ตอนที่ 781 ออกเดินทาง

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 781 ออกเดินทาง
สำหรับเหล่าทหารที่ติดยศแล้ว ยศแม่ทัพหรือนายพลเป็นยศที่พวกเขาใช้ชีวิตทั้งชีวิตต่อสู้แย่งชิงมา

ตั้งแต่นายพันจนถึงนายพล ที่กั้นประตูอันนี้จำกัดบุคคลส่วนใหญ่ไว้ นายทหารมากมายที่เลื่อนยศสูงสุดได้ถึงขั้นนายพัน แต่ก็ไม่มีทางขึ้นถึงชั้นนายพลที่เป็นแม่ทัพได้

อย่างเช่นสังกัดการรักษาความปลอดภัยที่ฝูเจิ้งหมิงสังกัดอยู่นั้น มีมาตรฐานและกฎเกณฑ์สูงมาก แต่ผู้บังคับบัญชายังเป็นแค่ระดับพลตรี ยศพันเอกของฝูเจิ้งหมิงนั้นถือว่าสูงสุดแล้ว แทบไม่มีความหวังเลื่อนยศให้สูงกว่านี้ได้

แม้จะออกจากสังกัดเดิมมาเป็นทูตทหารในต่างประเทศ แต่ฝูเจิ้งหมิงก็พอใจกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดความรู้สึกที่เป็นปฏิปักษ์กับเยี่ยเทียนก็ลดลงไปเยอะ

“เหล่าฝู ยินดีด้วยนะ อีกไม่ถึงสองปี บนบ่าของคุณก็จะได้เปลี่ยนเครื่องหมายแล้ว!”

เยี่ยเทียนดูท่าทางพอใจของฝูเจิ้งหมิงออก ท่านผู้เฒ่าจัดการให้เขาเข้ามาอยู่ถึงสาธารณรัฐซาฮานี้เพื่อดูแลเขา แน่นอนว่าจะต้องให้ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างงาม

“นี่ยังเร็วไป ผมเพื่งได้เลื่อนขั้นเป็นพันเอกยังไม่ถึงสองปีเลย”

ฝูเจิ้งหมิงส่ายหัว “เยี่ยเทียน คุณอยากจะไปจากที่นี่เมื่อไหร่? ผมจะได้จัดการให้!”

เขาติดตามซ่งเฮ่าเทียนมานาน พอจะได้ยินกิตติศัพท์ของหลานชายท่านอดีตผู้นำมาไม่น้อย และรู้ว่าเขาเป็นตัวก่อปัญหา ตั้งแต่ในประเทศ ต่างประเทศ ทั้งเหตุการณ์ช็อคโลก “911”ครั้งนั้นเขายังมีเอี่ยวด้วยเลย

พอได้รับโทรศัพท์ของเยี่ยเทียน ฝูเจิ้งหมิงคิดเอาไว้ว่าต้องส่งเยี่ยเทียนให้ออกจากซาฮาไปอย่างปลอดภัยถึงจะบรรลุภารกิจที่ท่านอดีตผู้นำมอบให้เขา ให้สมกับที่ท่านให้การสนับสนุน

“ให้ผมหาที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย….” เยี่ยเทียนหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ แล้วถามต่อว่า “เหล่าฝู คุณส่งผมกลับประเทศได้ไหม?”

การเดินทางครั้งนี้ของเขากินเวลาหลายเดือน เขาไม่รู้ว่าทั้งพ่อแม่และภรรยาของเขาจะกังวลมากแค่ไหน ถ้าหากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะกลับบ้านหรือไปฮ่องกงก็ได้ ดีกว่าไปอยู่ในที่ทุรกันดารอย่างแอฟริกา

“เยี่ยเทียน ท่านผู้นำอยากให้คุณไปเที่ยวแอฟริกาก่อนสักรอบหนึ่ง แล้วค่อยกลับเข้าจีน”

ฝูเจิ้งหมิงเหลือบมองเยี่ยเทียน แล้วพูดโน้มน้าว “หลายเดือนก่อนเรื่องราวมันใหญ่โตมาก คุณทำตามที่ท่านผู้นำบอกเถอะ อย่างนั้นถึงจะส่งผลกระทบน้อยหน่อย”

แม้ซ่งเฮ่าเทียนจะไม่ได้บอกเรื่องจริงกับฝูเจิ้งหมิงทั้งหมด แต่เมื่อมาถึงซาฮาแล้ว เขาก็ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของนายพลลอฟสกี เขาไม่โง่พอที่จะเดาไม่ได้ เขาเอาเรื่องทั้งสองมาผูกกันแล้วก็เดาได้ว่าเป็นฝีมือของเยี่ยเทียน

