ตอนที่ 777 เส้นลมปราณวิเศษ (2)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 777 เส้นลมปราณวิเศษ (2)
“นี่…นี่คือพลอยวิเศษธาตุทองหรือ?”

ยังไม่ทันเอื้อมมือไปสัมผัสมัน เยี่ยเทียนก็รู้สึกถึงพลังที่หลั่งไหลออกมา ซึมซาบเข้าสู่รูขุมขน การหมุนเวียนในตันเถียนเร็วขึ้นทันใด เพื่อดูดกลืนเอาพลังแร่ทองเข้าสู่ร่างกาย

“ถ้าไม่ใช่คนที่ร่างกายมีธาตุทอง เข้ามาใกล้จะต้องบาดเจ็บแน่?”

เมื่อถือหินแร่ก้อนนั้นไว้ในมือแล้วเยี่ยเทียนรู้สึกกระวนกระวายใจ ตอนที่หูหงเต๋อถูกหินธาตุน้ำทำร้ายนั้น เขายังคิดสงสัยติดใจอยู่

ตามหลักแล้ว พลอยวิเศษช่วยเรื่องการฝึกวิชา ทำให้พลังโฮ่วเทียนของคนเปลี่ยนเป็นพลังเซียนเทียน

แต่นอกจากพลอยวิเศษธาตุไม้แล้ว เยี่ยเทียนได้สัมผัสกับพลอยวิเศษอีกสามธาตุ ซึ่งทั้งหมดมีกำลังแรงกล้า ถ้าประมาทไปแค่นิดเดียวก็จะทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้

แต่เยี่ยเทียนไม่รู้มาก่อนว่า ร่างกายของคนเราเป็นตัวนำพลังงาน พลังธรรมชาติที่สะสมอยู่ในพลอยวิเศษนั้นเมื่อได้สัมผัสกับลมปราณในร่างกายของผู้ฝึกวิชาถึงจะถูกชักนำออกมา

คนที่ได้รับการสืบทอดวิชาเต๋ามาจริงๆนั้น ขั้นแรกจะต้องเรียนวิชาเดินลมปราณ วิชานี้เป็นการฝึกใช้พลังลมปราณปิดกั้นรูขุมขนบนร่างกาย เพื่อเก็บกักไม่ให้พลังปราณแท้เล็ดรอดออกสู่ภายนอก จึงเป็นที่มาของคำเรียกพวกนักพรตลัทธิเต๋าว่าไปมาอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อฝึกวิชาดังกล่าวสำเร็จแล้ว ในวันปกติผู้ฝึกจะเก็บกักพลังปราณแท้ไว้ภายในไม่เผยออกมาง่ายๆ

กรณีที่หูหงเต๋อเกือบถูกหยกสีดำธาตุน้ำก้อนนั้นแช่แข็ง แต่หูเสี่ยวเซียนกับอวี๋ชิงหย่ากลับถือมันได้โดยไม่เป็นอะไรนั้น เพราะว่าร่างกายของพวกเธอไม่มีพลังปราณแท้อยู่ ไม่สามารถกระตุ้นดึงดูดพลังที่แท้จริงในตัวหยกออกมาได้

แน่นอนว่าเยี่ยเทียนไม่รู้เรื่องพวกนี้ และไม่เคยเรียนรู้วิชาประเภทดังกล่าวด้วย ดังนั้นถึงการฝึกวิชาของเขาจะเข้าสู่ระดับเซียนเทียนแล้ว นอกเสียจากจะตั้งใจเดินลมปราณ ไม่เช่นนั้นจะควบคุมพลังงานในร่างกายไม่ได้

“ศิษย์พี่ใหญ่ดูดซับพลังจากหินธาตุน้ำและธาตุไฟไม่ได้ทั้งคู่ ไม่แน่ว่าถ้าเอาหินธาตุทองกลับไป เขาอาจจะซึมซับพลังของมันได้ก็ได้?”

