บทที่ 1152 ดูดซับพังทลายไม่รู้สิ้น!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

เวลานี้กฎแตกกระจายในเตาหลอมทั้งสามกำลังปะทุ และพุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อที่อยู่ใจกลางอย่างบ้าคลั่ง หรือกล่าวให้ชัดเจนคือพุ่งเข้าหาฝักกระบี่เจ้าชะตาเบื้องหน้าเขา!

ตอนนี้ฝักกระบี่เจ้าชะตากึ่งโปร่งแสงไปกว่าหกส่วนแล้ว ความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวยังคงก่อตัวขึ้นภายในอย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กสาวที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดหลังจากผนึกกายเข้ากับผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักในผนึกกับดักใบไม้ยิ่งบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่เสียงคำรามยังดังออกมาไม่หยุด บริเวณโดยรอบก็ดึงดูดเส้นไหมสีเขียวเข้ามามากขึ้น เนื่องจากกฎแตกกระจายถูกดูดซับ เวลาไม่นานก็มีมากถึงสี่แสนเส้น

และเพราะเส้นไหมสีเขียวรวมตัวกันมากเช่นนี้จึงทำให้จักรวาลอันว่างเปล่าแห่งนี้ค่อยๆ ถูกย้อมจนกลายเป็นสีเขียวคราม นั่นทำให้เด็กสาวผู้ถูกผนึกอยู่ในใบไม้ร้อนรนกว่าเก่า นางส่งเสียงคำรามไม่หยุด ขณะที่กำลังดิ้นรนอยู่ บนกับดักใบไม้พลันปรากฏรอยร้าวอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าใกล้จะปริแตกเต็มทน

หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขารู้ดีว่าหากฝักกระบี่เจ้าชะตายังไม่โปร่งแสงทั้งหมดก่อนที่ผนึกใบไม้จะแตกออก คงเป็นการยากที่จะสำแดงการโจมตีที่เขามั่นใจมากที่สุด หากเป็นเช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ หวังเป่าเล่อคงทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่นเพื่อถ่วงเวลาต่อไป

ถ่วงเวลาจนกว่าศิษย์พี่จะฝ่าความแปลกประหลาดของสถานที่แห่งนี้ และเข้ามาช่วยเขา

“เจ้าโชคชะตาตัวดี ยุ่งยากเสียจริง!” หวังเป่าเล่อทอดถอนใจ แต่ก็เข้าใจกระจ่างว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคร่ำครวญ สองมือผนึกมุทราอย่างรวดเร็ว ตีตรากระตุ้นฝักกระบี่เจ้าชะตาตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง

ฝักกระบี่เจ้าชะตาส่งเสียงหึ่งออกมาเป็นระยะ และยิ่งกลืนกินมากขึ้นอีกครั้งจนถึงขีดจำกัดที่หวังเป่าเล่อสามารถทำได้ในตอนนี้ เกิดเสียงดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ กฎแตกกระจายในเตาหลอมรอบด้านลดน้อยลงจนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ในไม่ช้ากฎแตกกระจายในเตาหลอมที่สามก็ถูกหวังเป่าเล่อดูดซับจนเกลี้ยง เกิดเสียงดังสนั่นและเตาหลอมที่สามก็แผ่แรงดูดออกมาอย่างบ้าคลั่งทำให้เส้นไหมสีเขียวจำนวนมากส่งเสียงหวีดหวิว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฝักกระบี่!

พลังตอบรับก่อตัวเป็นรูปร่าง นั่นคือกลุ่มหมอกสีม่วงแผ่ออกมาจากฝักกระบี่เจ้าชะตาแทรกซึมเข้าไปตามรูทวารทั้งเจ็ดและรูขุมขนของหวังเป่าเล่อจนเขาตัวสั่น พลังกายเนื้อระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรพลันพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง!

ดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรนั้นแม้จะมีคำว่ามหาวัฏจักรอยู่ แต่ความจริงแล้วในระดับนี้ก็แบ่งออกเป็นหนึ่งก้าวกับร้อยก้าว เนื่องจากความยากของมัน ดังนั้นเพียงแค่ก้าวเข้าสู่ระดับนี้ได้ก็ล้วนเรียกว่าเป็นชั้นมหาวัฏจักรได้แล้ว ไม่ว่าจะแค่ก้าวเดียวหรือร้อยก้าวก็สามารถยอมแพ้ที่จะก้าวเข้าสู่ระดับจักรพิภพได้ทุกเมื่อ

แต่…โดยทั่วไปหากก้าวไปถึงสิบกว่าก้าวหลังจากทะลวงฐานการฝึกฝนได้ พลังต่อสู้ก็จะแข็งแกร่งขึ้น และในทางทฤษฎียิ่งก้าวไปได้มากเท่าไร พลังต่อสู้หลังทะลวงขั้นได้ก็จะยิ่งสูง

แต่ความยากของมัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงมีน้อยคนที่จะก้าวไปถึงขีดจำกัด ทว่าหวังเป่าเล่อในตอนนี้ ร่างกายที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากเต๋าสวรรค์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนั้น ในช่วงเวลาอันสั้นก็ก้าวไปถึงก้าวที่สิบได้ และยังคงก้าวต่อไป!