พูดตามตรง ความกล้าหาญในการกระทำของเยี่ยเทียน ทำให้เขานับถือจริงๆ

การที่ลอบเข้าไปฆ่านายพลคนสำคัญของต่างชาติ ถูกกองทัพทหารเป็นแสนนายล้อมไว้แต่ยังสามารถหลบหนีออกมาได้โดยไม่บาดเจ็บเลย ความสามารถทางการรบแบบนี้ ต่อให้เป็นตัวเขาเองที่เก่งกว่านี้สิบเท่ายังทำไม่ได้

“เอาเถอะ เรื่องนี้ผมให้คุณจัดการ จะให้ดีพรุ่งนี้ออกเดินทางเลย!”

เยี่ยเทียนพยักหน้า เขารู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้ว เช่นหลายคนที่อยู่ในประเทศจีนเดาได้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในรัสซียครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเขา

เยี่ยเทียนทำเป็นเดินทางไปแอฟริกาก่อนแล้วค่อยกลับเข้าประเทศนั้นก็เพื่อไม่ให้ดูโจ่งแจ้งเกินไปสำหรับคนอื่น แล้วก็เพื่อไว้หน้าคนพวกนั้นด้วย

“ได้ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!” ฝูเจิ้งหมิงพยักหน้า แล้วถามต่ออย่างสงสัยว่า “เยี่ยเทียน เรื่องที่เกิดขึ้นในรัสเซียน่ะ เป็นฝีมือคุณจริงๆหรือ?”

แม้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองถามมันเป็นการฝืนกฎ แต่สายลับได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปจนรู้กันทั่วแล้ว ตอนนี้ตัวต้นเหตุนั่งอยู่ข้างๆ ฝูเจิ้งหมิงเก็บความสงสัยอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ไม่อยู่

“เรื่องอะไร?” เยี่ยเทียนถามเสียงเรียบ “ฉันไปเที่ยวทั่วรัสเซียมา เรื่องอื่นฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย เหล่าฝู ความอยากรู้อยากเห็นทำให้คนตายมานักต่อนักแล้ว….”

“ได้ งั้นถือว่าผมไม่เคยถามก็แล้วกัน!”

คำเตือนของเยี่ยเทียนทำให้ฝูเจิ้งหมิงตกใจ เขาเป็นทหารผู้รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เขารู้ว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงแค่ไหน แค่คิดก็เหงื่อซึมแล้ว

ผ่านเหตุกาณ์แบบนี้ไปแล้ว ฝูเจิ้งหมิงไม่กล้าพูดอะไรกับเยี่ยเทียนอีก สิบนาทีหลังจากนั้น รถยนต์ทางการที่มีป้ายกระทรวงการต่างประเทศมาถึงศูนย์กลางการเมืองตรงใจกลางเมืองยาคุตสค์

ฝูเจิ้งหมิงดำรงตำแหน่งพันเอกรับผิดชอบความสัมพันธ์ทางการทูตทหารของประเทศเล็กๆอย่างนี้ สำหรับเขาถือเป็นเรื่องน่ารอคอย เขาพักอาศัยอยู่ในตึกสองชั้นเล็กๆหลังหนึ่ง

หลังจากจัดการให้เยี่ยเทียนเข้าห้องนอนแล้ว ฝูเจิ้งหมิงรีบออกมา พรุ่งนี้เยี่ยเทียนจะเดินทางแล้ว ยังมีธุระอีกมากที่เขาจำเป็นต้องเตรียมการพร้อม

“สภาพฉันแบบนี้ดูไม่ต่างจากศิลปินหนุ่มพวกนั้นเท่าไหร่?”

เยี่ยเทียนแช่ตัวในอ่างอาบน้ำในห้องนอนราวหนึ่งชั่วโมงแล้วมองตัวเองในกระจก ผมยาวเฟื้อยประบ่า ใช้มือขวาที่คมดังมีดวนไปรอบๆเส้นผม ทันใดนั้นทรงผมของเยี่ยเทียนก็เปลี่ยนไป

“เอ๋? เหล่าฝู จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ?”

ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอก เยี่ยเทียนยื่นมือออกไป เศษผมที่กระจายเต็มพื้นราวกับถูกแรงดูดมหาศาลลอยเข้ามากลางฝ่ามือของเยี่ยเทียน เขาโยนเศษผมแบบส่งๆลงไปในถังผง แล้วพันผ้าเช็ดตัวเดินออกมา

“เฮ้อ เยี่ยเทียน ผิวของคุณดีจริงๆ!”

