ตอนที่ 963: จัดการกับซูหยุนซีและซูเทียนซี

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 963: จัดการกับซูหยุนซีและซูเทียนซี

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ผู้อาวุโสคุมวินัยอย่างสงบและพูดออกมา ” ผู้อาวุโส ข้ามีภารกิจให้พวกท่าน ข้าหวังว่าพวกท่านจะร่วมมือกับจอมยุทธของเผ่าเต่าเพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ”

จอมยุทธทั้งหมดของเผ่าเต่าและเผ่าไทฮงประหลาดใจเมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจี้ยนเฉินต้องการให้ชายชราที่เป็นใครก็ไม่รู้ช่วยพวกเขา ทุกคนอดไม่ได้ที่จะพยายามสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ไม่มีใครเชื่อว่าชายชราทั้งสามคนนี้ทั้งหมดจะเป็นจอมยุทธ 16 ดาวจริง ๆ

ท่ามกลางพวกเขาทั้งหมด มีเพียงไทโตวเท่านั้นที่สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งสามเพราะว่าเขาเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เขาอ่อนแอกว่าผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งสามเล็กน้อยเท่านั้น ไทโตวสัมผัสได้ลาง ๆ ถึงความกดดันเล็กน้อยจากคนทั้งสามนี้ ซึ่งมันทำให้เขาตกใจ เขายากที่จะเข้าใจได้ว่า ผู้คุมกฎของเผ่าไปเจอจอมยุทธที่น่ากลัวแบบนี้ทั้ง 3 คนได้ที่ไหน

“เจ้าต้องการให้พวกเราทั้งสามทำอะไร ? ” ผู้อาวุโสคุมวินัยซินเปียนถามอย่างปกติ

เจี้ยนเฉินไม่สนใจท่าทางของทั้งสามคนนี้แล้วพูดกับไทโตว “ไทโตว ผู้อาวุโสทั้งสามเหล่านี้เป็นจอมยุทธที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเลย นำคนทั้งสามนี้ไปอย่างเร็วและเอาเหมืองที่เคยเป็นของเรากลับมา”

“ครับ ผู้คุมกฎ ! ” ไทโตวตื่นเต้น ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสทั้งสามที่แข็งแกร่งกว่าเขา พวกเขาในตอนนี้มีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้แล้ว นี่ทำให้เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ในครั้งนี้ ข้าจะสอนบทเรียนชิ้นใหญ่ให้กับพวกนั้นและเอาคืนที่พวกนั้นทำให้พวกเราอับอาย” ไทโตวสบถในใจ

หลานจิง ซินเปียน และโมชาสออกจากเผ่าเต่าไปพร้อมกับกลุ่มจอมยุทธภายใต้การนำของไทโตว และไปยังเผ่าของศัตรูด้วยท่าทีมุ่งร้าย

เจี้ยนเฉินไม่ได้กลับเข้าไปในวัตถุเซียนหลังจากที่พวกเขาจากไป แทนที่กัน เขาไปถึงที่ภูเขาที่สวยงามด้านหลังเผ่าพร้อมกับผู้ติดตาม 2 คน สุดท้าย เขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเนินหลุมศพใหญ่ที่อยู่ข้างทะเลสาบ

เนินนั้นกว้างใหญ่มากและมีพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาล มันกว้าง 100 เมตรและสูง 30 เมตร ในขณะที่มีป้ายหลุมศพสูง 300 เมตรตั้งอยู่ตรงหน้ามัน มีคำที่สลักอยู่ว่า ‘หลุมศพของผู้อาวุโสสูงสุด’

นี่เป็นที่ซึ่งผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่านอนพักจากโลกนี้

เจี้ยนเฉินหนักใจหลังจากที่เขามาที่นี่ เขายืนอยู่หน้าป้ายหลุมศพและจ้องไปที่คำที่อยู่บนนั้นอย่างงุนงง

ในความงุนงงนี้ เขาเห็นรูปของผู้อาวุโสสูงสุดที่หลังค่อมอยู่ ใบหน้าที่เมตตากรุณาและห่วงใยของเขา มันเหมือนว่าผู้อาวุโสสูงสุดกำลงยิ้มให้เขา และพูดกับเขาอยู่เบา ๆ ผู้อาวุโสสูงสุดดูดีใจมาก