ชั้นกายเนื้อของเขาแผ่แรงกดดันออกมาราวกับจะสามารถสยบทั่วทั้งจักรวาลโดยรอบได้ ความผันผวนอันทรงพลังจนน่าตกใจแผ่กระจายออกมาจากร่างของเขาด้วย

เสียงดังสนั่นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นไหมสีเขียวจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามา ด้านหนึ่งก็ช่วยหล่อเลี้ยงกายเนื้อของหวังเป่าเล่อ ขณะเดียวกันก็ช่วยฝักกระบี่เจ้าชะตาดูดซับกฎแตกกระจายจากเตาหลอมอื่นๆ ได้ไม่น้อย

หลังจากผ่านไปสิบกว่าอึดใจ กฎแตกกระจายในเตาหลอมที่สี่ก็ถูกดูดซับจนเกลี้ยง แรงดูดที่ก่อตัวขึ้นพลันแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ยิ่งทำให้เส้นไหมเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นพุ่งเข้ามามากขึ้น

เร็วขึ้นเรื่อยๆ!

มากขึ้นเรื่อยๆ!

และกลายเป็นวัฏจักร กายเนื้อของหวังเป่าเล่อก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งผนึกกับดักจากใบไม้แตกร้าวมากกว่าเก่า เด็กสาวสัตว์ประหลาดข้างในก็ยิ่งร้อนรนถึงขีดสุด

เห็นได้ชัดว่ามันสัมผัสได้ว่ายิ่งเวลาผ่านไป กายเนื้อหวังเป่าเล่อก็พัฒนาขึ้น ฝักกระบี่ที่ค่อยๆ โปร่งแสงตรงหน้าทำให้มันรับรู้ถึงอันตราย และอันตรายนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงระดับที่ทำให้มันอกสั่นขวัญแขวน ทว่า ด้านหวังเป่าเล่อดูเหมือนจะรู้สึกได้ว่ายังไม่พอ ดังนั้นถึงแม้จิตใจเด็กสาวจะสั่นสะท้านเพียงใด เขาก็ยังดูดซับอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาขึ้นเส้นเลือดจากการพยายามอย่างหนัก!

“ยังไม่พอหรอก!!” หวังเป่าเล่อคำรามเสียงต่ำ ครู่ต่อมากฎแตกกระจายในเตาหลอมที่ห้าก็หมดเกลี้ยง แรงดูดพลันระเบิดขึ้นอีกครั้งทำให้เส้นไหมสีเขียวนับล้านมารวมตัวกัน และหลั่งไหลเข้าไปในฝักกระบี่เจ้าชะตาอย่างต่อเนื่อง!

ฝักกระบี่เจ้าชะตาของหวังเป่าเล่อโปร่งแสงไปเจ็ดส่วนแล้ว และกำลังจะถึงแปดส่วนในไม่ช้า ส่วนกายเนื้อระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรก็ตอบรับอย่างต่อเนื่องจนไปถึงสามสิบก้าวแล้ว!

ผู้ที่ฝึกมาจนถึงระดับนี้ได้มีไม่มากและผู้ที่กายเนื้อจะมาถึงระดับนี้ได้ก็มีน้อยยิ่งกว่า การฝึกฝนกายเนื้อไม่ว่าระดับใดก็ล่าช้ากว่าการฝึกตน อีกทั้งยังยากลำบากกว่าด้วย!

แต่หวังเป่าเล่อไร้ทางเลือก ตอนนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำและยังรู้สึกว่าพลังฝักกระบี่เจ้าชะตายังขาดอยู่อีกเล็กน้อย ทว่า…เด็กสาวสัตว์ประหลาดในกับดักใบไม้ ตอนนี้ดวงตาที่เบิกกว้าง และท่าทางดิ้นรนของนาง…ลดน้อยลงกว่าก่อนหน้าแล้ว

ดูเหมือนว่าในความคิดของมัน ผนึกกับดักจากใบไม้นี้…ก็ดูจะปกป้องตัวมันได้เช่นกัน

แต่ในยามที่เด็กสาวสัมผัสได้ถึงอันตรายเป็นครั้งแรก เตาหลอมที่ห้าก็ว่างเปล่าเช่นเดียวกับสี่เตาก่อนหน้าแล้ว และกลายเป็นแรงดูดเส้นไหมสีเขียวจำนวนหลายหมื่นในทุกๆ อึดใจ แรงดูดของฝักกระบี่เจ้าชะตาจึงยิ่งมากขึ้นเช่นกัน กฎแตกกระจายในเตาหลอมสุดท้ายถูกดูดซับจนเกลี้ยงในทันที

เวลาต่อมาเตาหลอมทั้งหกก็กลายเป็นหลุมดำ แรงดูดที่แผ่ออกทำให้เส้นไหมสีเขียวลดน้อยลงเร็วมากจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

หนึ่งแสน สองแสน สามแสน…จนกระทั่งหกแสน!

