อันที่จริงเขารู้ตั้งนานแล้ว!
“นาย—–”
“ผมขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ในเมื่อผมตัดสินใจที่จะพาคุณไป นั่นก็คงไม่ปล่อยให้คุณหนีไปง่ายๆแบบนี้หรอก หากคุณยังไม่เชื่อฟังแต่โดยดี คุณอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจแล้วกัน!”
เขาประชิดเข้ามา ใบหน้านั่นแทบจะแนบไปกับเปลือกตาของเส้นหมี่
หลังจากนั้น เขาจ้องพลางพูดทีละคำ
และยังนำยาสีน้ำเงินสองเม็ดมาเขย่าตรงหน้าเธอ
ชั่วพริบตาเดียวเส้นหมี่ซีดจนไม่มีเลือดแม้แต่น้อย!
ไอ้เดรัจฉานนี่!
ในที่สุดเส้นหมี่จึงได้แต่ละทิ้งความพยายาม เธอนั่งอยู่ในห้องรับรอง VIP อย่างสิ้นหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งใบหน้าล้วนเป็นสีขาวอมเทา
“พวกคุณดูสิ ปาเวซนี่ นั่นก็คือปาเวซ ลูกชายของไวท์รอน เขาอยู่นั่น!”
จู่ๆในห้องรับรองนี้มีคนชี้ไปทางนี้พร้อมตะโกนออกมา
เส้นหมี่ได้ยิน จึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง
ถึงได้พบว่า เพียงแค่ไม่กี่วินาทีสั้นๆ คนในนี้ต่างมองมาทางพวกเขา แสดงออกมาว่าต้องการความโกรธเท่าไหร่ก็มีเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าล้วนจำเขาได้
นี่คือข่าวในอินเตอร์เนตยิ่งเป็นกระแสมากขึ้นใช่ไหม?
เส้นหมี่เกิดมีความหวังขึ้นมาทันที เพราะว่าเธอรู้ว่า เพียงแค่คนผู้นี้ถูกทำให้ชุลมุนวุ่นวาย นั่นก็ทำให้เธอมีโอกาสหลบหนี
“ใช่ค่ะ เขานี่แหละคือปาเวซ พวกคุณรีบมาจับเขาเร็วเข้า!”
เธอพูดออกไป ยิ่งไปกว่านั้นเสียงยังดังกว่าครั้งไหนๆทั้งหมดทั้งมวล
คนในห้องรับรองได้ยินดังนั้น จึงกรูกันเข้าไปเหมือนรังผึ้ง
“จับมันไว้! รีบจับมันไว้!”
“ใช่ๆ ไอ้เดรัจฉานที่บ้าคลั่งนี้ รีบจับมันเร็ว แล้วส่งไปไวท์ พาเลซ ไปต่อว่าพ่อของมัน”
“…….”
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความเดือดดาล พวกเขาตะโกนเสียงดัง โบกกำปั้น คล้ายกับว่าอีกไม่ช้าจะทำให้คนที่เดรัจฉานยังสู้ไม่ได้คนนี้ตายอยู่ตรงนี้
เอาคนที่ยังมีชีวิตอยู่ไปเปิดสมอง แล้วฝังไมโครชิพ
นี่ช่างน่าขนลุกขนพองจริงๆ
เส้นหมี่เตรียมตัวจะหนี……
แต่ในตอนนี้ ปาเวซที่ถูกรุมล้อมอยู่นั้น หยิบปืนขึ้นมากระบอกหนึ่งโดยไม่คาดคิด
“เปรี้ยง—–”
เสียงปืนดังขึ้น
ชั่วพริบตา ทุกคนต่างกุมหัวนั่งยองๆลงไป
แต่เส้นหมี่ ก็มองปากกระบอกปืนนี้ที่ทาด้วยน้ำมันแลคเกอร์สีดำอย่างตะลึงงันด้วยความกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าเพียงหนึ่งก้าว
“วิ่งสิ ทำไมไม่วิ่งแล้วล่ะ?”
ปาเวซเดินมา เขาใช้ปืนที่อยู่ในมือกดไปที่หน้าผากของหญิงสาว พร้อมกับกางแขนออกมาดึงคอของเธอขึ้นมา
“โอ้ย….”
ทันใดนั้นถูกบีบจนแน่น เส้นหมี่รีบส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
อย่างไรก็ดี นี่ยังมิใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด
เนื่องจากทันทีหลังจากนั้น คนที่ตอนนี้จิตใจบิดเบี้ยวไปทั้งหมดนี้ เมื่อเห็นว่าเส้นหมี่ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือเขาแล้ว เขากางมือและตบไปหนึ่งครั้ง!