คิดได้ดังนี้ เยี่ยเทียนหยิบถุงหนังออกมาจากข้างเอว แล้วนำหินแร่สีทองที่เรืองแสงอ่อนๆออกมาได้ใส่ลงไป

หลายวันก่อนเขาทำกระเป๋าเป้หายไป เมื่อวานเขาออกล่าหมาป่ามาตัวหนึ่งจึงใช้หนังของมันมาทำเป็นกระเป๋าใส่ของชั่วคราว

เก็บพลอยวิเศษลงไปแล้วเยี่ยเทียนหยิบจอบขึ้นมาขุดต่อ เขารู้สึกได้ว่ายิ่งลึกลงไป พลังวิเศษยิ่งอุดมขึ้น เห็นได้ชัดว่าด้านล่างยังมีของวิเศษที่ดีกว่ารออยู่

เมื่อขุดลึกลงไปเรื่อยๆ ไม่นานปลายจอบได้ขุดเอาก้อนทองคำออกมา ทั้งสีของมันยังสวยงาม เมื่อถึงชั้นในสุด ก้อนแร่ทองที่มีสีแดงสุกอร่ามขนาดเท่ากำปั้นยังดูธรรมดาไปเลย

“ดูท่าทองคำจะอยู่คู่กับพลอยวิเศษธาตุทองแน่ ที่แอฟริกามีเหมืองแร่ทองคำจำนวนมากไม่รู้ว่าที่นั้นจะมีพลอยวิเศษแบบนี้อยู่บ้างไหม?”

เยี่ยเทียนโยนทองคำในมือออกไป ในสมองกำลังคิดสับสนวุ่นวาย ทองคำพวกนี้ในสายตาเขาไม่มีค่าอะไรเลย สิ่งที่เยี่ยเทียนต้องการคือพลอยวิเศษที่เพิ่งปรากฎขึ้นเมื่อครู่ต่างหาก

ความล่อตาล่อใจที่ทำให้ติงหงยอมเอาชีวิตเข้าแลกนั้นเยี่ยเทียนรู้ซึ้งในคุณค่าของมันดี พลอยวิเศษเป็นทั้งสิ่งจำเป็นในการฝึกระดับเซียนเทียน แล้วยังเป็นเครื่องมือที่ทำให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

“แต๊ง แต๊ง!”

เสียงโลหะกระทบกัน เยี่ยเทียนเก็บพลอยวิเศษสองก้อนขึ้นจากกองดิน เมื่อเทียบกับหินก้อนแรกที่มีขนาดเท่าหัวนิ้วโป้ง หินสองก้อนนี้มีขนาดเท่ากำปั้นเด็กทารก

เยี่ยเทียนสามารถดูดซับพลังแห่งแร่ทองได้แต่ก็ถูกพลังของมันทิ่มแทงจนเจ็บแสบผิวไปหมด เขาจึงรีบเก็บกักพลังไว้ภายใน ใช้เพียงดวงตาและมือสัมผัสมันเท่านั้น แบบนี้รู้สึกดีกว่ามาก

“เพื่อนยาก มิน่าล่ะลุงเฉินถึงยอมลงทุนมหาศาลเพื่อซื้อเหมืองทองคำแห่งนี้ ทองคำพวกนี้แทบไม่ต้องเอามาถลุงเลย!”

เมื่อขุดลึกลงไปอีก เยี่ยเทียนได้พลอยวิเศษธาตุทองออกมาทั้งหมดหกก้อน ซึ่งบริเวณใกล้ๆ ที่รายล้อมพลอยวิเศษต่างเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะทองคำนั้นเนื้ออ่อนก็คงจะขุดออกมาไม่ได้

ถึงตอนนี้เยี่ยเทียนจะมีฐานะดี แต่ทองคำกองเป็นภูเขาทอประกายอยู่ตรงหน้า เขายังดูจนตาลายเลยทีเดียว รู้สึกเหมือนกับอยู่ในปราสาทที่สร้างจากทองคำทั้งหลัง แสงสีทองส่องสว่างจนแสบตา

จอบที่แหลมคมในตอนแรกถูกใช้ขุดจนทื่อหมดแล้ว ทุกครั้งที่เยี่ยเทียนสับจอบลงบนเนื้อหิน เขาต้องเก็บกักปราณแท้เอาไว้ภายในถึงจะขุดต่อลงไปได้

“เอ๋? ทำไมยิ่งนิ่มลงเรื่อยๆ? นี่…นี่มันอะไรกัน?”

เยี่ยเทียนรู้สึกว่าพื้นใต้จอบอ่อนนุ่มลง ยกจอบขึ้นมาดูพบว่าส่วนปลายของมันมีสีทองติดมาด้วย เมื่อก้มลงมองที่พื้นก็ต้องตกตะลึง

เบื้องหน้าเยี่ยเทียนค้นพบว่ามีบ่อน้ำสีทองขนาดเท่าอ่างล้างหน้า น้ำสีทองส่องสว่างเข้าหน้าเยี่ยเทียน

พลังธาตุทองที่ถาโถมออกมาจากบ่อน้ำนั้นเข้มข้นมากจนเยี่ยเทียนต้องกลั้นหายใจ แล้วรีบปิดกั้นรูขุมขนทั้งหมด พลังธรรมชาติบริสุทธิ์นั้นยังคงแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้เรื่อยๆ

