลับที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นชั่วคราว แต่มันจะทำให้เขาได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจากนี้แน่

ต่อมา คาถาที่สัมผัสไม่ได้ก็พุ่งออกมาจากปากของมังกรอสรพิษ มันดังขึ้นเรื่อย ๆ มันสะท้อนไปทั่วรอบรอบเหมือนเสียงเพลง

ท่าทางของผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกเริ่มที่จะหมองหม่น หนึ่งในนั้นพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “นี่คือเทพเจ้าอสรพิษพิโรธ เขาร่ายมันออกมาจริง ๆ เขาไม่รู้หรือว่าผลต่อจากนี้มันจะร้ายแรงเพียงใด ? “

เทพเจ้าอสรพิษวิโรจน์เป็นวิชาลับที่ทรงพลังที่สุดของเผ่ามังกรอสรพิษ มันสามารถเรียนได้เฉพาะสมาชิกเผ่าที่เป็นเซียนราชาเท่านั้น

เทพเจ้าอสรพิษพิโรธก็เหมือนทักษะต้องห้ามของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแต่มันไม่ได้น่ากลัวเท่า อย่างไรก็ตาม ราคาที่ต้องแลกกับการร่ายมันนั้นก็หนักหนานัก ไม่เพียงแต่ผู้ร่ายจะกลับไปอยู่ในระดับการฝึกก่อนหน้านี้ แต่มันยังทำให้การตัดผ่านในอนาคตยิ่งยากขึ้นไปอีก มันจะกินวิญญาณและแก่นแท้จำนวนมากของผู้ใช้

เทพเจ้าอสรพิษพิโรธเป็นทักษะต้องห้ามของเผ่ามังกรอสรพิษ เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะถูกบีบบังคับจริง ๆ ไม่มีใครอยากจะใช้มันอย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่า แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์จะใช้มันก็ต่อเมื่อเขาไม่มีหนทางอื่นแล้วเท่านั้น

“เทพเจ้าอสรพิษพิโรธ ! ” มังกรอสรพิษคำรามออกไปด้วยภาษามนุษย์ พลังงานที่ทรงพลังของวิญญาณและแก่นแท้ได้ไหลออกมาจากร่างของเขา และพุ่งขึ้นไปที่ท้องฟ้า

ท้องฟ้าปั่นป่วนทันที เมฆพายุปรากฏขึ้นมาและบดบังท้องฟ้าเอาไว้ ทำให้บริเวณโดยรอบมืดลงทันใด

เสียงคำรามทุ้มและอื้ออึงดังขึ้นมาเป็นชุดชุดจากมันในขณะที่เมฆปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง มันดูเหมือนมังกรอสรพิษที่กำลังว่ายน้ำอยู่ด้านในนั้น

ทันใดนั้นเอง กรงเล็บใหญ่ก็พุ่งออกมาจากเมฆ และบินไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า กรงเล็บควบแน่นมาจากเมฆดำ และมันยังติดเมฆที่เหลือจากส่วนอื่นมาด้วย

เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดเล็กน้อย การโจมตีนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขารู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในมัน มันเป็นบางอย่างที่เหมือนกับการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 หรืออาจจะถึงชั้นสวรรค์ที่ 7 ในขั้นสูงสุดก็เป็นได้

แม้ว่าการโจมตีนี้จะทรงพลังถึงขนาดทำให้เจี้ยนเฉินเป็นอันตรายได้ แต่เขาก็ไม่กลัว เขาแทงออกไปที่กรงเล็บอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่เปล่งประกายไปด้วยแสงแสบตา

ดาบและกรงเล็บปะทะกันอย่างรุนแรง และทำให้เกิดเสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นมาทันที ความอันตรายของกรงเล็บอ่อนแรงลงทันที

เจี้ยนเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาแทงออกไปอีกหลายครั้ง เขาไม่ออมแรงเลย และทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการโจมตีแต่ละครั้ง

การโจมตีอีกหลายครั้งต่อจากนั้นทำให้กรงเล็บใหญ่พังทลายลงอย่างรวดเร็ว และกระจายออกไปรอบ ๆ กลายเป็นพลังงานธรรมชาติ

แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์กระอักเลือดออกมาในขณะที่เทพเจ้าอสรพิษพิโรธได้ถูกทำลายลง เขาไม่สามารถจะคงรูปมังกรอสรพิษเอาไว้ได้ และตกลงมาจากท้องฟ้าในร่างมนุษย์ เขาสิ้นหวัง

“น่าเสียดายที่เขาสำเร็จขั้นแรกของเทพเจ้าอสรพิษวิโรจน์เท่านั้น ถ้าเขาสำเร็จขั้นที่ 3 เขาก็คงจะสามารถใช้มังกรอสรพิษออกมาทั้งตัวได้และผลลัพธ์ก็จะแตกต่างจากนี้มาก เขาคงจะไม่สามารถทำให้เจี้ยนเฉินบาดเจ็บได้ภายใต้การคุ้มครองของโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาปกป้องตัวเองได้” ผู้อาวุโสประจำศาลาพูดพร้อมถอนหายใจ

เจี้ยนเฉินพุ่งไปที่แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์อย่างมุ่งร้าย เขาไปถึงตรงหน้าแม่ทัพและฉีกเอาเกราะไหมบรรพกาลออกมาจากร่างของเขา ก่อนที่จะฟันไปที่หัวของเขาอย่างไม่ปราณี

“น้องสาม ! “

“น้องสาม ! “

แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามตะโกนออกมาเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่สนใจอันตรายใดและพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะช่วยแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่เร็วเท่ากระบี่ของเจี้ยนเฉิน เสียงแตกดังขึ้น เจี้ยนเฉินฟันหัวของแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ออกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“วันนี้ ชื่อของแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ของศาลาเทพเจ้าอสรพิษจะหายไป” เจี้ยนเฉินเหยียดออกมา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือของเขาเปลี่ยนเป็นแสงสีดำ ในขณะที่เขาแทงออกไปที่หัวเพื่อหมายที่จะกำจัดวิญญาณของแม่ทัพออกไป