ตอนที่ 776 เส้นลมปราณวิเศษ (1)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 776 เส้นลมปราณวิเศษ (1)
หลังจากได้ทำการค้นหารอบบริเวณเหมืองแร่สามวันเต็ม กองทัพรัสเซียตะวันออกถอนกำลังออกไป

ทั้งกินเนสส์และวิคเตอร์ต่างไม่อยากอยู่ที่นี่ไปนานกว่านี้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ๆเกิดเหตุทำให้ประเทศรัสเซียขายหน้า ด้วยคนเพียงแค่คนเดียวที่ก่อกวนจนทหารกองทัพทหารรัสเซียเป็นแสนนายวุ่นวายไปหมด

อีกทั้งตอนนี้ความสนใจของต่างชาติมุ่งไปที่มอสโคว การนำเอาชิ้นเนื้อจากศพกลับไปตรวจยีน ทำให้โลกทั้งโลกตื่นตะลึง ส่วนที่รกร้างอย่างไซบีเรียนี้ก็ได้หวนคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

“ท่านเซียนติง ผมขอโทษจริงๆ คุณได้เป็นเทพแล้ว ยังจะกลับมายังโลกมนุษย์เพื่ออะไรอีก? การต่อสู้นี้เป็นผลที่ท่านสมควรได้รับ!”

ในค่ำคืนฟ้าเปิด แสงจันทร์ส่องสว่างดวงดาวดารดาษ มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงที่ติงหงจบชีวิตลง ปากขมุบขมิบสวดคำอะไรอยู่

นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อน เยี่ยเทียนยังรู้สึกใจหายหวาดหวั่น

เขาคิดไม่ถึงว่าติงหงจะจัดการกับฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ได้ราบคาบ ถ้าไม่ได้สายอัสนีสวรรค์ที่ฟาดฟันลงมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เยี่ยเทียนคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้

“มีคนสามารถมาถึงจุดๆนี้ได้จริง ติงหงทำได้ ฉันก็ต้องทำได้เหมือนกัน!”

นึกถึงท่วงท่าอินทรีย์ทะยานฟ้าของติงหงแล้ว เยี่ยเทียนนึกคล้อยตาม ด้วยการฝึกวิชาของเขาอย่าว่าแต่เครื่องบินรบหรือปืนกลเลย ต่อให้เป็นอาวุธหนักกว่านี้ก็ไม่อาจหยุดยั้งเขาไว้ได้

แต่สิ่งนี้กลับกระตุ้นความกระตือรือร้นของเยี่ยเทียน จากที่เคยคิดว่าตัวเองมาถึงจุดสูงสุดแล้ว พอเมื่อได้พบกับติงหงและวานรขาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าที่คอยให้เยี่ยเทียนปีนสูงขึ้นไป

“ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะเสมอ!”

หลังจากประสบการณ์ครั้งนี้ เยี่ยเทียนได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าทั้งยุคแห่งอาวุธโลหะในอดีตหรืออาวุธปืนไฟหรือระเบิดในปัจจุบัน ต่างเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดต่อตนเองและครอบครัว

ถ้าติงหงไม่ดึงดันที่จะฆ่าเยี่ยเทียนให้ได้ ในโลกนี้คงจะไม่มีใครเป็นคู่แข่งเขาได้อีก คนแบบติงหงเทียบได้กับผู้กล้าที่ไปตัดหัวแม่ทัพใหญ่ต่อหน้ากองทหารนับพัน

“ลองดูรอบๆเหมืองว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง?” เยี่ยเทียนเตร็ดเตร่อยู่ครู่หนึ่งก็หมุนตัวเดินไปทางเหมืองแร่

เนินดินทั้งสามกองใหญ่ถูกระเบิดและกระสุนจนพื้นเรียบราบ บนพื้นมีแต่หินแร่สีน้ำตาลแดงกระจัดกระจาย

แต่พวกทหารรัสเซียไม่รู้จักแร่ธาตุชนิดนี้ แล้วพวกเขาก็ไม่มีทางนำมันไปถลุงเป็นทองคำได้

เศษแร่พวกนี้จึงถูกปล่อยปะละเลยทิ้งเกลื่อนทั่วพื้น คราวนี้เฉินสี่ฉวนได้เบาแรงในการเก็บกวาดไปเยอะ อย่างน้อยสายแร่บนพื้นดินก็ไม่ต้องทำให้เขากังวลใจอีก เพียงแค่เก็บพวกมันกลับไปถลุงก็พอ

“จะเข้าไปอย่างไรนี่? หรือว่าจะต้องลงมือขุดจากตรงนี้?”

