บทที่ 1151 ต่อสู้ดุเดือด!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

ทว่า ในตอนที่หวังเป่าเล่อหยิบใบไม้ออกมานั่นเอง พลังปราณของฝักกระบี่เจ้าชะตาพลันแผ่ซ่าน เด็กสาวที่มาปรากฏตัวอยู่ข้างหวังเป่าเล่ออย่างน่าประหลาดนั้น ร่างพลันเลือนรางในทันทีราวกับถูกดึงถอยหลังไปปรากฏตัวอยู่ในที่ไกลๆ อีกครั้ง ดวงตาแสดงความประหลาดใจจับจ้องตรงมาทางหวังเป่าเล่อ

หวังเป่าเล่อเองก็แหงนหน้ามองเด็กสาว ดวงตาหรี่ลงฉายเจตนาร้าย

“หยั่งเชิงข้าหรือ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องผิดหวังแล้วล่ะ ใบไม้ของข้ายังใช้ได้อีกหลายครั้ง” หวังเป่าเล่อเอ่ยขึ้นโดยเร็ว ปราการที่สร้างจากร่างแยกจำนวนมากรอบตัวก็ยังคงถูกผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักระเบิดตัวเองใส่จนเกิดเสียงดังสนั่นไม่หยุด

การทำลายตัวเองในระดับนี้ ถึงแม้กายเนื้อหวังเป่าเล่อจะไปถึงระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรแล้วแต่ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ดี หากไม่มีภัยคุกคามจากเด็กสาว หวังเป่าเล่อก็สามารถใช้มือเท้าสยบทุกคนในที่แห่งนี้ได้

แต่ตอนนี้เขาต้องระแวดระวัง ดังนั้นเมื่อหวังเป่าเล่อหรี่ตามองจึงยังคงรักษาแนวป้องกันและดูดซับเตาหลอมที่สองต่อไป เส้นไหมสีเขียวรอบตัวก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้ากฎแตกกระจายหนึ่งส่วนสุดท้ายในเตาหลอมที่สองก็ถูกดูดซับจนหมด หลังเกิดกระแสน้ำวน เส้นไหมสีเขียวรอบด้านก็พุ่งเข้าหาเขาทันที

ด้านเด็กสาวฉายแววอาฆาตในดวงตา ก่อนจะหายตัวไปอีกครั้งราวกับผสานร่างเข้ากับเส้นไหมสีเขียวพวกนั้นจนหวังเป่าเล่อไม่สามารถแยกแยะได้

เมื่อเห็นเช่นนั้น หวังเป่าเล่อก็เพียงแค่หยิบใบไม้ออกมาและส่งมันให้ลอยอยู่เหนือศีรษะ ก่อนจะกระตุ้นให้มันระเบิดแสงเจิดจ้าครอบคลุมไปทั่วบริเวณ แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทำให้เด็กสาวที่ผสานเข้ากับเส้นไหมสีเขียวต้องถอยออกไปอีกครั้ง นางปรากฏตัวขึ้นในที่ไกลๆ พร้อมดวงตาที่ฉายแววบ้าคลั่ง

ขณะเดียวกันฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างกายหวังเป่าเล่อก็ดูดซับเส้นไหมสีเขียวอย่างรวดเร็วจนพื้นที่ครึ่งหนึ่งโปร่งใส

“ยามที่โปร่งใสจนหมด เจตนารมณ์แห่งกระบี่จะสำแดงฤทธิ์!” หวังเป่าเล่อสัมผัสได้ จึงไม่ได้นั่งดูดซับเส้นไหมสีเขียวต่อ กลับโบกมือพาร่างแยกที่รายล้อมรอบตัวเขาเหาะเข้าไปใกล้เตาหลอมที่สามอย่างรวดเร็ว

ดูดซับเส้นไหมสีเขียวไปพร้อมกับกฎแตกกระจายในเตาที่สาม แม้ระหว่างนั้นร่างแยกของเขาจะแตกสลายไปทีละร่าง แต่การตอบรับจากฝักกระบี่เจ้าชะตาก็ช่วยหล่อเลี้ยงพลังกายเนื้อจนทำให้ร่างแยกที่แตกสลายไปแล้วไม่น้อยกลับมารวมตัวกันได้ใหม่

ถึงแม้จะไม่สมดุลแต่ก็สามารถถ่วงเวลาได้มากพอควร ถึงตอนนี้จิตใจหวังเป่าเล่อจะมั่นคงแล้ว เขารู้ว่าทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง

ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งดูดซับได้มากขึ้น กายเนื้อก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ขณะเดียวกันเขาไม่เชื่อว่าศิษย์พี่เฉินชิงจื่อจะไม่สังเกตเห็น ดังนั้นหากรอต่อไปบางทีอาจไม่จำเป็นต้องคิดหาวิธีเอง ศิษย์พี่คงหาทางออกให้เขาได้

