ลูกน้องถูกแววตาที่บ้าคลั่งของหงกั๋วซิงทำให้ตกใจไม่เบา พูดอย่างลนลานว่า : “คุณชาย เพียงแค่พวกเราไม่ไปยั่วโมโหเขาก่อน เขาก็จะไม่ลงมือกับพวกเรา! และเขาฆ่าหญิงสาวคนนั้นแล้ว พวกเรากลับไปรายงานความผิดของเขาได้!”

“ใช่! ใช่แล้วคุณชาย!” ลูกน้องอีกคนหนึ่งพูดต่อไปว่า : “เขาเป็นถึงยอดฝีมือแดนเทพ ลงมือกับมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งยังปลิดชีพของคนอื่นอีก กลับไปรายงานความผิดของเขา เขาจะต้องได้รับโทษอย่างหนักแน่นอน!”

ลูกน้องทั้งสองคนพูดโน้มน้าว ในที่สุดหงซิงกั๋วก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย ชี้ไปที่เฉินโม่แล้วตะโกนว่า : “เฉินโม่ วันนี้ผมหงซิงกั๋วปล่อยแกไปก่อน ขอเตือนแกไว้! ถ้าคราวหน้าแกยังทำให้ผมโกรธเคืองอีก ผมจะทำให้แกขี้หดตดหายเลย!” พูดจบก็ยังมองดูมู่หรงยานเอ๋อร์อีกครั้ง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน : “ยานเอ๋อร์ หลังจากกลับไปแล้วผมจะบำเพ็ญเพียรให้ดี รอวันที่ผมเป็นหนึ่งเดียวของใต้หล้า ก็จะกลับมาสู่ขอเธอ”

มู่หรงยานเอ๋อร์ยังคงหลับตาทั้งสองอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของหงซิงกั๋วก็เอามือปิดหูตัวเองอีกด้วย

“จะไม่มีครั้งต่อไปแล้ว” เฉินโม่กล่าว

“แกพูดอะไรนะ?” ลูกน้องคนหนึ่งฟังไม่ชัดว่าเมื่อกี้นี้เฉินโม่พูดอะไร จึงถามกลับไป

เฉินโม่ลุกขึ้นยืน และทำให้รู้สึกได้ว่ารูปร่างที่ผอมบางสูงใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน อากาศทั้งสี่ทิศแปรปวนเล็กน้อย

ในสายตาของหงซิงกั๋วทั้งสามคน ขณะนี้เฉินโม่เหมือนกับยักษ์ที่ควบคุมฟ้าดิน ทำให้ตะลึงงัน

“ฉันบอกว่า นายไม่มีโอกาสที่จะมาทำให้ฉันโกรธเคืองอีกแล้ว” เฉินโม่พูดเสียงเรียบ

“หึ!” หงซิงกั๋วพูดด้วยสีหน้าที่เข้มแข็งแต่ในใจกลัวจนใจสั่น : “รู้ว่าไม่ควรทำให้คุณชายโกรธเคืองก็อย่าทำ ถือว่านายฉลาด วันนี้คุณชายอารมณ์ดีจึงอภัยให้นาย พวกเราไป!”

ลูกน้องทั้งสองสั่นไปทั้งตัว ได้ยินหงซิงกั๋วบอกว่าไป ตอบตกลงทันที ยังเดินไม่ถึงหน้าประตูก็เห็นประตูห้องปิดอย่างรุนแรง เสียงดัง “ปั้ง” ทำให้ทั้งสามตกใจอย่างมาก

เฉินโม่มองดูหงซิงกั๋ว เดินไปอย่างช้าๆ พูดขึ้นว่า : “เรื่องระหว่างเรา ขอให้สิ้นสุดลงในวันนี้เถอะ!”

“แกจะทำอะไร!” หงซิงกั๋วตะคอกเสียงแทบแตกว่า : “หงเวยปู่ของผมเป็นจอมพลของเผ่ามังกรนะ! แกอย่าเข้ามา แกอย่าเข้ามา……”

เฉินโม่ชูนิ้วชี้ขวามือออกมา ค่อยๆจิ้มไปที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของหงซิงกั๋ว

หงซิงกั๋วโกรธเหมือนตาจะแตกออก อยากจะเอียงหัวไปแต่ร่างกายไม่เป็นไปตามที่สมองสั่งการ ทำได้เพียงมองดูนิ้วชี้ของเฉินโม่ค่อยๆจิ้มไปที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของตัวเอง

เหมือนช่วงเวลาที่ยาวนานมาก ๆ ราวกับว่าผ่านมาพันศตวรรษ ทันทีที่นิ้วชี้ของเฉินโม่กดลงไปตรงกลางระหว่างคิ้วของเขา ในหัวของหงซิงกั๋วก็ปรากฏความสุขที่งดงาม และความทุกข์ทรมานใจต่าง ๆ นา ๆ จากนั้นความสุขที่งดงามทั้งหมดของเขาถูกชะล้างไปจนหมด เหลือไว้เพียงฝันร้ายที่ไม่มีวันหมดสิ้น

เมื่อฝันร้ายทั้งหมดถูกรวมไว้ในที่หนึ่ง เบื้องหลังของฝันอันเลวร้ายกลับปรากฏใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเฉินโม่ ฝันร้ายทั้งหมดของตนล้วนมาจากปีศาจตนนี้

ปีศาจตนนี้ทำให้ตนต้องทนกับความเจ็บปวดอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

“แก๊ก!”

เหมือนกระจกที่อยู่ในหัวแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หงซิงกั๋วรู้สึกได้เพียงในหัวของตัวเองสะเทือนอย่างรุนแรง สิ่งของทั้งหมดพังทลายอย่างรวดเร็ว เขาหมดสติไปตลอดกาล มีน้ำตาหยดลงมาจากหางตาสองหยด

ถ้าไม่ยั่วโมโหปีศาจตนนี้ จุดจบของตนก็คงไม่เป็นเช่นนี้สินะ!

“นาย……นายกล้าฆ่าคุณชายของพวกเรา!” ลูกน้องคนหนึ่ง พูดพร้อมยกนิ้วชี้ที่สั่นไปยังเฉินโม่

“ตระกูลหงไม่ปล่อยนายไปแน่!” ลูกน้องอีกคนหนึ่งตะโกนด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว

เฉินโม่มองดูพวกเขา สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ “ช่วยคนชั่วทำเรื่องที่ไม่ดี ต้องฆ่าทิ้ง!”

สิ้นสุดเสียงพูด เฉินโม่ตบมือครั้งเดียว ทั้งสองก็กลายเป็นผงในทันที

เฉินโม่อุ้มมู่หรงยานเอ๋อร์ขึ้นมา ยิ้มอย่างอบอุ่น และพูดว่า : “ไป ฉันพาเธอกลับบ้าน”