ส่วนฝักกระบี่เจ้าชะตาของหวังเป่าเล่อในตอนนี้ก็โปร่งแสง จากเจ็ดส่วนเป็นแปดส่วน และเก้าส่วน…

ยังมีพลังกายเนื้อของเขาที่เริ่มจากสามสิบก้าว กระโดดไปจนถึงเจ็ดสิบกว่าก้าวอย่างรวดเร็ว กายเนื้อระดับนี้นับว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เกรงว่าแม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์จักรพิภพชั้นต้นก็ยังไม่สามารถทำลายได้

ในแง่หนึ่งหากจะกล่าวว่ากายเนื้อของเขาเปรียบได้กับอาวุธเทพก็ไม่เกินจริง!

ตอนนั้นเองเด็กสาวก็ไม่คิดจะดิ้นรนอีกต่อไป ขณะที่ลมหายใจถี่กระชั้น นางพ่นตราประทับออกมาทีละอันและเริ่มต้นการป้องกันอย่างแท้จริง!

ขณะเดียวกันเนื่องจากเส้นไหมเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นในที่แห่งนี้ถูกหวังเป่าเล่อดูดซับจนกลายเป็นหลุมลึก หลังจากดูดซับไปเกือบหนึ่งล้านเส้น เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นในจักรวาลสีเทาก็ลดลงไปมากกว่าครึ่ง

สำหรับตระกูลไม่รู้สิ้นนั้นเรียกได้ว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดินเลยทีเดียว ในไม่ช้าเรือรบตระกูลไม่รู้สิ้นที่ยังล่องหนอยู่ภายนอกจักรวาลสีเทาเหล่านั้นก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้อีก ท่ามกลางระลอกคลื่นสะท้อนไปมาพวกมันพลันปรากฏสู่สายตาผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักอย่างช่วยไม่ได้

ไม่เพียงแค่นั้น…ยังมีเรือบางลำที่ระเบิดตัวเองจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ภาพนั้นทำให้ผู้คนภายนอกที่มองเห็นต่างตกตะลึงในทันที

เรือรบไม่รู้สิ้นที่ระเบิดตัวเองนั้นมีจำนวนไม่น้อย มันเป็นเรือรบที่ดูเหมือนจะไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้ จึงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายหลังผ่านไปสิบกว่าอึดใจ สีหน้าจักรพรรดิสวรรค์เสวียนหัวก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เรือรบไม่รู้สิ้นหลายแสนลำระเบิดไปแล้วมากกว่าสามหมื่นลำ!!

เวลานี้ทุกคนด้านนอกต่างตกตะลึง หน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับร้องอุทาน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

“เกิดเหตุร้ายอะไร!!”

“อาจเป็นการตายของจักรพรรดิเดือนแยก?”

“เฉินชิงจื่อจะออกมาแล้ว!!” ท่ามกลางเสียงร้องของทุกคน สีหน้าจักรพรรดิเสวียนหัวบิดเบี้ยว เขาไม่ได้เห็นการตายของเดือนแยก แต่ก็คาดเดาได้ว่าคงเป็นเฉินชิงจื่อที่ใช้เคล็ดวิชาบางอย่างอยู่ข้างใน บางทีอาจกำลังจะออกมาจริงๆ

ดังนั้นหลังจากเผยแววตาลังเล เสวียนหัวก็กำลังจะเอ่ยปากพูด…

ทว่าในตอนนั้นเอง…เรือรบไม่รู้สิ้นที่เหลือประมาณเจ็ดถึงแปดหมื่นลำ ทุกลำพลันสั่นสะเทือนจนเกิดรอยร้าว!

แรงดูดนั้นมหาศาล ตอนนั้นเองพวกมันจึงระเบิดออกภายใต้จักรวาลสีเทากระจายไปยังโลกภายนอก และพลังปราณเต๋าสวรรค์ในเรือรบไม่รู้สิ้นพวกนั้นก็ถูกดูดซับอย่างบ้าคลั่ง!!

ราวกับพลิกจากผู้มาเยือนเป็นเจ้าถิ่น

…………………………………………………………