ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 759 คุนเผิงพลิกทะเล ฉีกกระชากสามโลก!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

วังฝูงมังกรกำลังขวางเส้นทางการพุ่งตัวของตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับ

พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้นพัวพันกัน กลายเป็นแสงสว่างพร่างพราว ปะทะกับวังฝูงมังกร

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องตามติดอยู่เบื้องหลัง แม้ในใจจะลอบเยาะเย้ยว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ประมาณตน วังฝูงมังกรจะต้องถูกตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับชนถล่มแน่นอน

แต่ถ้าหากการขัดขวางนี้หยุดอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงทั้งสองได้เพียงครู่เดียว บางทีพวกเขาอาจมีโอกาสไล่ทัน

กระนั้นขณะทั้งสองฝ่ายกำลังจะชนกัน ประตูวังฝูงมังกรก็อ้าออกโดยพลัน

ด้านในความว่างเปล่าอันมืดมิดที่อยู่ในวังขนาดใหญ่ มีแสงสว่างขมุกขมัวที่ไม่สว่างไม่มืดกำลังเคลื่อนไหว ไม่อาจบรรยายได้

กลางแสงสว่างเป็นกงจักรเหล็กขนาดยักษ์อันหนึ่ง

บนกงจักรมีรูสิบสองรูซึ่งหมุนวนอย่างเชื่องช้าตามกงจักร

ของสิ่งนี้เพียงคงอยู่ที่นี่ หมุนอย่างสงบนิ่งตามจังหวะของตัวเอง ไม่แทรกแซงทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ และไม่ถูกสิ่งอื่นรบกวน

แม้จะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่อาจบังคับ

เป็นกงจักรมหาประมายกาฬ อาวุธเซียนที่เขาได้มาจากสุสานจักรพรรดิประกายกาฬนั่นเอง!

ถึงแม้ว่าไม่อาจใช้ได้ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็มีแผนการของตัวเอง

ตนไม่อาจกระตุ้นกงจักรมหาประกายกาฬ แต่ตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงกลับทำได้!

ของวิเศษทั้งสองมีอานุภาพเหี้ยมหาญถึงขีดสุด กงจักรมหาประกายกาฬแม้จะเป็นอาวุธเซียน แต่ก็ยังสร้างไม่สำเร็จ

ในตอนนี้เมื่อเผชิญกับการกระแทกจากตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับ กงจักรมหาประกายกาฬจึงทำเป็นไม่สนใจไม่ได้

เหมือนกับมีชีวิตขึ้นมาเอง การหมุนของกงจักรมหาประกายกาฬพลันหยุดนิ่งลง

แสงสว่างอันขมุกขมัวที่ไม่สว่างและไม่มืดขยายออกในพริบตา เป็นสีครึ่งดำครึ่งขาว ปกคลุมวังฝูงมังกร อีกทั้งยังครอบคลุมที่ว่างรอบๆ

ตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับหลังจากพุ่งเข้าไปในโลกสีขาวดำนี้ ก็มีสภาวะเชื่องช้าลง

กงจักรมหาประกายกาฬเหมือนกับสัตว์ยักษ์ที่ถูกปลุก มันอ้าปากขึ้น ส่งแรงดึงดูดอันน่ากลัวมา หมายกลืนกินอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้น เหมือนตอนกลืนกินตะเกียงประกายกาฬ!

พวกมันไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกันกับตะเกียงประกายกาฬ และกงจักรมหาประกายกาฬซึ่งมีสิบสองวิชาประกายกาฬ เพื่อให้จักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยคุ้นมือ

มันคิดจะดูดซับตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับ จำเป็นต้องทำให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้นนี้อยู่ในสภาพไร้เจ้าของเสียก่อน

ในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอใช้ตราประทับตะวันของตัวเองนำหอกราชาลี้ลับของอีกฝ่ายมา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้นจึงอยู่ในสภาพไร้เจ้าของพอดี

รูสองรูจากสิบสองรูบนกงจักรมหาประกายกาฬ สาดแสงสว่างออกมา ม้วนเข้าหาตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ช้าๆ หน่อย ข้ายังไม่อยากได้การสนับสนุนจากเจ้า”

หอกราชาลี้ลับสั่นไหวครั้งหนึ่ง ก่อนจะลอยไปหากงจักรมหาประกายกาฬเอง

แต่ว่าตราประทับตะวันกลับเหมือนมีความตั้งใจของตัวเอง คล้ายกับถูกสะกิดขึ้นมาขณะหลับไหลอยู่

แสงอาทิตย์ส่องสว่าง ประกายแสงอันเจิดจ้าจากตราประทับตะวัน กับแสงสว่างที่รูบนกงจักรมหาประกายกาฬส่องออกมาปะทะเข้าด้วยกัน!

