คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1602

”พะยะค่ะ ฝ่าพระบาท!” เอลสันรับตราเครื่องหมายของสำนักประกายแสงมาจากแอมโบรสก่อนที่จะหันหลังเร่งจากไป

“ฝ่าพระบาท กระหม่อมจะไปดูพวกสำนักจากจักรวาลโลกที่เข้ามาบุกรุก กระหม่อมจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่มีทางกลับมาแน่!” ฟลอเรียนพูดกับแอมโบรสอย่างนอบน้อมก่อนที่จะจากไปเช่นกัน

แอมโบรสพยักหน้า ริมฝีปากหยักโค้งเป็นรอยยิ้มก่อนที่จะจิบชาอย่างผ่อนคลาย

‘เสด็จพ่อเคยบอกว่า การสงบนิ่งยามเผชิญกับปัญหาจะทำให้เรายิ่งใหญ่’

ตอนนั้นเองมีความต่างอย่างมหาศาลจากเมื่อก่อนทั้งรังสีของแอมโบรสและวิธีการจัดการปัญหาของเขา เพราะตอนนี้เขามีรังสีของราชนิกุล

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ

ฟลอเรียนรีบเข้ามาหลังผ่านไปสองชั่วโมงด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนแต่สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตอนที่พูดกับแอมโบรสว่า “ฝ่าพระบาท กระหม่อมโชคดีจับบู๊ตึ๊ง เส้าหลินและสำนักอื่นได้”

ฟลอเรียนไม่ลืมที่จะเพิ่มคำเยินยอว่า “ต้องขอบพระทัยการช่วยเหลือจากฝ่าพระบาท เพราะคนจากสำนักประกายแสงช่วยได้อย่างมาก ไม่เช่นนั้นคงรับมือสำนักต่าง ๆ ไม่ได้ง่าย”

“เยี่ยม! เยี่ยมมาก!”

แอมโบรสพยักหน้าด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมเพราะในใจเขาก็ตื่นเต้นดีใจอย่างมากเช่นกัน

‘ฮ่าฮ่า ฉันแก้ปัญหาได้อีกเรื่องแล้ว เสด็จพ่อทรงทราบท่านต้องยินดีมากแน่’

จากนั้นแอมโบรสก็ลุกขึ้นแล้วกลับวังไปหลังจากที่ชื่นชมฟลอเรียนแล้ว

“ฝ่าพระบาท!”

มีขันทีคนหนึ่งรีบเข้ามาหาเขาตอนที่เขาเกือบเข้าวังไปแล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “มีคนอยากพบพระองค์นอกวังพะยะค่ะ”

“ใครกัน?” แอมโบรสนิ่วหน้าถาม

ขันทีส่ายหน้า “กระหม่อมก็ไม่แน่ใจพะยะค่ะ แต่เป็นหญิงสาวอายุน้อย”

“หญิงสาวเหรอ?์ เป็นไปได้ไหมว่าคือเอร่า แฮนเซ่น?”

ดวงตาแอมโบรสเจิดจ้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ตั้งแต่ที่ออโรร่า แฮนเซ่นถูกบังคับให้ก้าวลงจากตำแหน่งประมุขของสำนักง้อไบ๊ เธอก็พาเอร่าจากไปด้วย แอมโบรสไม่ได้เจอเอร่ามาตลอดหลายปีนี้

ในใจของแอมโบรส ผู้หญิงที่ใกล้ชิดกับเขามีไม่มากนักและเอร่าก็เป็นหนึ่งในนั้น

แอมโบรสโบกมือเป็นสัญญาณให้ขันทีจากไปพร้อมคิดเช่นนั้นในหัวก่อนที่จะรีบเร่งไปที่ประตูทางเข้าวัง

‘ไม่ใช่เอร่าเหรอ?’

เขารู้สึกผิดหวังเมื่อได้เห็นว่าเป็นใครตอนที่เดินไปถึง

เขาเห็นร่างเล็กบอบบางอยู่ที่หน้าประตูซึ่งดูน่ารักใสซื่อแต่ว่าเธอไม่ใช่เอร่า

เด็กสาวหันมายิ้มให้เขาอย่างว่องไวก่อนที่เขาจะเดินเข้าถึงตัวเธอพร้อมถามว่า “องค์ชายแอมโบรสใช่ไหมเพคะ?”

แอมโบรสพยักหน้าขณะที่มองชุดของเธอและตระหนักอะไรได้ “เธอเป็นคนของสำนักง้อไบ๊สินะ?”

“เพคะ”

เด็กสาวพยักหน้าก่อนที่จะพูดทันทีว่า “ประมุขของเรามีบางเรื่องอยากหารือกับพระองค์ ไม่ทราบว่าพระองค์พอจะมีเวลาไหมเพคะ?”

‘ประมุขสำนักง้อไบ๊ เมแกน แคสเทลโลเหรอ? ทำไมเธอถึงอยากพบฉันนะ?’