ตอนนั้นเองเยี่ยเทียนรู้สึกเหมือนเส้นลมปราณทั้งร่างกายกำลังถูกตัดขาด บ่าทรุดลง ห่อของที่ใส่มีดบิน อู๋เหินและพลอยวิเศษตกลงไปสู่บ่อทองนั้น

เยี่ยเทียนไม่สนใจข้าวของอย่างอื่นแล้ว เขานั่งขัดสมาธิลงกับพื้น เดินลมปราณตันเถียนยินหยางให้หมุนเวียนพลังธาตุทองที่เข้าสู่ร่างกายทันที

แต่พลังธรรชาติธาตุทองในบ่อทองที่เยี่ยเทียนได้รับตอนนี้เข้มข้นกว่าพลังที่เขาเคยสัมผัสมาหลายเท่านัก

เขาใช้ตันเถียนถึงสองอันในการหมุนเวียนพลัง แต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ความแหลมคมของแร่ทองที่แทรกซึมอยู่ในเส้นลมปราณรู้สึกเหมือนมีดเล็กๆกำลังกรีดเนื้ออยู่ภายใน มีแต่ความเจ็บปวดที่ทรมาน

เยี่ยเทียนที่กำลังโคจรลมปราณอยู่ไม่ได้สังเกตเลยว่าข้าวของที่ตกลงไปในบ่อทองนั้น ทำให้น้ำในบ่อทองเจือจางลง

ส่วนห่อผ้าที่ทำจากหนังหมาป่านั้นถูกหลอมละลายหายไป สิ่งของที่อยู่ด้านในหลอมรวมอยู่ในของเหลวสีทอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเยี่ยเทียนไม่ได้รับรู้เลย ตอนนี้เขาปิดประสาทสัมผัสทั้งหก เพื่อปิดกั้นพลังธรรมชาติที่เข้ามารุกราน พลังแร่ทองอันดุเดือดค่อยๆเปลี่ยนเป็นปราณแท้

เวลาค่อยๆผ่านไป อุณหภูมิในอุโมงค์ค่อยๆสูงขึ้น พลังธรรมชาติถูกปลดปล่อยออกไปสู่ภายนอก ต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่าในวันนั้นเริ่มแตกหน่อใหม่ออกมา รอบๆถ้ำนั้นดูราวกับทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิ

เยี่ยเทียนนั่งสมาธิอยู่ในอุโมงค์นั้น ปราศจากอารมณ์ใดๆ หน้าอกไม่มีการพองขึ้นลงตามลมหายใจ บ่าสองข้างและบนศีรษะเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินปูเป็นชั้นบางๆ

“ให้ตายสิ ในที่สุดก็จัดการได้หมดเสียที!”

จู่ๆร่างแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ของเยี่ยเทียนก็ขยับ ดวงตาค่อยๆลืมขึ้น มองเห็นแสงส่องสว่างไปทั่วถ้ำอันมืดมิดเป็นแสงสีทองสุกปลั่งสว่างไสว

“ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนี่?”

เยี่ยเทียนขยับคออันเมื่อยล้า เห็นว่ามีฝุ่นที่เกาะตามตัวเขาฟุ้งขึ้นตามการเคลื่อนไหว

“บ้าเอ๊ย นาฬิกาทำไมหยุดเดินแล้ว?”

เยี่ยเทียนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู นาฬิกาล้ำสมัยที่วัดอัตราการเต้นของชีพจรแล้วถึงจะเดินตามเวลาได้ เป็นนาฬิกาที่ทันสมัยที่สุดในโลก ตอนนี้มันไม่เดินแล้ว วันนี้เป็นวันที่เขาเข้ามาอยู่ในอุโมงค์เป็นวันที่สาม

“เอ๋ ทำไมพลังปราณแท้มันไม่เหมือนเดิม? ร่างกายก็เหมือนจะเปลี่ยนไปด้วย….”

