บทที่ 2033 เริ่มแผนการ
หลังจากได้รับคำมั่นสัญญาจากเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ชายคนนั้นถึงได้เบาใจขึ้นมาบ้าง
“อู๋โยว แล้วความทรงจำของเธอล่ะ มีวิธีฟื้นฟูกลับมาไหม?” ชายคนนั้นลุกขึ้น จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยถาม
“อยู่ระหว่างการฟื้นฟูค่ะ น่าจะใช้เวลาไม่นานจนเกินไป” หลังจากเยี่ยหวันหวั่นใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงบอกไป
“ดี ถ้ามีปัญหาอะไร หรือต้องการความช่วยเหลือ มาที่ตระกูลหลิงได้เลยนะ” ชายคนนั้นพยักหน้า
“ขอบคุณนะคะ” เยี่ยหวันหวั่นส่งยิ้มน้อยๆ ให้ชายคนนั้น
ถึงแม้จะบอกว่าตัวไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตระกูลหลิงเลย แต่ว่า…คุณปู่ของตัวเองอยู่ที่ตระกูลหลิง แถมยังมีญาติพี่น้องมากมาย นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และอยู่เหนือความคาดหมายของเธออย่างมาก
หลังจากชายคนนั้นออกไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นจึงได้เริ่มไต่สวนเฟิงเสวียนอี้อีกครั้ง
มิน่าละที่แท้อัจฉริยะอย่างเฟิงเสวียนอี้คนนี้ ก็เป็นคนที่คุณปู่จากตระกูลหลิงส่งมาคอยติดตามพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องคนนั้นตนนี่เอง…
ยังไงก็ตาม พอคิดๆ ดูแล้วการที่มีคนแบบนี้อยู่ข้างกายเนี่ยอู๋หมิง เนี่ยอู๋หมิงก็น่าจะไม่มีทางก่อเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมา
ถึงแม้ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นจะอยากไปที่ตระกูลหลิงเพื่อพบหน้าคุณปู่คนนั้นของตัวเองรวมถึงญาติพี่น้องที่ตระกูลหลิง แต่ตอนนี้กลับไม่มีเวลาเลย
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นกับเฟิงเสวียนอี้ก็กลับไปที่ห้องทำงาน แล้วปลุกอี้จือฮวาขึ้นมา
ภายใต้การชี้นำของเฟิงเสวียนอี้ อี้จือฮวาจึงได้พาตัวเนี่ยหวันหวั่นออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยมาอย่างเงียบเชียบแล้ว
อย่างไรก็ตาม อี้จือฮวาไม่ได้พาเยี่ยหวันหวั่นกลับไปที่บ้านตระกูลเนี่ย แต่พาไปที่คุกใต้ดินแห่งหนึ่งในละแวกบ้านตระกูลเนี่ย
ใกล้ๆ กับคุกใต้ดิน มีสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยซุ่มรออยู่มากมายตั้งแต่แรกแล้ว หลักๆ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายทุกประเภท
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อี้จือฮวาก็ข้ามหัวเนี่ยหลิงหลงไปต่อสายหาตัวปลอมคนนั้นโดยตรง
“คุณหนูอู๋โยวครับ…ผมจับตัวคนมาไว้ที่คุกใต้ดินแล้วครับ”
หลังจากต่อสายติดแล้ว อี้จือฮวาก็บอกเล่าออกไป
ผ่านไปไม่นาน ‘เนี่ยอู๋โยว’ พาคนสนิทสองสามคนมาที่คุกใต้ดิน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นเธอ?!”
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นเห็นตัวปลอม ใบหน้าก็เผยความประหลาดใจออกมาแวบหนึ่ง
ในเวลานี้ ‘เนี่ยอู๋โยว’ จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาฉายแววเยียบเย็นแวบหนึ่ง มุมปากก็เชิดขึ้นนิดๆ “ฮ่า…นังตัวดี แกก็ยังตกอยู่ในกำมือฉันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ไม่ให้โอกาสเยี่ยหวันหวั่นได้เปิดปากพูดอะไรอีก เพียงมองไปทางอี้จือฮวาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้นายทำได้ดีมาก ว่าแต่ ทำไมถึงไม่ฆ่าหล่อนทิ้งซะ พามาที่คุกใต้ดินอีกทำไม?”
