“ลงมือ!” หยางหมิงหยู่ตะโกน

“อย่า! ผมบอก! ผมบอก!” ถานชิวเซิงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่อาจควบคุมได้ หลังจากที่ร้องไห้นานมากจึงจะยอมพูดเสียงสะอื้น : “เฉินโม่มีเพื่อนเยอะมาก หนึ่งในนั้นคนที่สำคัญที่สุดก็คือ……”

ถานชิวเซิงยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา จนสุดท้ายฟังไม่ชัด และท่าทางราวกับคนใกล้จะสลบในทันที

“พูดเสียงดังหน่อย!” หยางหมิงหยู่ใช้จวักทุบไปที่แขนของถานชิวเซิง พูดด้วยความโกรธเคือง : “มีชีวิตชีวาหน่อย!”

ถานชิวเซิงร้องครวญครางอีกครั้ง ร้องตะโกนจนเสียงแหบแห้งไปแล้ว

“เพื่อนที่สำคัญที่สุดคือผม แล้วก็……แล้วก็สวีจื่อหาว ปกติเขาชอบไป……นายไปที่นั่นก็จะจับเขาไว้ได้อย่างง่ายดาย……”

“สวีจื่อหาวชอบไปที่ไหน?” หยางหมิงหยู่ถาม

“ชอบ……” ถานชิวเซิงพูดเสียงเบามากยิ่งขึ้น

หยางหมิงหยู่จึงต้องเข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้น และเข้าไปใกล้อีก จนไปถึงริมปากของถานชิวเซิง พูดว่า : “แกพูดอีกครั้ง พูดให้……อ๊า!”

คาดคิดไม่ถึงเลยว่าถานชิวเซิงที่อ่อนแรงมากๆจะระเบิดออกมาอย่างฉับพลัน กัดหูของหยางหมิงหยู่ เจ็บจนเขาร้อยโอดครวญออกมาทันที

ลูกน้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าทั้งสองใช้วิธีการใด ก็ไม่สามารถอ้าปากของถานชิวเซิงได้

“อ๊า!!!”

เมื่อทั้งสองอ้าปากเขาออกมา หูของหยางหมิงหยู่อยู่ในปากของถานชิวเซิง และยังเคี้ยวอีกด้วย เคี้ยวพลางพูดพลางว่า : “ผมกินเศษสวะอย่างแกไปแล้ว!”

หยางหมิงหยู่ล้มลงไปบนพื้น ปิดหูตัวเองแล้วกลิ้งไปมาทั่วพื้น ตะคอกออกมาว่า : “ฆ่ามันซะ! ฆ่ามัน!”

ลูกน้องทั้งสองกำลังจะใช้วิธีการประหารชีวิตที่โหดเหี้ยมมากขึ้นในการทำให้ถานชิวเซิงตาย ทันใดนั้นกลับพบว่าหัวของถานชิวเซิงห้อยลงมา

“คุณชายหยาง เขา…เขา…เขาตายแล้ว!”

“ตายแล้ว ?! ตายไปได้อย่างไร! ตายไปได้อย่างไร!” หยางหมิงหยู่ตะโกนด้วยความโกรธเคือง

ลูกน้องอ้าปากของถานชิวเซิง พูดด้วยความตกตะลึงว่า : “คุณชายหยาง ไอ้หมอนี้ศึกษาวิธีการตายสมัยโบราณด้วยเช่นกัน เขากัดลิ้นตัวเองตายไปแล้ว!”

ถูกต้อง ถานชิวเซิงกัดลิ้นตัวเองตายไปแล้ว ในขณะที่เขาเคี้ยวหูของหยาหงมิงหยู่ เขาก็ได้เคี้ยวลิ้นของตัวเองให้เละไปด้วย โทษประหารรุนแรงเกินไป เพียงเพราะครั้งแรกเขาเกือบจะหักหลังสหายที่ดีที่สุดของตนเองเพราะทนไม่ไหว เขากลัวว่าครั้งที่สองตนจะทนไม่ไหว

“อ๊า ๆ ๆ! ไอ้เศษเดน! แกกัดลิ้นตัวเองให้ตายได้อย่างไรกัน! ผมเตรียมอาหารจานใหญ่ไว้ให้แกตั้งมากมาย! แกบังอาจกล้าตายไปหรือ! ตายไปก็ไม่ได้! ประหารชีวิตเดี๋ยวนี้! แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว ผมก็จะทำให้เขาไม่สงบสุข!”

……

……

ขณะที่สวีจื่อหาวไปหาถานชิวเซิง เห็นความผิดปกติตั้งแต่ข้างนอกประตูแล้ว

มีศพเต็มพื้น และแต่ละคนก่อนตายมีสีหน้าที่ตกใจกลัวอย่างมาก แต่แทบไม่มีร่องรอยการสู้กลับเลย นั่นก็หมายความว่าที่นี่ประสบพลังที่ไม่อาจต้านทานได้

สวีจื่อหาวรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของถานชิวเซิง ที่หน้าห้องทำงานก็มีศพเลขาที่ถานชิวเซิงเพิ่งจ้างมาใหม่นอนอยู่ สวีจื่อหาวเคยเจอไม่กี่ครั้ง เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย เวลายิ้มน่ารักมาก แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอเย็นเฉียบ ตายไปนานแล้ว

เมื่อเปิดประตูห้องทำงานออก ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย แผ่นเสียงโบราณนั้นยังคงเปิดเพลงที่ปลุกจิตวิญญาณอยู่

หัวใจของสวีจื่อหาวตกไปถึงตาตุ่ม ควักมือถือออกมาจากหน้าอกโทรหาเฉินโม่ด้วยอาการตัวสั่น

“ชิวเซิงเกิดเรื่องแล้ว” สวีจื่อหาวพูดอย่างร้อนรนใจ

“ใครทำ?” เสียงที่เย็นยะเยือกดังออกมาจากปลายสาย

“มะ……ไม่รู้……แต่คนของชิวเซิงตายหมดแล้ว ไร้ซึ่งการต่อต้าน ตอนนี้ก็ไม่เห็นชิวเซิงแล้ว!”

“รอฉัน!” ยังคงเป็นสองคำสั้น ๆ แต่กลับแสดงออกถึงความโกรธแค้นที่กดไว้ไม่อยู่

เฉินโม่โกรธเคืองแล้ว! กราดเกรี้ยวมาก! ไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันก็จะทำให้กระดูกแกให้เป็นขี้เถ้า!