ขณะที่นึกสงสัยแอมโบรสก็พยักหน้าและบอกว่า “นำทางไปสิ”

ความจริงแอมโบรสไม่สนใจที่จะพบพวกเขาหากว่าเป็นคนอื่นที่เชิญมา แต่เมแกนนั้นต่างออกไปเพราะเธอช่วยเขาไว้มากในช่วงแรก ๆ ที่เขามายังจักรวาลโลก

ยิ่งกว่านั้นเธอยังเหมือนเขาในแง่ที่ว่าทั้งคู่ต่างก็ชิงชังแดร์ริล เมแกนเกลียดแดร์ริลเพราะว่าเขาปฏิเสธความรักจากเธอนับครั้งไม่ถ้วน!

เด็กสาวไม่ได้เสียเวลากล่าวอะไรขณะที่เธอนำทางไปโดยมีแอมโบรสตามไปด้านหลัง

ประมาณ 10 นาทีต่อมา พวกเขาก็อยู่ในป่านอกเมืองหลวงและแอมโบรสก็ได้เห็นเมแกน

ตอนนั้นเมแกนดูเหมือนเทพเซียในชุดยาวสีม่วงเข้มพร้อมแต่งหน้าอ่อน ๆ แม้ว่าจะดูดึงดูดใจแต่ก็ไม่ได้ยั่วยวน

แอมโบรสรู้สึกได้ว่าเมแกนเปลี่ยนไปหลังจากที่ไม่ได้เห็นเธอมานาน

เธอเคยดูธรรมดา ๆ แต่ตอนนี้เธอมีร่องรอยของความร้ายกาจอยู่ในตัว

แอมโบรสไม่รู้ว่าเมแกนเปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ฝึกคัมภีร์พิสุทธิ์อมตะจนจบ

“โอ้โห!”

ใบหน้าเย้ายวนของเมแกนปรากฏรอยยิ้มเมื่อได้เห็นแอมโบรส “นี่ใช่หนุ่มหล่อที่ฉันเคยรู้จักหรือเปล่านะ? พริบตาเดียวเขากลายเป็นองค์ชายที่ทุกคนอิจฉาซะแล้ว”

น้ำเสียงของเมแกนทำให้แอมโบรสรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เขาจึงพูดเข้าประเด็น “อยู่ ๆ คุณก็อยากเจอผมในที่แบบนี้ มีเรื่องอะไรกัน?”

“แน่อยู่แล้วว่านายเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้เป็นองค์ชาย วิธีที่นายพูดก็ดูเย่อหยิ่งกว่าเดิมนะ” เมแกนหัวเราะและอดแหย่แอมโบรสไม่ได้

จากนั้นเมแกนก็เปลี่ยนเป็นจริงจังและถาม “สำนักเส้าหลิน บู๊ตึ๊งและสำนักอื่นบุกคุกเหรอ?”

แอมโบรสพยักหน้า

“นี่แหละเหตุผลที่ฉันอยากพบนาย” เมแกนพูดพร้อมรอยยิ้มขณะที่แววตาแฝงเล่ห์ร้าย

“คุณอยากให้ผมปล่อยพวกเขาไปเหรอ?” แอมโบรสถามดวงแววตาวาววับเมื่อเขาตระหนักรู้บางอย่าง

“ฉลาดนี่” เมแกนพยักหน้าและส่ายหน้าทันทีก่อนพูด “แต่ฉันไม่อยากให้นายปล่อยพวกเขาทันที แต่ให้สร้างโอกาสให้สำนักง๊อไบ๊เข้าไปช่วยสำนักอื่น ๆ ออกมา ทีนี้สำนักพวกนั้นก็จะซาบซึ้งบุญคุณสำนักง๊อไบ๊”

สำนักเส้าหลิน บู๊ตึ๊งและสำนักอื่น ๆ ต่างก็ชวนให้สำนักง๊อไบ๊มาร่วมตอนที่พวกเขาจะมา

แต่เมแกนเกลียดแดร์ริลเข้ากระดูกดำ เธอจะอยากยื่นมือมาช่วยเพื่อนและครอบครัวเขาได้อย่างไร? เธอจึงแสร้งทำเป็นเห็นด้วยก่อนเจตนารอเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนที่จะพาคนของสำนักตนเองมาที่เมืองหลวงโดยไม่ไ้ด้เข้าร่วมการบุกคุกด้วย

เมแกนยิ้มและพูดกับแอมโบรสอย่างจริงจัง “นายยังติดค้างฉันอยู่สามข้อ ตอนนี้นายเป็นองค์ชายแล้วก็ต้องรักษาสัญญา ฉันเชื่อว่านายจะไม่ผิดคำพูด ใช่ไหม?”

เมแกนพูดต่อ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยแค่สำนักเส้าหลิน บู๊ตึ๊งและสำนักอื่น ส่วนเพื่อนกับครอบครัวของแดร์ริลฉันจะไม่พาใครออกมาแม้แต่คนเดียว!”