“เพราะฉะนั้น คนที่ต้องร้อนรนคือมัน!” หวังเป่าเล่อตาเป็นประกาย ยอมรับว่าเด็กสาวผู้นั้นแปลกประหลาด อีกทั้งยังมีพลังเทพบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทว่าแล้วมันอย่างไรเล่า ในเมื่อจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของอีกฝ่ายคือพลังต่อสู้ไม่เพียงพอ

“ตราบใดที่มันไม่มีพลังพอจะสังหารข้าได้ในพริบตา ไม่ว่าจุดประสงค์ของมันคืออะไรก็ไม่มีทางสำเร็จ!” หวังเป่าเล่อพ่นลมและดูดซับเร็วยิ่งขึ้น

ขณะคำราม กฎแตกกระจายในเตาหลอมที่สามก็ถูกเขาดูดซับไปจำนวนมาก เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็ถูกดูดซับไปกว่าครึ่งแล้ว อีกทั้งหลังจากดูดซับเส้นไหมสีเขียว ร่างกายหวังเป่าเล่อก็ได้รับการบำรุงจนพัฒนาขึ้นไปอีก!

ชั้นมหาวัฏจักรในระดับดารานิรันดร์นั้นไม่มีข้อจำกัดทางร่างกาย ขณะที่พัฒนาขึ้น ร่างกายหวังเป่าเล่อจึงแข็งแกร่งกว่าเดิม และเข้าใกล้…ระดับจักรพิภพมากขึ้นเรื่อยๆ!

ขณะนี้เด็กสาวกำลังจ้องมองหวังเป่าเล่อจากระยะไกล หลังจากสัมผัสได้ถึงอันตรายและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของหวังเป่าเล่อก็ร้อนรนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด รูม่านตาในดวงตายิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามที่ดังออกมาจากในร่างนาง

“ฆ่าเขาซะ! ค้นหาสิ่งที่เขากลัวที่สุดในก้นบึ้งหัวใจ แปลงเป็นมันแล้วฆ่าเขาซะ!”

“เขาคือบุตรแห่งความมืดรุ่นปัจจุบัน ฆ่าเขาซะ ทำลายความหวังของสำนักแห่งความมืด!”

“ไม่นะ ชะตากรรมสำนักแห่งความมืด เจ้าจะไปยุ่งได้อย่างไร!”

“หาเจอแล้ว ที่แท้เขาก็กลัวสิ่งนี้!”

“ฆ่าๆๆ”

ขณะที่เสียงคำรามดังกังวาน องค์ชายไม่รู้สิ้นที่เด็กสาวครอบงำอยู่และอีกสองหัวก็ระเบิดเสียงกรีดร้องเจ็บปวดจากอารมณ์ที่แปรปรวนของเด็กสาว

จากนั้นรูม่านตาในดวงตาเด็กสาวพลันซ้อนทับ ก่อนจะกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว นางก็อ้าปากเผยให้เห็นฟันขรุขระที่เต็มไปด้วยเมือกและส่งเสียงกรีดร้องใส่หวังเป่าเล่อ

เสียงกรีดร้องนี้ราวกับก่อตัวเป็นระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นระเบิดไปรอบบริเวณ หวังเป่าเล่อตัวสั่นเทิ้ม วิญญาณเทพสั่นไหวเล็กน้อย แต่เพียงพริบตาเดียวก็กลับมาเป็นปกติ ทว่าผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักที่โจมตีร่างแยกของเขาอย่างต่อเนื่องกลับตัวสั่นเทิ้มและทยอยถอยออกไปทีละคน

พวกเขาไม่โจมตีร่างแยกที่คอยคุ้มกันหวังเป่าเล่ออีกต่อไป ทว่าถอยกลับไปหาองค์ชายไม่รู้สิ้นผู้ถูกเด็กสาวครอบงำร่าง และในพริบตาต่อมา…ฉากแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น!

ตอนนี้เหล่าผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักรวมถึงมังกรมายาและชายหนุ่มกระบี่โบราณรวมแล้วยังเหลืออีกสามสิบกว่าคน ผู้ฝึกตนพวกนี้ดูเหมือนจะสูญเสียสติรับรู้หมดสิ้นแล้ว แต่ละคนพุ่งเข้าใส่องค์ชายไม่รู้สิ้นที่ถูกเด็กสาวครอบงำราวกับกำลังผสานร่างเข้ากับเขา

ผสานร่างกาย ผสานวิญญาณเทพ แม้แต่ฐานการฝึกฝนก็ยังผสานเข้ากัน หากมองด้วยตา ผู้ฝึกตนสามสิบกว่าคนนี้ผนึกกายเข้ากับองค์ชายไม่รู้สิ้นภายในไม่กี่อึดใจ!