ร่างกายที่สะอาดหมดจดไม่มีรอยตำหนิ ผิวขาวผ่องอ่อนนุ่มน่าสัมผัสของเยี่ยเทียนทำให้ฝูเจิ้งหมิงมองตาค้าง อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย ต่อให้เป็นผู้หญิงก็ยังสู้เยี่ยเทียนไม่ได้

“น้อยๆหน่อย ในมือคุณถืออะไรอยู่?”

เยี่ยเทียนขมวดคิ้ว ความดุดันของเขากระตุ้นให้ฝูเจิ้งหมิงดึงสติกลับมา แล้วรีบส่งข้อมูลในมือให้เยี่ยเทียนพลางบอกว่า “ในนี้เป็นเอกสารรับรองชุดหนึ่งใช้ตอนคุณออกเดินทางพรุ่งนี้ ตั๋วเครื่องบินจองแล้ว เดินทางไปที่เคปทาวน์แอฟริกาใต้ เมื่อถึงที่นั่นเอกสารนี้ก็ทำลายทิ้งได้เลย”

ฝูเจิ้งหมิงบอกต่อว่า “เมื่อไปถึงที่เคปทาวน์แล้ว ยังมีคนคอยติดต่อคุณอยู่ ถึงตอนนั้นเอกสารที่คุณจะใช้กลับประเทศจีน เขาจะเป็นคนมอบให้คุณ!”

เรื่องที่ซ่งเฮ่าเทียนสั่งการลงมาจะต้องเป็นความลับสูงสุด ตอนที่เยี่ยเทียนเกิดเรื่อง ได้มีคนถือเอกสารของเยี่ยเทียนไปแต่ละประเทศทั่วทั้งแอฟริกาเพื่อเตรียมการเข้าเมือง

แต่เอกสารของเยี่ยเทียนที่รัสเซีย ก็ถูกแยกแยะว่าเป็นของปลอม แล้วผลักดันเหตุการณ์ในรัสเซียให้ตกไป จึงเป็นการกำจัดผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับเยี่ยเทียน

“ดี เหล่าฝู ขอบคุณมาก”

เยี่ยเทียนพยักหน้า วางเอกสารลงบนโต๊ะ เมื่อมองฝูเจิ้งหมิงอีกครั้ง เขายิ้มให้แล้วเอ่ยว่า “เหล่าฝู พวกเราถือว่ามีวาสนาต่อกัน ผมจะมอบของสิ่งหนึ่งให้คุณ รอให้ลูกชายของคุณคลอดแล้ว คุณค่อยให้เขาติดตัว!”

โบราณว่าไว้ “เก็บสารจิงไว้ในกระดูก สารจิงจะออกมาทางคิ้ว” หากมีบุตรชาย ผู้ชายให้ดูที่คิ้ว ผู้หญิงให้ดูที่ปาก เยี่ยเทียนเห็นว่าคิ้วของฝูเจิ้งหมิงดกดำเข้มขึ้นกว่าครั้งก่อนที่พบกัน มีลักษณะว่าจะได้บุตรชาย

“ลูก….ลูกชาย?”

ฝูเจิ้งหมิงไม่รู้ว่าเยี่ยเทียนเอาจากไหนมาพูด เอ่ยตอบว่า “เยี่ยเทียน คุณล้อเล่นใช่ไหม? ผมจากบ้านมาเกือบครึ่งปีแล้ว ไม่ได้ข่าวว่าภรรยาตั้งครรภ์เลย!”

ฝูเจิ้งหมิงอายุสี่สิบสองแล้ว ด้วยการงานอาชีพที่ค่อนข้างพิเศษ ทำให้เขาเพิ่งจะได้แต่งงานตอนอายุสี่สิบ ทั้งกับภรรยาก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ครั้งนี้เขาจากบ้านมาครึ่งปี ยังไม่มีโอกาสกลับไปเลย และไม่ได้ยินภรรยาบอกว่าตั้งครรภ์ด้วย

“อาจเป็นเพราะภรรยาไม่อยากให้คุณกังวลเรื่องงาน?” เยี่ยเทียนหัวเราะ “เหล่าฝู คุณนี่ก็เหลวไหลจริง คุณโทรศัพท์กลับไปถามก็รู้แล้ว?”

“จริงหรือเปล่า?” ฝูเจิ้งหมิงมองเยี่ยเทียนอย่างหวาดระแวง แต่คำทำนายของเยี่ยเทียนทำให้เขาตื่นเต้นมาก เขาคิดครู่หนึ่งแล้วเดินกลับห้องไปโทรศัพท์

“หยกของรัสเซียก็ไม่เลว พอจะนำมาทำเป็นเครื่องรางได้…..”