ติงหงได้ขุดอุโมงค์เข้าไปด้านใน แต่ถูกระเบิดกลบจนมิดหมด เยี่ยเทียนเดินวนอยู่หลายรอบ ดูราวกับหนูนาที่ต้องการไปขโมยไข่ในเล้าไก่ ไม่มีทางเข้าเลย เพราะเขารู้สึกว่ามีม่านบางอย่างกั้นไว้ ไม่สามารถส่งจิตเดิมแท้เข้าไปด้านในได้

“เอ๋?พลังธรรมชาติแรงกล้ามากเลย?”

เยี่ยเทียนยืนอยู่ตรงที่มีกองหินทับถมอยู่ คิ้วขมวดเข้าหากันเพราะเขารู้สึกถึงพลังธรรมชาติรุนแรงที่ถาโถมขึ้นมาจากใต้ดินจนรู้สึกเจ็บผิว

“น่าจะเป็นตรงนี้แหละ!”

เยี่ยเทียนดีใจ เขาเคยได้ยินมาว่าบ้านอวิ๋นกับติงหงมีความเกี่ยวข้องกัน เยี่ยเทียนเดาได้ว่าแร่ทองนี้ไม่ใช่แค่ทองคำทั่วไป ข้างในจะต้องมีของวิเศษที่ดึงดูดผู้ฝึกเต๋าให้มาที่นี่

กลางดึกสงัด ความมืดมิดรายล้อม เยี่ยเทียนไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า เขาเริ่มขุดเกลี่ยเอาเศษหินออกไป เมื่อฟ้าสาง ปากอุโมงค์ถูกเยี่ยเทียนขุดเปิดออกได้สำเร็จ

“ที่นี่….หรือที่นี่จะมีพลอยวิเศษธาตุทอง?”

ก้อนหินใหญ่ก้อนสุดท้ายถูกเยี่ยเทียนดันออก ความรู้สึกทิ่มแทงที่ผิวหนังยิ่งรุนแรงขึ้น พลังธรรมชาติที่แปลกประหลาดราวกับมีดเล่มเล็กๆกำลังกรีดแทงตามร่างกาย

เยี่ยเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆใช้พลังปราณแท้ห่อหุ้มร่างกายไว้ถึงจะกีดกั้นการทิ่มแทงนั้นได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่าแร่พลังธาตุทองกำลังแทรกซึมเข้าสู่พลังปราณแท้และเข้าสู่ร่างกาย

“เอ๋? นี่มันอะไรกัน ทำไมเรายังดูดกลืนพลังนี่ได้อยู่อีก?”

เมื่อเก็บเอาปราณแท้ที่ล้อมรอบตัวเข้าหมดแล้ว เยี่ยเทียนขมวดคิ้วอีกครั้ง เขารู้สึกว่าในพลังปราณแท้ที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นลมปราณนั้นมีแสงสีทองเคลือบอยู่ด้วยและมันกำลังกรีดบาดเส้นลมปราณของเขาจนเจ็บระบมไปหมด

“โอ๊ย ฉันจะไม่ไหวแล้ว!”

เยี่ยเทียนรีบถอยหลังไปหลายก้าวให้พ้นจากปากอุโมงค์ นั่งขัดสมาธิ ในยุทธภพมีคำกล่าว่า จอมยุทธยิ่งแก่ยิ่งขี้ขลาด ได้ประสบเหตุการณ์เสี่ยงตายมาหลายครั้ง ตอนที่พบกับเก๋อข่ายที่สระมังกรดำครั้งนั้น ทำให้เยี่ยเทียนไม่กล้าเอาร่างกายของตัวเองมาเป็นเครื่องล้อเล่นอีก

“แย่แล้ว มันขับไม่ออก?”

ตอนที่เยี่ยเทียนเดินลมปราณต้องการขับดันเอาพลังธาตุทองออกไปนั้น จู่ๆก็รู้สึกว่ามันหลอมรวมเข้ากับปราณแท้ของตัวเอง แล่นไปที่จุดตันเถียน

แต่เยี่ยเทียนก็ต้องทั้งประหลาดใจทั้งดีใจที่พลังธาตุทองนั้นถูกตันเถียนของเขาเปลี่ยนสภาพเป็นปราณแท้บริสุทธิ์ ส่งต่อไปทั่วร่างกาย และไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการทิ่มแทงอีกแล้ว

“ธาตุทั้งห้ามีฤทธิ์ต่างกันออกไป ธาตุไฟถาโถมดุดัน ธาตุน้ำหนาวเย็น ธาตุไม้ก่อเกิดสรรพสิ่ง ธาตุดินสะสมเพิ่มพูน ส่วนนี่ธาตุทอง หล่อหลอมโอนอ่อน แต่ทำไมเราถึงดูดซึมธาตุได้ทั้งสามชนิดเลย?”