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด…” เจี้ยนเฉินพึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ในตอนนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าได้ตายเพราะช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาเปลี่ยนเป็นร่างจริงและขังซูเทียนซี ซูหยุนซีและหลีเฟิงซินเอาไว้ในกระดองของเขา และต้านทานการโจมตีที่ดุร้ายจากจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนนั้น ในตอนสุดท้าย วิชาเซียนระดับเทียนจากซูเทียนซีและซูหยุนซีได้กำจัดวิญญาณของเขาไป และทำให้กระดองของเขาแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ จนแม้แต่ศพของเขายังไม่เหลือเลย เขาตายอย่างน่าอนาถที่แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ก็ยังไม่สามารถที่จะชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้

ถ้าไม่เป็นเพราะผู้อาวุโสสูงสุดเสียสละตัวเองเพื่อทำให้จอมยุทธทั้งสามวุ่นวายอยู่ล่ะก็ เจี้ยนเฉินก็คงไม่รอดจนกระทั่งผู้อาวุโสฮงมา เพราะว่าเขาไม่มีกำลังพอที่จะต่อต้านได้เลยในตอนแรกที่เขาถูกทั้งสามคนนั้นไล่ล่า

การเสียสละของผู้อาวุโสได้สร้างความซาบซึ้งให้กับเจี้ยนเฉินอย่างมาก และเจี้ยนเฉินก็รู้ซึ้งถึงบุญคุณครั้งนี้ นอกเหนือจากนี้เขายังรู้สึกละอายใจและโทษตัวเองอีกด้วย

ผู้อาวุโสสูงสุดตายไปแล้วในตอนนี้ แต่เจี้ยนเฉินยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณของผู้อาวุโสสูงสุดจนหมดและเขายังไม่ล้างความอัปยศของเขาเลย

เขายังคงจำได้อย่างชัดเจนถึงความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุดที่กระจายอยู่และยังไม่หายไปหลังจากที่ผู้อาวุโสตายไปแล้ว เขาเป็นห่วงถึงอนาคตของเผ่าเต่า ในขณะที่เจี้ยนเฉินจะเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของผู้อาวุโสในการฟื้นฟูเผ่าเต่าให้กลับสู่ความรุ่งเรือง แบบนั้น เขาจะสามารถชดใช้ความใจดีของผู้อาวุโสสูงสุดและทำให้วิญญาณของผู้อาวุโสไปสู่สุขคติ

เจี้ยนเฉินยืนอย่างใจลอยอยู่ด้านหน้าป้ายหลุมศพใหญ่และลืมวันเวลาเลย ผู้ติตามทั้งสองที่ตามเขามายืนอยู่อย่างเงียบ ๆ กลัวว่าพวกเขาจะไปรบกวนผู้คุมกฎที่เคารพที่พวกเขาชื่นชม

สายลมรุนแรงพัดผ่าน ทำให้ชุดขาวยาวของเจี้ยนเฉินพริ้วไสวไปกับสายลม เขาได้ยืนอยู่ที่นี่หลายวันอย่างไม่รู้ตัว

ในตอนนี้เอง จอมยุทธของเผ่าเต่าได้ขึ้นมาที่ภูเขาและคุกเข่าลงห่างออกไป 20 เมตร “ผู้คุมกฎ ไทโตวและผู้อาวุโสทั้งสามได้กลับมาพร้อมชัยชนะเด็ดขาด พวกเขายึดเหมืองที่เคยเป็นของเรากลับมาได้สำเร็จ”

“ส่งคำสั่งของข้าออกไป ให้คนในเผ่าทุกคนและผู้อาวุโสมารวมกันที่นี่” เสียงเย็นชาของเจี้ยนเฉินดังออกมา

“ตามที่ท่านผู้คุมกฎปรารถนา ! ” จอมยุทธตอบกลับอย่างเคารพ ก่อนที่จะหายไปเหมือนสายลม

