เมื่อเฉินโม่ลงมือโหดเหี้ยมด้วยโกรธเคือง หลับตาลงสัมผัสข้อมูลที่ยันต์สะกดรอตตามส่งกลับมา เมื่อขึ้นไปที่ชั้นสอง

ขณะที่กลุ่มคนหงซิงกั๋วตามมาถึง เห็นเพียงหญิงสาววัยกลางคนนอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง

ลูกน้องเอามือไปแตะที่จมูก สีหน้าตกตะลึง พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ : “ตะ……ตายแล้ว……”

“เฉินโม่เป็นคนของโลกแห่งการบำเพ็ญเซียนแท้ ๆ วันนี้ลงมือกับมนุษย์ธรรมดาได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ คุณชาย พวกเรารีบไปจากตรงนี้เถอะ หรือขอความช่วยเหลือจากตระกูล ลงโทษเขาให้หนัก!” ลูกน้องอีกหนึ่งคนตะลึงงันกับฝีมือของเฉินโม่ ทำได้เพียงพูดโน้มน้าวให้หงซิงกั๋วรีบไปจากที่นี่

หงซิงกั๋วกัดฟัน พูดด้วยความคับแค้นใจว่า : “ขึ้นไปชั้นบน! ผมไม่เชื่อว่า เขาจะกล้าลงมือกับคนในตระกูลหงของผม!”

พลานุภาพของยันต์สะกดรอยตามหายไปยังห้อง ๆ หนึ่งที่อยู่ในมุมของชั้นสอง

“ตรงนี้แหละ!” ในที่สุดพลานุภาพของเฉินโม่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมู่หรงยานเอ๋อร์ รีบทุบกลอนประตูให้พังโดยเร็ว ผลักประตูเข้าไป

มู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ในห้องถูกมัดไว้เหมือนดั่งบ๊ะจ่าง มีผ้าสีขาวอุดไว้ที่ปากแนบแน่น ได้ยินว่ามีคนเข้ามา ตกใจจนหน้าถอดสี หรือว่าหงซิงกั๋วสาระเลวคนนั้นอดกลั้นไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ หรือ?

ถ้าเขากล้าทำเรื่องแบบนั้นกับตัวเองจริง ๆ แม้ว่าตนต้องตายก็จะไม่ให้เขาได้สมดั่งใจหวังแน่นอน!

วินาทีที่มู่หรงยานเอ๋อร์ตัดสินใจพร้อมที่จะตายแล้วจริง ๆ

แต่เมื่อเธอเห็นคนที่เดินเข้ามาอย่างชัด ๆ ว่าเป็นเฉินโม่ หัวใจที่ตกอยู่ที่ตาตุ่มก็โล่งใจขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข แต่กลับร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม

มองดูมู่หรงยานเอ๋อร์โดนคนอื่นปฏิบัติเช่นนี้ เฉินโม่รู้สึกได้เพียงว่าหัวใจตัวเองเหมือนโดนคนอื่นเอามีดมากรีดอย่างโหดเหี้ยม

ก้าวออกไปหนึ่งก้าวเฉินโม่ก็มาถึงข้างกายมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว เอามือแตะไปที่เชือกเบา ๆ เชือกก็หายไปแล้ว

มู่หรงยานเอ๋อร์ดึงผ้าที่อยู่ในปากของตัวเองออกทันที กระโจนเข้าไปในอ้อมอกของเฉินโม่ร้องไห้โฮออกมา

ในที่สุดเฉินโม่ก็วางใจเสียจนได้ โชคดีที่ไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น

“ฉันคิดว่า……ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้ว” มู่หรงยานเอ๋อร์ร้องไห้หนักกว่าเดิม มือที่กอดเฉินโม่ไว้ก็ออกแรงมากยิ่งขึ้น คล้ายกับว่ากลัวเฉินโม่จะบินไปอย่างกะทันหัน

เฉินโม่ตบไปที่หลังของมู่หรงยานเอ๋อร์เบา ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความรักและสงสาร พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า : “ไม่มีอะไรแล้ว ๆ ไม่ต้องกลัว ยังมีฉันอยู่ ฝันร้ายทั้งหมดต่างก็ผ่านไปแล้ว”

“เฉินโม่! แกปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”

ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่นั้น ในที่สุดหงซิงกั๋วก็พาลูกน้องทั้งสองมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นฉากที่มู่หรงยานเอ๋อร์ถูกเฉินโม่โอบไว้ในอ้อมกอด ทันใดนั้นก็รู้สึกหึงหวงขึ้นมา นั่นคือหญิงสาวในฝันของผมเลยนะ แกบังอาจมาแตะต้องเธอได้เยี่ยงไร? ไม่สนใจว่าแกจะเป็นเฉินไต้ซือในตำนานหรือไม่ ผมก็จะทำให้แกตายทั้งเป็น!

เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย จับใบหน้าที่สวยงามซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตาของมู่หรงยานเอ๋อร์แล้วพูดว่า : “เธอหลับตาลง รอฉันสักครู่หนึ่ง ประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

พูดจบก็บรรจงจูบไปที่แก้มของมู่หรงยานเอ๋อร์เบาๆ หนึ่งครั้ง

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้ว่าเฉินโม่จะทำอะไร ในใจก็รู้สึกเกลียดแค้นหงซิงกั๋วถึงขั้นสุดแล้วเช่นกัน ตอบกลับเสียงเบา หลับตาลงแล้วหันหัวไป ท่าทีที่รู้สานี้ทำให้รู้สึกรักและสงสาร

“เฉินโม่! แม่มเอ้ยปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” เห็นเฉินโม่จูบมู่หรงยานเอ๋อร์ต่อหน้าเขาขนาดนี้ หงซิงกั๋วโกรธเคืองอย่างมาก กำหมัดแล้วพุ่งเข้าไปต่อยเฉินโม่ แต่กลับโดนมือทั้งสองดึงไว้แน่น

“คุณชาย! ต้องอดทนไว้ให้ได้นะ! ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด!”

“นั่นสิคุณชาย พวกเราสู้เขาไม่ได้หรอก!”

หงซิงกั๋วหันกลับไปจ้องลูกน้องทั้งสอง คิดในใจ : เรื่องแบบนี้ผมยังต้องให้แกเตือนอีกหรือ? การที่แกเตือนผมถือเป็นการโรยเกลือใส่แผลของข้านะ!