“เพี๊ยะ!!”
เสียงตบหน้าที่ชัดเจน ทำให้เส้นหมี่คล้ายจะยืนไม่อยู่
“คุณรู้ไหมว่าตอนผมตัดสินใจพาคุณไปด้วย ต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน? จริงๆผมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวก็ได้ แต่เพราะคุณ ผมจึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์นี้”
ในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนละคน!
เขาโกรธจนดึงเธอขึ้นมาจากพื้น หลังจากนั้นเหมือนกับคนบ้ายังลากเธอไว้ในมือ
“ดี! ดีมาก!! ในเมื่อคุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ งั้นผมจะช่วยให้คุณสมหวัง!”
หลังจากนั้น คนผู้นี่ที่ถูกทำให้เดือดดาล ลากเธอออกไปจากห้องรับรอง
เส้นหมี่ไม่รู้เลยว่าเขาจะทำอะไร?
จนกระทั่งเขาลากเธอออกมา และนำหน้าปลอมของเธอก่อนหน้านี้ออกมาให้เธอใส่โดยไม่ฟังคำทัดทาน ทั้งยังมัดเธอไว้กับเก้าอี้ตัวหนึ่งในโถงรับรอง
ในที่สุด เธอก็เข้าใจแล้ว
“ปล่อย! แกปล่อยฉัน! ปล่อย!!”
เธอพยายามอย่างรุนแรง ร้องให้คนบ้าผู้นี้ปล่อยตนไป
แต่ว่า ปาเวซผู้นี้ฟังเธอไม่ได้ยินเสียแล้ว เรื่องเมื่อครู่ที่เกิดขึ้นในห้องรับรอง ได้ทำให้เขาขุ่นเคือง หลังจากเขามัดเธอไว้ตรงนั้นแล้ว ก็จับจ้องเธอดั่งปีศาจ
“คุณพูดถูก ผมจะตายอยู่แล้วจริงๆ แต่หากผมก่อนตาย ลากแสนรักฝังไปด้วยกันกับผมด้วย ผมก็พอใจแล้ว”
“……..”
“อันที่จริงผมหลอกคุณ มันแคร์คุณมาก คุณรู้ไหมว่าที่ตอนนี้ผมถูกประกาศจับไปทั่วเมือง เพราะอะไร? ก็เพราะมันล้างแค้นให้คุณไง มันเอาเรื่องที่ผมทำทั้งหมดเปิดเผยออกมา มันกะจะให้ผมตาย และยังจะทำลายตระกูลไวท์ด้วย คิตตี้ สายตาคุณไม่เลวเลย คุณได้พบกับผู้ชายที่รักคุณหมดหัวใจ”
เขานั่งยองๆตรงหน้าเธอ จากนั้นก็ลูบคลำใบหน้าของเธอ
ใบหน้าที่เพิ่งใส่หน้าปลอมนั่น
น้ำตาเม็ดใหญ่ของเส้นหมี่ร่วงหล่นลงมา
ครึ่งหนึ่งเพราะว่าเธอกลัววิธีการตอนนี้ของคนผู้นี้ แต่อีกครึ่งนั้น เพราะว่าเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ตอนนี้
“ฉันขอร้องล่ะ คุณฆ่าฉันเถอะ”
“ไม่ ผมจะฆ่าคุณได้อย่างไร? คิตตี้ ผมแค่จะพาคุณไปนรก คุณต้องมีชีวิตดีๆ เป็นเด็กดี ก็รออยู่ตรงนี้ดีๆ อีกไม่นานเขาก็มาแล้ว”
เขาเกลี้ยกล่อมเธออย่างอ่อนโยน ในไม่ช้า ก็มัดเธอกับเก้าอี้ตัวนั้นอย่างแน่นหนา
ทั้งยังยัดผ้าผืนหนึ่งไปในปากของเธอ
เส้นหมี่พยายามอย่างรุนแรง แต่ในปากกลับมีเสียงร้องที่ไม่มีเสียง….
แต่ว่า ไม่มีประโยชน์ คนผู้นี้ไม่นานก็ปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว และในเวลาเดียวกันนี้ รูปร่างที่ตรงที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ ก็ปรากฏที่ประตูใหญ่ของโถงรับรอง
เส้นหมี่ : “……..”
เพียงชั่วครู่ เธอรีบก้มหัวไปที่เข่าทั้งสองข้างทันที หลังจากนั้นใช้มีดขูดหนังใบหน้าปลอมบนหน้าของตนออก เผยใบหน้าเดิมของเธอออกมา
เขาจำใบหน้านี้ไม่ได้ เขาคงไม่เข้ามาหรอก