เสียงแตรทุ้มดังออกมาจากเผ่าที่ไกลออกไปไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มคนใหญ่ได้รีบขึ้นมาที่ภูเขาภายให้การนำของผู้อาวุโส พวกเขาเดินทางขึ้นมาอย่างรวดเร็วและมาถึงที่หน้าหลุมศพของผู้อาวุโสสูงสุด

“พวกเราขอคารวะท่านผู้คุมกฎ ! ” ทุกคนคุกเข่าลงหนึ่งข้างและตะโกนออกมาด้วยเสียงบาดหู พวกเขาทั้งหมดตะโกนพร้อมเพรียงกันอย่างมีระเบียบ

ศักดิ์ศรีของเจี้ยนเฉินในเผ่าเต่าได้เพิ่มมากขึ้นมากขึ้น ในตอนนี้เขาได้รับความเคารพจากทุกคน ไม่เพียงแต่อำนาจและฐานะของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินมา แต่พวกเขายังได้เหมืองที่เคยเป็นของพวกเขากลับมาอย่างช้า ๆ ด้วย คนในเผ่าทั้งหมดเชื่อว่านี่เป็นเวลาที่พวกเขาจะได้ความรุ่งเรืองกลับคืนมา

เจี้ยนเฉินปล่อยซูเทียนซีและซูหยุนซีที่ถูกมัดอยู่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด พลังของพวกเขาถูกผนึกเอาไว้โดยผู้อาวุโสสูงสุดของศาลาวิญญาณสวรรค์ พวกเขาเหมือนคนธรรมดาและไม่มีพลังที่จะต่อต้านได้เลย

“เจี้ยนเฉิน ทำไมเจ้าถึงได้รีบปล่อยพวกเราเร็วนัก ? พวกเราจะแสดงให้เจ้าเห็นเองว่าพวกเราเจ๋งแค่ไหนเมื่อพวกเราหลุดออกไปได้” ทั้งสองคนเริ่มตะโกนใส่เจี้ยนเฉินทันทีเมื่อพวกเขาออกมา

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชาไปที่ทั้งสองคนในขณะที่จิตสังหารพวยพุ่งอยู่ในตัวของเขา เขาพูดอย่างเย็นชา “ผนึกที่ถูกร่ายไว้โดยผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์จะไปถูกเจ้าทั้งสองทำลายได้ง่ายดายขนาดนั้นยังไง ? ไม่อย่างนั้น ฐานะของพวกเขาคงไม่ได้เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ชื่อ”

ท่าทางของซูเทียนซีและซูหยุนซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขามองผ่านไปที่ป้าย้ายหลุมศพใหญ่และหน้าของพวกเขาก็หมองลงทันที ผู้อาวุโสสูงสุดถูกกำจัดไปด้วยวิชาเซียนระดับเทียนที่พวกเขาร่าย ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าอะไรที่เจี้ยนเฉินต้องการถึงได้พาพวกเขามาที่นี่

“เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องการทำอะไรพวกเรากันแน่ ? ” ซูเทียนซีคำรามออกมา

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ป้ายหลุมศพด้วยความงุนงงและพูดออกมาเสียงแหบ “เลือดล้างเลือด ข้าจะใช้เลือดของพวกเจ้าเพื่อทำให้วิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดไปสู่สุขคติ”

“อย่าบังอาจ เจี้ยนเฉิน ! ” ท่าทางของซูเทียนซีและซูหยุนซีเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่พวกเขาก็ยังจ้องต่อไปที่เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินไม่ฟังคนทั้งสองอีกต่อไป เขาหันกลับไปที่คนของเผ่าเต่าที่คุกเข่าอยู่ “ทุกคน ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ฆ่าผู้อาวุโสสูงสุดเมื่อหลายปีก่อน พวกเขาทั้งคู่เป็นจอมยุทธ 16 ดาว วันนี้ข้าจะสังหารสองคนนี้ต่อหน้าพวกเจ้าทั้งหมดเพื่อแก้แค้นให้ผู้อาวุโสสูงสุด” เจี้ยนเฉินตะโกนออกไป

“แก้แค้นให้ท่านผู้อาวุโสสูงสุด…”

“ฆ่าสองคนนั้นเพื่อให้วิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดไปสู่สุขคติ”

..