เยี่ยเทียนสัมผัสได้ถึงสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป ท่าทางยินดีปรีดาเพราะเขาเห็นว่าในพลังปราณแท้ของตัวเองนั้นมีพลังธาตุทองที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานผสมอยู่ด้วย

เยี่ยเทียนยื่นมือขวาออกไปหยิบแร่ทองที่ตกอยู่ข้างลำตัวขึ้นมา กำมือบีบด้วยนิ้วทั้งห้าเบาๆ แร่ทองก้อนใหญ่ขนาดเท่าหัวคนถูกบดป่นปี้เป็นผุยผง ร่วงหล่นลงมาตามร่องนิ้ว

เขาใช้พลังปราณแท้ดีดนิ้วลงไปบนผนังอุโมงค์เบาๆ จุดนั้นกลายเป็นหลุมลึกๆลงไปในเนื้อหิน ผนังแข็งๆเช่นนี้ดูอ่อนนิ่มราวกับทำจากก้อนเต้าหู้

“ฮ่าๆ พลังธาตุทองอันแข็งแกร่ง สมชื่อจริงๆ!”

เยี่ยเทียนหัวเราะชอบใจ ถ้าไม่ใช่เพราะได้เจอกับกองทัพทหารรัสเซีย เขาเพียงขับเคลื่อนพลังปราณแท้ที่มีอยู่แล้วโจมตีเล็กน้อยก็สามารถทำให้กองทัพรัสเซียทั้งหมดวุ่นวายได้

“อืม ของเหลวสีทองในแอ่งน้ำทำไมไม่มีแล้ว?”

หลังจากลิ้มลองรสชาติการเปลี่ยนแปลงจากพลังธาตุทองที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายแล้ว เยี่ยเทียนก้าวไปด้านหน้าแล้วพบว่าสารน้ำสีทองที่อยู่ในแอ่งแห้งไปไม่เหลือสักหยด

ที่ก้นบ่อนั้นมีข้าวของที่หล่นอยู่ นอกจากระดิ่งของเยี่ยเทียนแล้ว ยังมีเครื่องรางอู๋เหินกับมีดบิน แล้วก็พลอยวิเศษธาตุทองสีเหลืองสว่างอยู่อีกเจ็ดก้อน

“ทำไมถึงมีเจ็ดก้อนเล่า?”

เยี่ยเทียนจำได้แม่นว่าเขาได้พลอยวิเศษมาทั้งหมดหกก้อน แต่ตอนนี้มีเจ็ดก้อน มีเพิ่มขึ้นมาก้อนหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นก้อนที่ดึงดูดสายตาของเยี่ยเทียน

หินก้อนนี้เป็นสีเหลืองทองทั้งก้อน และมันยังเรืองแสงออกมาได้ด้วย มองให้ดีภายในเนื้อหินมีสายทองคำหมุนวนอยู่ เยี่ยเทียนรู้สึกได้ว่าในนั้นมีพลังวิเศษมหาศาล ด้วยการฝึกวิชาของเขาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่มีทางดูดซับพลังของมันได้หมด

“พลอยวิเศษน่าจะมีการแบ่งชั้น หินก้อนนี้เป็นหินที่ดีกว่าก้อนไหนๆที่เราเคยได้มา!”

ถึงจะไม่มีใครอธิบายให้เยี่ยเทียนฟังถึงการแบ่งระดับของพลอยวิเศษ แต่ด้วยความบังเอิญ เขาได้ครอบครองพลอยวิเศษมาหลายก้อน เมื่อทำการเปรียบเทียบกันแล้ว แน่นอนว่าสามารถมองออกได้ถึงข้อนี้

ถึงแม้เยี่ยเทียนจะประเมินพลอยวิเศษไว้อย่างสูงแล้ว แต่เขาก็ประเมินออกมาได้ต่ำเกินไป พลอยวิเศษก้อนนี้ถ้าไปปรากฎในโลกของเต๋า เกรงว่าจะต้องมีผู้วิเศษจินตันจำนวนไม่น้อยลงมือต่อสู้เพื่อแย่งชิงมัน เพราะมันเป็นพลอยวิเศษชั้นยอด

ในโลกของเต๋า พลอยวิเศษชั้นยอดกำเนิดคู่กับเส้นลมปราณวิเศษ ในหลายๆแง่มุม ของวิเศษชั้นยอดนั้นเป็นเหมือนหินต้นกำเนิดที่หล่อเลี้ยงให้กำเนิดพลอยวิเศษก้อนอื่นๆ

ดังนั้นเมื่อเส้นลมปราณวิเศษ ใกล้จะเหือดแห้งลง ผู้ที่เป็นเจ้าของมัน ถึงจะได้ครอบครองพลอยวิเศษชั้นสูง จึงเป็นของมีค่าที่หาได้ยากยิ่ง

แต่คุณค่าของเส้นลมปราณวิเศษแห่งนี้ ยังเหนือกว่าพลอยวิเศษชั้นยอดเสียอีก ก็มีแต่เยี่ยเทียนเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงได้ทำการฆ่าไก่เพื่อชิงไข่แบบนี้