เยี่ยเทียนส่ายหัวแล้วขำออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบชิ้นหยกทับกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา ใช้มือบีบไปคลึงมา ที่ทับกราะดาษอันนั้นเล็กลงเหลือแค่ขนาดนิ้วหัวแม่มือ

มือทั้งสองข้างของเยี่ยเทียนเหมือนกับมีด แกะสลักหยกรัสเซียชิ้นนั้นได้ภายในไม่กี่นาที ฝูเจิ้งหมิงยังไม่ทันคุยโทรศัพท์จบ หยกห้อยเอวรูปม้าทะยานที่ดูราวกับมีชีวิตได้วางอยู่บนมือของเยี่ยเทียนแล้ว

เขาวางชิ้นหยกไว้กลางฝ่ามือ แล้วปล่อยพลังดั้งเดิมของตัวเองเพื่อแปรสภาพมวลสารในหยกให้กลายเป็นเครื่องรางที่ดูดซับพลังวิเศษได้ ของชิ้นนี้ถ้าเทียบกับเครื่องรางของเยี่ยเทียนเมื่อก่อนยังมีอานุภาพสูงกว่า

“เมื่อก่อนเหมือนกบในกะลา ไม่รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่แค่ไหน!” ชูหยกในมือขึ้นดู แล้วทอดถอนใจ

นึกถึงปีนั้นที่ถังเหวินหยวนยอมใช้เงินหลายสิบล้านซื้อเครื่องรางของเขา เขายังไม่ยอมขายให้ มาตอนนี้เครื่องรางแบบนี้จะทำขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เยี่ยเทียนนึกแล้วสมเพชตัวเองไม่หาย

“เยี่ยเทียน ผม….เมียผมท้องจริงๆ!”

เยี่ยเทียนเพิ่งทำเครื่องรางในมือเสร็จ ฝูเจิ้งหมิงวางสายโทรศัพท์แล้วเดินเข้ามาหาเขาด้วยความดีใจ

เป็นไปตามที่เยี่ยเทียนพูด คนที่บ้านต้องการให้เขาตั้งใจทำงานจึงไม่ได้บอกข่าวนี้ให้เขารู้ แต่อยากรอให้เขากลับบ้านไปก่อนแล้วค่อยทำเรื่องให้เขาประหลาดใจ

เยี่ยเทียนหัวเราะ ยื่นชิ้นหยกในมือให้เขา บอกว่า “ลูกชายของคุณจะขาดธาตุน้ำ เวลาตั้งชื่อให้เลือกคำที่มีอักษรตัวน้ำจะดีมาก ของชิ้นนี้ผมให้คุณ จะช่วยปกป้องเขาให้รอดพ้นจากภัยอันตราย!”

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของฝูเจิ้งหมิงจะมีประโยชน์ต่อตัวเยี่ยเทียนเอง แต่เขาอยู่ในประเทศกันดารแบบนี้รอตนเองมาเป็นครึ่งปี สรุปว่าเยี่ยเทียนติดหนี้เขาอยู่ แต่คำทำนายกับเครื่องรางชิ้นหนึ่งนี้ถือว่าคืนหนี้หมดแล้ว

“ขอบคุณ ขอบคุณ!”

ฝูเจิ้งหมิงเป็นทหารโดยชาติกำเนิด พูดอะไรไพเราะไม่ค่อยเป็น รับของมาแล้วยิ้มหน้าบาน ผ่านไปครู่หนึ่งเขาตบหัวตัวเองแล้วพูดว่า “ผมมีเหล้าดีๆอยู่หลายขวด พวกเราคืนนี้ไม่เมาไม่กลับ”

การดื่มกับเยี่ยเทียน แน่นอนว่าฝูเจิ้งหมิงเมาแอ๋ก่อนใคร เช้าวันรุ่งขึ้นเยี่ยเทียนไม่ได้ปลุกเขาตื่น เขาหยิบเงินดอลลาร์ออกมาจากตัวฝูเจิ้งหมิง แล้วออกไปหน้าสถานทูตเรียกรถไปที่สนามบินเอง

“เอกสารเล่มนี้สะดวกดีจริง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่เจอแน่”

เยี่ยเทียนนั่งอยู่บนเครื่องบินเดินทางไปเคปทาวน์ด้วยจิตใจเบิกบาน มีดบินที่อยู่ในร่างกายของเยี่ยเทียนเป็นโลหะแต่ตอนที่อยู่ในสนามบินกลับไม่ถูกเครื่องดักจับโลหะจับได้