ทั้งหมดเริ่มตะโกนออกมาเสียงดังทันทีและจ้องไปที่คู่แฝดด้วยความเกลียดชัง

ท่าทางของทั้งคู่เปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ถูกผนึกอยู่โดยวิชาลับของผู้อาวุโสประจำศาลา ทำให้พวกเขาเปราะบางเหมือนคนธรรมดา พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะหนีได้เลยในสถานการณ์แบบนี้

ตาของซูเทียนซีและซูหยุนซีเป็นประกาย ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจอะไรออกมา ความแน่วแน่ปรากฎขึ้นในตาของพวกเขา “เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าปล่อยพวกเราทั้งสองคนไป พวกเราจะตามเจ้าไปและทำงานให้กับเจ้า”

เจี้ยนเฉินมองไปที่คนทั้งสองอย่างประชดประชัน ในขณะที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาปรากฎอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาเหยียดออกมา “ไม่คิดเลยว่าเจ้าทั้งสองที่เป็นถึงแปดสุดยอดจอมยุทธมนุษย์จะยอมอ่อนน้อม แต่เจ้าเป็นคนที่ฆ่าท่านผู้อาวุโสสูงสุด ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม” เจี้ยนเฉินยกยุทธภัณฑ์จักรพรรดิขึ้นอย่างช้า ๆ และมันก็เริ่มส่องแสงสีดำแสบตาออกมา

คู่แฝกเริ่มวิตก “เจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนมาจากคำสั่งของศาลาวิญญาณสวรรค์ ผู้อาวุโสประจำศาลาส่งพวกเรามาเพื่อจัดการกับเจ้า ดังนั้นศัตรูที่แท้จริงของเจ้าก็คือศาลาวิญญาณสวรรค์ ถ้าเจ้าฆ่าพวกเรา เจ้าก็จะไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ แต่ถ้าเจ้าปล่อยพวกเราไป พวกเราสามารถร่วมมือกันสู้กับศาลาวิญญาณสวรรค์ได้ และแก้แค้นให้กับท่านผู้อาวุโสสูงสุด”

ความเย็นชาในตาของเจี้ยนเฉินยิ่งมากขึ้นไปอีก แต่เขาก็ยังไม่ได้โบกกระบี่ของเขา เขาแทงกระบี่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไปทันที และมันก็ทะลุเข้าไปที่หน้าผากของซูหยุนซีและซูเทียนซีและกำจัดวิญญาณของพวกเขาไป

เสียงของคู่แฝดหายไป ในขณะที่ส่วนผสมของเลือดและของเหลวสีขาวไหลออกมาจากแผล ในตอนสุดท้าย พวกเขาก็ล้มลงบนกองเลือดของตัวเองและตายตรงนั้น

นี่เป็นการตายของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 สองคนบนภูเขา ด้วยการตายของพวกเขา แปดสุดยอดจอมยุทธมนุษย์จากแปดก็เหลือหกแล้วในตอนนี้

เจี้ยนเฉินถอดแหวนมิติของพวกเขาออกก่อนที่จะตะโกนออกมา “มา เอาเลือดของพวกมันออกมาเซ่นวิญญาณของท่านผู้อาวุโสสูงสุด”

ทันใดนั้นเอง บางคนก็วิ่งขึ้นมาที่คนทั้งสองและเพิ่มบาดแผลที่ร่างของพวกเขา เลือดไหลออกมาเพิ่มจากร่างและย้อมบริเวณตรงหน้าป้ายหลุมศพของผู้อาวุโสสูงสุดให้เป็นสีแดง

เจี้ยนเฉินถอนหายใจลึกเมื่อเขาสังหารคนทั้งสองไปแล้ว เขาพึมพำออกมา “เหลือแค่หลีเฟิงซินแล้วในตอนนี้ ทวีปสัตว์เทวะ ข้าจะไปเยือนที่นั่นไม่ช้าก็เร็วนี้” เจี้ยนเฉินหยุดเล็กน้อยในตอนนี้และมองไปที่บริเวณที่ไม่ไกลออกไปนัก เขาพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างเย็นชา “ฉิงยี่หยวน เจ้าดูมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่เจ้าจะออกมาแล้ว”