เมื่อดูดซับพลังธาตุทองเสร็จ เยี่ยเทียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง การฝึกฝนของเขาไม่มีใครชี้แนะมาก่อน เมื่อเข้าสู่ระดับเซียนเทียนแล้วยิ่งต้องระวังให้มาก หากเกิดความผิดพลาดไปแม้แต่จุดเดียวก็ไม่มีทางหวนคืนมาแก้ใหม่ได้

เยี่ยเทียนรู้ว่าพลังธาตุทั้งห้าไม่ใช่ใครจะรับได้ทั้งหมด อย่างเช่นหูหงเต๋อที่ดูดซับพลังธาตุไฟ หนานไหวจิ่นดูดซับพลังธาตุน้ำ แต่โก่วซินเจียกลับดูดซับพลังธาตุทั้งสองไม่ได้เลย

เห็นได้ชัดว่าร่างกายแต่ละคนมีธาตุเป็นของตัวเอง ต้องดูดซับพลังที่เข้ากันเท่านั้น เช่นเดียวกับน้ำและไฟที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ ตอนที่หูหงเต๋อได้รับพลังธาตุน้ำจากหยกอ่อนสีดำนั้นเกือบทำให้เขาแข็งตาย

เยี่ยเทียนเริ่มเห็นความกระจ่างขึ้น ร่างกายของเขาดูดซับพลังน้ำและไฟได้ทั้งสองชนิด โดยมีพลังธาตุไม้ค่อยช่วยสอดประสานให้หรือว่าจะเป็นเพราะพลังธาตุไม้นี้เอง

“หรือว่าจะเป็นผลจากพลอยวิเศษธาตุไม้? อีกหน่อยถ้ามีโอกาสได้เข้าถึงดินแดนแห่งทวยเทพ จะต้องไปสอบถามจากผู้รู้ดู ว่ามันเป็นเพราะเหตุใด!”

คิดอยู่พักหนึ่งแล้วเยี่ยเทียนสั่นหัวยืนขึ้นมา เขามีความรู้เพียงน้อยนิด ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการฝึกเต๋า ถึงจะเป็นคนฉลาดหลักแหลม แต่ยังไม่สามารถอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับร่างกายเขาเมื่อครู่ได้

แต่เยี่ยเทียนไม่รู้ว่า ต่อให้เขาเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งทวยเทพ ได้พบกับผู้วิเศษจินตันแล้ว ยังไม่แน่ว่าจะคลายข้อสงสัยให้เขาได้

ระดับเซียนเทียนสำหรับผู้ฝึกเต๋าแล้วเป็นรากฐานสำคัญ เมื่อเข้าสู่ระดับนี้แล้วสามารถอิ่มทิพย์ ไม่จำเป็นต้องกินอาหารแบบคนทั่วไป ซึ่งจุดนี้เป็นข้อแตกต่างระหว่างผู้เยี่ยมยุทธชาวโลกกับผู้ฝึกเต๋าขั้นสูง

ร่างกายคนทั่วไป สามารถรองรับพลังธาตุได้เพียงชนิดเดียวเป็นธาตุพื้นฐาน และต้องหาพลอยวิเศษที่มีธาตุตรงเท่านั้นจึงจะสามารถดูดกลืนพลังชีวิตนั้นได้ โดยการใช้พลังโฮ่วเทียนแปรเปลี่ยนเป็นปราณแท้ของเซียนเทียนจากนั้นถึงสามารถเข้าสู่โลกของเทพเซียนได้

แต่เยี่ยเทียนกลับรับพลังทั้งธาตุไฟและธาตุน้ำเข้าสู่ร่างกายพร้อมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ น้ำกับไฟต่อต้านกัน เดิมทีเยี่ยเทียนควรจะร่างกายแตกดับไปแล้ว

แต่ในมือของเขายังมีพลอยวิเศษธาตุไม้อยู่อีกก้อนที่ช่วยประสานพลังวิเศษของทั้งสองธาตุให้เข้ากันได้ดีอย่างประหลาด เปลี่ยนแปลงร่างกายของเยี่ยเทียนทำให้เขามีตันเถียนที่ไม่เหมือนใคร

พลังวิเศษของธาตุไม้นั้นยังไม่สูญหายไป มันกลายเป็นรอยต่อของยินหยางให้ตันเถียนของเยี่ยเทียน ดังนั้นไม่ว่าพลังแบบไหนเข้าสู่ร่างกายเขาก็จะดูดซึมนำมาใช้ได้หมด

สภาวะแบบเยี่ยเทียนนี้ในโลกแห่งเต๋าไม่มีใครทำได้อีกแล้ว แม้แต่ปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักเสื้อป่านฟื้นคืนชีพมาก็ไม่สามารถทำได้แบบเยี่ยเทียน

“ใครจะสนใจมันเล่า มีทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย เรื่องร้ายยังไงก็หนีไม่พ้น!”