ในหมู่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงด้วยกัน ตราประทับตะวันเป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดที่สุด

กงจักรมหาประกายกาฬยังไม่ทันสร้างเสร็จ ยังไม่นับเป็นอาวุธเซียนที่แท้จริง แม้จะดูดซับหอกราชาลี้ลับที่แกร่งเท่ากันได้ แต่ปัจจุบันไม่อาจทำอะไรตราประทับตะวันได้!

ครั้นถูกตราประทับตะวันชนใส่ แม้แต่หอกราชาลี้ลับยังลอยนิ่งอยู่กลางที่ว่าง ไม่ลอยไปหากงจักรมหาประกายกาฬอีก

ของวิเศษทั้งสามยื้อยันกันอยู่ตรงนั้น

คนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเห็นดังนั้น กลับอ้าปากตาค้าง

ตราประทับตะวันกับหอกราชาลี้ลับที่ตอนแรกจะชนใส่วังฝูงมังกร ตอนนี้หยุดนิ่งอยู่กลางที่ว่างด้านในวังฝูงมังกร ไม่เคลื่อนไปด้านหน้าอย่างคลุ้มคลั่งเหมือนเดิมอีก

วังฝูงมังกรปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน มีกงจักรมหาประกายกาฬซึ่งอยู่ในส่วนลึกของวังใหญ่เท่านั้นที่ส่องแสงขมุกขมัววูบวาบ

ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเยี่ยนจ้าวเกอ ประตูของวังฝูงมังกรปิดลงอย่างสะเทือนเลือนลั่น

ร่องแยกมิติที่ถูกฉีกออกมาเพราะการชนใส่กันของตราประทับตะวันและหอกราชาลี้ลับด้านหลังวังใหญ่ ยามนี้เริ่มปิดลงแล้ว

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้นเงียบเสียงลงกลางวังฝูงมังกร

โดยมีจอมยุทธ์เกราะทองผู้นั้นเป็นแกนนำ จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้สติกลับมา ใบหน้าพลันเขียวคล้ำ

ทุกคนต่างคำรามด้วยความตกใจระคนโมโห จากนั้นก็พุ่งเข้าหาวังฝูงมังกรทั้งหมด!

หอกราชาลี้ลับ หลังจากที่เสวียนเหวินอ๋องผู้สถานปนาราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเหยียบย่ำสู่ทะเลหวงเจียเป็นต้นมา มันก็ได้ติดตามผู้เป็นนายเข้าสู่สนามรบ สยบเจ็ดสิบสองดินแดนบนทะเลหวงเจีย วางรากฐานของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องในปัจจุบัน

ต่อมาหลังจากเสวียนเฉิงอ๋อง ก็ส่งมอบต่อให้เสวียนมู่อ๋อง มันเป็นของล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาโดยตลอด มีความสำคัญยิ่งกว่ากว่าตราลัญจกรเสียอีก

และหอกราชาลี้ลับในฐานะอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ยังเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องครอบครอง เป็นของวิเศษคุ้มครองแผ่นดินที่แท้จริง

ตอนนี้กลับถูกคนอื่นขโมยไปแล้ว!

ล้อเล่นอะไรกัน?

จอมยุทธ์เกราะทองผู้นั้นเป็นสมาชิกของเชื้อพระวงศ์ต้าเวียนอ๋อง เมื่อเห็นว่าสูญเสียหอกราชาลี้ลับไปเพราะตัวเอง ก็พลันโมโหจนเกือบคลั่ง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องชิงหอกราชาลี้ลับกลับมาใหม่ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ทราบว่าจะเผชิญหน้ากับบรรพบุรุษได้อย่างไร มิสู้ตายอยู่ที่นี่อย่างผ่าเผยดีกว่า

จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่เหลือต่างพุ่งมาพร้อมกัน

ของวิเศษคุ้มครองแผ่นดินต้องสูญเสียไปเพราะพวกเขา ผลลัพธ์ที่ตามมา ต่อให้มัดทุกคนไว้ด้วยกันก็รับไว้ไม่ไหว