และทุกครั้งที่ผนึกกายล้วนทำให้บนร่างขององค์ชายไม่รู้สิ้นเกิดเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำ พลังปราณเพิ่มสูงและในที่สุด…หลังจากผู้ฝึกตนผนึกกายเข้าไปจนหมด องค์ชายไม่รู้สิ้นที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหวังเป่าเล่อก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งไปแล้ว!

สัตว์ประหลาดตัวนี้มีแขนขานับสิบข้าง ร่างกายถูกยืดออกจนดูคล้ายตะขาบร่างมนุษย์ยักษ์!!

อีกทั้งบนตัวมันยังมีเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำอยู่นับสิบ พวกมันวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ดวงตาไร้แวว ทว่าส่วนหัวที่คำรามด้วยความเจ็บปวดกลับบิดกายไปมา และพุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์

มันเร็วขึ้นอีก!

พริบตาเดียวก็มาขวางหน้าหวังเป่าเล่อเอาไว้ บรรดาร่างแยกของเขาถูกตะขาบหลายร้อยตัวที่เด็กสาวสร้างขึ้นระเบิดใส่ บางส่วนถูกมันกลืนกินเข้าไป การฉีกกัดไม่ได้ช้าลงกลับกันมันยิ่งเร็วขึ้นไปอีก และในชั่วพริบตา…ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหวังเป่าเล่อที่จิตใจกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

“ตะขาบรึ?!” หวังเป่าเล่อยกมือขวาขึ้นมา ใบไม้ที่ปรมาจารย์แห่งไฟมอบให้ถูกใช้งานในทันที มันก่อตัวเป็นม่านแสงบังไว้ด้านหน้า

เกิดเสียงปะทะดังสนั่น ม่านแสงเกิดรอยร้าวใกล้แตก แต่ยังไม่หายไป ส่วนตะขาบที่แปลงมาจากเด็กสาวก็ถูกขัดขวางไว้ได้ในครั้งแรก หวังเป่าเล่อจิตใจสั่นไหว เขาคิดจะคลี่ฝักกระบี่เจ้าชะตา แต่ก็ยอมละทิ้งความคิดไป ก่อนจะถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว สองมือผนึกมุทราและชี้ไปยังใบไม้ที่กลายเป็นม่านแสง!

“ผนึก!”

ทันทีที่เอ่ยออกไป ม่านแสงพลันโค้งงอห่อหุ้มตะขาบตัวนั้นไว้คล้ายผนึกกับดัก แต่เห็นได้ชัดว่ามันอาจทนต่อไปได้อีกไม่นานนัก เพราะตะขาบด้านในร้องคำรามและพุ่งชนไม่หยุด

“มันไม่ใช่ตะขาบสีโลหิตในความทรงจำของข้า!”

“ใช้วิธีที่ข้าไม่รู้สัมผัสถึงสิ่งที่ข้าหวาดกลัวในใจแล้วแปลงกายออกมา…”

ขณะที่หวังเป่าเล่อถอยออกไปก็สัมผัสได้ถึงอันตรายอีกครั้ง เขาไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากจึงดูดซับเส้นไหมสีเขียวไปพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมา ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายติดอยู่ในกับดักกระตุ้นเตาหลอมที่สาม สี่ ห้า พร้อมกันและดูดซับกฎแตกกระจายข้างในอย่างบ้าคลั่ง

“เร็วเข้า ต้องทำให้ฝักกระบี่เจ้าชะตากึ่งโปร่งแสงให้เร็วที่สุด!”

หวังเป่าเล่อทุ่มกำลังสุดตัว ฐานการฝึกฝนไหลเวียนกระตุ้นฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่าง ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่ายังไม่พอ จึงยกมือขวาขึ้นลูบและตบหน้าอกอย่างแรง แรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกส่งผลให้ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างถูกผลักออกมาทันที ลำแสงเจิดจ้าแผ่ออกมาจากในร่างของหวังเป่าเล่อ จนในที่สุดตรงเบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏ…ฝักกระบี่เจ้าชะตา!

พริบตาที่ฝักกระบี่เจ้าชะตาปรากฏขึ้น กฎแตกกระจายในเตาหลอมพลันปะทุรุนแรงราวกับไม่มีสิ่งกีดขวางจากร่างกายหวังเป่าเล่ออีกแล้ว ฝักกระบี่เจ้าชะตาดูดซับเร็วยิ่งยวดทำให้กฎแตกกระจายพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิม!

เวลาเดียวกันเส้นไหมสีเขียวก็ถูกดูดเข้ามารวมตัวกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

สามหมื่น แปดหมื่น หนึ่งแสน สองแสน สามแสน…จนกระทั่ง…หนาแน่นไร้ขอบเขต!

…………………………………………………………