พออี้จือฮวาได้ยิน ก็เอ่ยไปตามคำพูดของเฟิงเสวียนอี้ที่สั่งการผ่านหูฟังไร้สายที่แอบใส่ไว้ “คุณหนูอู๋โยวครับ ผมไปจับตัวคนมาจากพันธมิตรอู๋เว่ย รูปการณ์ไม่เอื้อให้ผมฆ่าเธอเลย สามารถลักพาตัวออกมาได้ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้วครับ…อีกอย่าง ผมยังอยากได้คำยืนยันจากคุณหนูหลิงหลงก่อนด้วย”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คำยืนยันจากน้องหลิงหลงงั้นเหรอ? อี้จือฮวา คนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลเนี่ยก็คือฉันต่างหาก”
“แต่ว่า…” อี้จือฮวาคล้ายจะพูดอะไร
“ไม่มีแต่แล้ว ต่อไปนี้ ฉันให้นายทำอะไร นายก็ทำไปตามนั้นซะ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ เหลือบมองอี้จือฮวาแวบหนึ่ง
“อี้จือฮวา ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนทรยศ! นายทำผิดต่อเนี่ยอู๋หมิงงั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่อี้จือฮวา พลางเอ่ยเสียงเยียบเย็น
“หุบปาก!” อี้จือฮวาตะคอกเสียงเย็น “เธอมันคนของสายหลัก มาเข้าใกล้หัวหน้าก็เพื่อจะควบคุมตระกูลเนี่ย ถึงขั้นที่คิดจะทำให้ตระกูลเนี่ยย่อยยับ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ เป็นเธอต่างหากที่หลอกใช้หัวหน้ามาโดยตลอด!”
อี้จือฮวาพูดจบ ก็ไม่ให้โอกาสเยี่ยหวันหวั่นได้พูดอีก หันไปหา ‘เนี่ยอู๋โยว’ แล้วพูดว่า “คุณหนูอู๋โยว ผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่งั้นถ้าหัวหน้ารู้เข้า…”
“ได้ นายกลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องคิดมากหนักใจไปหรอก พวกเราต่างก็หวังดีกับพี่ใหญ่ เข้าใจใช่ไหม”
‘เนี่ยอู๋โยว’ พูดหน้าหนักแน่นจริงใจ
“ผมเข้าใจครับ” อี้จือฮวาพยักหน้า จากนั้นก็หันหลังก้าวออกไป
————————————————————————
บทที่ 2034 เธอมันตัวปลอม
“พวกนายก็กลับไปก่อนเถอะ”
หลังจากอี้จือฮวาไปแล้ว ‘เนี่ยอู๋โยว’ ก็โบกมือไล่คนสนิทไม่กี่คนนั้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ทั่วทั้งคุกใต้ดิน ก็เหลือแค่เยี่ยหวันหวั่นและ ‘เนี่ยอู๋โยว’ แค่สองคน
“นังตัวดี ครั้งนี้แกตกอยู่ในกำมือของฉันแล้ว ฉันจะทำให้แกอยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้!”
‘เนี่ยอู๋โยว’ จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น มุมปากเชิดขึ้นนิดๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน
“เธอกล้าเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องตา ‘เนี่ยอู๋โยว’ อย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด “ถ้าเธอกล้าแตะต้องฉัน ก็ต้องถูกพันธมิตรอู๋เว่ยไล่ล่าอย่างไม่ตายไม่เลิกรา ฉันกลัวว่าเธอจะไม่มีความสามารถถึงขนาดนี้น่ะสิ”
“พันธมิตรอู๋เว่ยงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมาทันที “ตัวโง่งมที่น่าสมเพช อาศัยแค่พันธมิตรอู๋เว่ยพวกนั้นน่ะเหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพวกมันจะสืบได้ว่าเป็นฝีมือของใครน่ะ พูดกันอย่างยอมลงให้สุดๆ เลยนะ ถึงจะสืบเจอ ก็สืบมาถึงแค่อี้จือฮวาเท่านั้นแหละ”
“ต่ำช้าไร้ยางอาย!” เยี่ยหวั่นหวั่นร้องด่า
“ต่ำช้างั้นเหรอ ไร้ยางอายงั้นเหรอ?”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ส่งเสียงจิ๊ๆ ออกมา “ถ้าแกคุกเข่าลงอ้อนวอนฉัน บางทีฉันอาจจะให้แกได้ไปสบายก็ได้นะ เอาละ คุกเข่าลงตรงเท้าฉันสิ ขอร้องอ้อนวอนฉันซะ”
“น่าขำน่ะ เธอมันตัวปลอม คนที่สมควรจะคุกเข่าน่ะมันเธอมากกว่า” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น
พอสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าของ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ก็พลันแปรเปลี่ยนแล้ว “ดูเหมือนแกจะรู้ทุกอย่างแล้วจริงๆ สินะ”
“ก็ต้องรู้แล้วน่ะสิ เธอสวมรอยเป็นฉัน แทรกซึมเข้าไปในตระกูลเนี่ย…” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ พลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ฮ่า…ก็จริง ฉันสวมรอยเป็นแก แบบนั้นแล้วไงล่ะ ในเมื่อสองผู้เฒ่าตระกูลเนี่ยเชื่อ ก็ช่วยไม่ได้แล้ว”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ยิ้มเย็นพลางเอ่ยว่า “พอพูดขึ้นมาแล้วก็น่าขำนะ จริงๆ แล้ว ตระกูลหลิง โรงเรียนชื่อเยียน อีกทั้งจี้หวง ทั้งหมดคลางแคลงในตัวตนของฉัน แต่พ่อแม่หน้าโง่ของแกรู้สึกผิดและรักใคร่ใส่ใจ ก็เลยเชื่อหมดใจว่าฉันก็คือเนี่ยอู๋โยว แกว่าเรื่องนี้ควรจะโทษใครกันล่ะ
ยังไงก็ตาม สวรรค์ลิขิตไว้แล้ว ตระกูลหลิงกับตระกูลเนี่ยถึงเฒ่าถึงตายก็ไม่เผาผีกัน โรงเรียนชื่อเยียนก็ยิ่งไม่คบค้าสมาคมอะไรกับตระกูลเนี่ย ส่วนจี้หวง เขาไม่มีหลักฐานอะไร ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางเปิดโปงตัวตนของฉันได้…หลังจากที่แกตายไปแล้ว ฉันจะได้สืบทอดตระกูลเนี่ยอย่างสมบูรณ์ ลูกชายของแก ทุกอย่างที่เป็นของแก ก็จะตกเป็นของฉันทั้งหมด…ฮ่าๆ โกรธรึยังล่ะ?”
‘เนี่ยอู๋โยว’ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เธอไม่มีทางตายดีแน่!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น
“น่าเสียดายนะ แกนั่นแหละที่จะตายก่อนฉัน” ‘เนี่ยอู๋โยว’ ไม่แยแส
ไม่ให้โอกาสเยี่ยหวันหวั่นได้พูดต่อ ‘เนี่ยอู๋โยว’ เรียกคนสนิทไม่กี่คนนั้นเข้ามา
“พิธีรับตำแหน่งผู้สืบทอดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว น่าเสียดายที่ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับแกอีก”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยกับคนสนิทพวกนั้น “ทรมานมันให้ดีๆ จากนั้นก็…”
พอเอ่ยมาถึงตรงนี้ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ก็ทำท่าปาดคอ
“คุณหนูวางใจเถอะครับ พวกเรารู้ว่าต้องจัดการยังไง”
หนึ่งในคนสนิทเอ่ยกับ ‘เนี่ยอู๋โยว’
“เก็บกวาดให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ พูดจบแล้วก็หันหลังเดินออกไปจากที่นี่
จากนั้นสายตาของเหล่าคนสนิทพวกนั้นก็มองไปที่ร่างของเยี่ยหวันหวั่น
….
ในเวลานี้ บ้านตระกูลเนี่ยเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากหน้าหลายตา
นายหญิงตระกูลเนี่ยกับหัวหน้าตระกูลนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มจางๆ
เนี่ยอู๋หมิงยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าไม่ชื่นมื่นเลย กวาดสายตามองไปรอบๆ เป็นระยะๆ
“หัวหน้า เถ้าแก่โหย่วหมิงก็เชื่อถือไม่ได้หรอก มาบอกว่าจะทำให้หัวหน้าได้สืบทอดตระกูลเนี่ยอะไรกัน เฮ้อ…” นักพรตใจบริสุทธิ์มองไปที่เนี่ยอู๋หมิง แล้วถอนหายใจออกมา
เนี่ยอู๋หมิงเหลือบมองนักพรตใจบริสุทธิ์แวบหนึ่ง “นายคิดว่าฉันอยากได้ไอ้ตำแหน่งเจ้าบ้านนี้งั้นเหรอ ตลกแล้ว ด้วยความสามารถของฉัน จะก่อตั้งตระกูลเนี่ยขึ้นมาอีกกี่สิบแห่งก็ได้ นั่นมันเรื่องจิ๊บๆ เลย”
พอได้ฟังคำพูดนี้ นักพรตใจบริสุทธิ์กับหนุ่มกรรมกรต่างชาติก็สบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นทั้งสองก็ก้มหน้าลงอย่างรู้กัน
……………………………………………