จอมยุทธ์เกราะทองเป็นทัพหน้า ญาณจริงแท้กลายเป็นแสงไฟ จับตัวกันเป็นปีกเพลิงที่ด้านหลัง ปีกกระพือครั้งหนึ่งก็มาใกล้วังฝูงมังกรในชั่วพริบตาเดียว

แต่ว่าเบื้องหน้าเขากลับพร่าเลือนเล็กน้อย เห็นเงาคนเงาหนึ่งขวางอยู่ระหว่างเขากับวังฝูงมังกร

‘เร็วมาก!’ จิตใจของจอมยุทธ์เกราะทองเคร่งขรึมลง

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ชักหอกมังกรมัจฉาในมือขึ้น แล้วแทงออกครั้งหนึ่ง

ท่ามกลางเสียงตลาด ในมือของจอมยุทธ์เกราะทองผู้นั้นปรากฏหอกยาวอีกเล่มหนึ่งเช่นกัน

เจ็ดหอกสัตปักษาของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง สู้กับหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ!

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกออกหอกดุจมังกร สภาวะหอกที่หนักอึ้งถึงขีดสุดเหมือนคุนเผิงพลิกทะเลถล่มใส่ปลายหอกของอีกฝ่าย แทบกระแทกให้หอกเล่มนั้นหลุดออกจากมือของจอมยุทธ์เกราะทอง

แต่ว่าเงาแสงของเจ็ดหอกสัตปักษาขึ้นบนหอกของอีกฝ่าย พวกมันบินทะยาน กั้นหอกมังกรมัจฉาเอาไว้

หอกนี้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง!

นี่เป็นของวิเศษของเสวียนมู่อ๋องเช่นกัน เป็นอาวุธก่อนที่เขาจะรับหอกราชาลี้ลับมา มีพลังไม่ธรรมดา

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใบหน้าไม่เปลี่ยนสี หอกแต่ละหอกหนักอึ้งและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ โจมตีไปดุจห่าฝนพายุคลั่ง

จอมยุทธ์เกราะทองผู้นั้นจิตใจสั่นสะท้าน เขาอาศัยพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางทั้งหมด จึงค่อยสู้กับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้

ต่างมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นเหมือนกันแท้ๆ แต่ว่าถ้าหากไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางอยู่ในมือ แค่ไม่กี่หอกเขาคงจะถูกร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกฆ่าทิ้งไปแล้ว!

จอมยุทธ์ขั้นเทวะสำแดง แสดงพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฝืนต้านทานการโจมตีดุจพายุฝนคลั่งไว้ได้

แต่ว่าท่าหอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก นอกจากจะมีสภาวะยิ่งใหญ่แล้ว ยังรวดเร็วปานลมกรดอีกด้วย!

ขณะที่ร่างเดี๋ยวลอยเดี๋ยวจม ร่างแยกสมุทรสุขอบโลกเหมือนกับปลาคุนยักษ์ออกจากน้ำ เหมือนกับนกเผิงบินสู่สวรรค์ พริบตาเดียวก็อ้อมผ่านอาณาเขตการป้องกันของหอกของอีกฝ่ายมาถึงด้านหลัง แล้วแทงออกหอกหนึ่ง!

เกราะทองบนร่างของอีกฝ่ายระเบิดแสงสีทองพร่างพราวออกมา ประกอบกันเป็นการป้องกันหนาหนัก ต้านทานคมหอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก!

เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางเหมือนกัน และเป็นของจอมยุทธ์เกราะทองผู้นี้เอง

คมหอกของหอกมังกรมัจฉาถูกอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางขวางไว้ เปล่งละอองแสงสว่างไสว

จอมยุทธ์เกราะทองฉวยโอกาสหมุนตัวโต้ตอบ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแค่นเสียง วูบไหวร่างหลบหลีก ใช้หอกมังกรมัจฉาในมือปัดหอกยาวของอีกฝ่าย

ฝูงมังกรทะยานออกมาจากเกราะเหมันต์ทระนงบนร่างของเขา ก่อนจะคว้าเล็บจับเกราะสีทองของอีกฝ่ายไว้!

เงาแสงของคุนเผิงขนาดมหึมาปรากฏขึ้น มันกระพือปีกพัดเจ็ดหอกสัตปักษากับอัคคีที่คุ้มกันร่างของอีกฝ่าย คุนเผิงสองกรงเล็บม้วนพัดมังกร จับเกราะทองพร้อมกัน แล้วใช้แรงฉีกกระชาก!

วิชาคุนเผิงบรรพกาล ฉีกกระชากสามโลก!

………………..