ในเมื่อคิดไม่ออก เยี่ยเทียนก็ไม่คิดต่อให้ปวดหัว ตั้งแต่เขาได้รับการสืบทอดวิชาจากอาจารย์ตั้งแต่เด็ก ค่อยก้าวหน้าขึ้นทีละก้าวด้วยความไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จนมาถึงวันนี้ยังไม่อาจเข้าใจไขความรู้ทุกอย่างที่มีอยู่ในสมองได้ทั้งหมด

เมื่อเขามุดลงไปในอุโมงค์นั้นอีกครั้ง สายพลังแห่งแร่ทองทำอะไรเขาไม่ได้อีกแล้ว พลังชีวิตที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นปราณแท้ที่เพิ่มมากขึ้น

“นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ติงหงทิ้งเอาไว้?”

ทางอุโมงค์ไม่ได้ยาวมากมีระยะทางเพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น มันทอดลึกลงไปใต้ดิน เยี่ยเทียนเดินไปจนสุดทางแล้วเห็นจอบอันหนึ่ง

“คมมากเลย!”

เขาหยิบเอาจอบที่เป็นสีดำทั้งอันขึ้นมา แล้วสับจอบลงไปในผนังหิน มีหินแร่ทองคำก้อนใหญ่หลุดลงมาที่พื้น ทำให้เยี่ยเทียนตะลึง

เห็นดังนั้นแล้วหยิบเอามีดสั้นที่มีรอยร้าวออกมาจากอกเสื้อ แล้วกรีดลงบนผนังหินอีกครั้ง ใบมีดที่ดูพร้อมจะหักทุกเมื่อ กลับตัดผนังหินจนแร่หินหลุดตกลงมาอย่างง่ายดายเหมือนตัดชิ้นเต้าหู้

“โลกของเต๋านี่สุดยอดจริงๆ อย่าว่าแต่มีดบินเลย จอบนี้ยังคมกว่าเครื่องรางอู๋เหินตั้งหลายเท่า!”

เยี่ยเทียนถือเครื่องรางอู๋เหินไว้ในมือ มันเป็นเครื่องรางชิ้นแรกในชีวิตของเขา แม้จะไม่ได้ใช้งานบ่อย แต่เยี่ยเทียนไม่อยากโยนทิ้งไป จึงเก็บติดตัวไว้ตลอด

“ถ้ามีเวลาฉันจะใช้การฝึกวิชาเดินพลังเพื่อพัฒนาเจ้าอู๋เหินนี่สักที!”

ตำราบนชิ้นหยกที่ได้มากจากนักพรตเก๋อข่ายมีบันทึกวิชาการสร้างของวิเศษอยู่ เพียงแต่ช่วงนี้เยี่ยเทียนไม่ค่อยว่าง จึงยังไม่ได้ศึกษาวิชานี้อย่างจริงจัง

เมื่อเก็บอู๋เหินกับมีดบินแล้ว เขาตรวจทานดูอีกครั้งก่อนจะเริ่มใช้จอบขุดลงไปในตำแหน่งที่มีพลังวิเศษธาตุทองพุ่งออกมารุนแรงที่สุด

ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเส้นลมปราณวิเศษ คืออะไร แต่มันคงไม่ต่างกับตาน้ำพุร้อนในสระมังกรดำหรอก ในหลักการเดียวกันคือจุดกำเนิดพลอยวิเศษอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะต้องมีพลังธรรมชาติสะสมอยู่มาก

“แก๊ง แต๊ง!”

เยี่ยเทียนขุดลงไปได้ประมาณสี่ห้าเมตร ปลายจอบก็ไปสัมผัสเข้ากับวัตถุแข็งบางอย่างเกิดเป็นประกายไฟขึ้น ที่ปลายคมจอบมีรอยบิ่นจากการชนของแข็ง

“นี่มันอะไรกันถึงแข็งขนาดนี้?”

เยี่ยเทียนตกใจ รีบโยนจอบทิ้งแล้วใช้มือโกยเอาก้อนหินเศษดินออก เผยให้เห็นวัตถุสีทองสุกสว่างก้อนหนึ่ง