ตอนที่ 2029 ตามที่เจ้าต้องการ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ฮ่าๆ! ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่? การเอาของเช่นนี้มาผสมกันมันย่อมจะไม่อาจหลอมโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัติได้!”

เมื่อได้เห็นเทพสวรรค์เหลียวหมิงล้มเหลว เจิ้งฉีหยวนก็ร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันไม่มีใครจะหัวเราะไปกับเขาด้วย

เสียงหัวเราะของเขาจึงค่อยๆ เบาบางลงจนสุดท้ายเจิ้งฉีหยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา

เว้นเสียแต่ว่าดวงตาที่เขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันยิ่งเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังมากขึ้น

หากไม่ใช่เพราะเจ้าเด็กคนนี้แล้วเขาก็คงไม่ถูกคนทั้งหลายทิ้งตัวห่างเช่นนี้

เทพสวรรค์เหลียวหมิงหันมาหาเย่หยวน “ปรมาจารย์เย่ เมื่อสักครู่ที่เทพสวรรค์ผู้นี้ได้ลองหลอมดู เจ้าธาตุไม้นั้นมันมารบกวนหม้อหลอมอย่างไม่สิ้นสุดจนทำให้โอสถไม่อาจก่อตัวได้ วิธีการนี้… มันดูท่าจะไม่ได้ผล!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็หันมามองเย่หยวนด้วยใบหน้ากังวล

เพราะหากพลาดไปแล้วเย่หยวนคงไม่อาจหลอมโอสถได้อีกทั้งชีวิตนี้

สำหรับนักหลอมโอสถที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อวิชาแล้วมันย่อมจะเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย

โดยเฉพาะตัวเย่หยวนนี้ที่มีความรู้ความสามารถสูงส่ง

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆ ออกมาและบอก “หากมันไม่ได้ผลแล้วก็ลองชุดที่สองเถิด”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงพยักหน้ารับออกมาและเริ่มทำการหลอมโอสถอีกครั้ง

เย่หยวนนั้นมองดูภาพตรงหน้าอย่างเย็นเยือก แต่มุมมองที่ตัวเขามีต่อเทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นมันเปลี่ยนไปอย่างมาก

ดูท่าเย่หยวนจะเข้าใจเขาผิด

เพราะเทพสวรรค์เหลียวหมิงผู้นี้มีความคิดแตกต่างจากคนอื่นๆ การเรียกเขามาหาครั้งนี้ดูท่าจะมิใช่เพื่อทำให้เขาต้องขายหน้า แต่นั่นก็เพื่อทดสอบฝีมือของเขาจริงๆ

เรื่องนี้เย่หยวนเห็นได้ชัดเจนจากวิธีที่เขาใช้หลอมโอสถ

เพราะด้วยสายตาของเย่หยวนแล้วต่อให้เทพสวรรค์เหลียวหมิงจะคิดเล่นตุกติกใดๆ เขาก็ย่อมจะมองออก

แต่ทว่าการหลอมครั้งแรกที่ผิดพลาดลงไปนั้นมันเป็นปัญหาที่ตัวสมุนไพรหาใช่เจตนาร้ายของเทพสวรรค์เหลียวหมิงไม่

เวลาค่อยๆ เลื่อนผ่านไปจนทำให้เกิดเหงื่อเม็ดโตขึ้นกลางหน้าผากของเทพสวรรค์เหลียวหมิง

ตอนนี้การควบคุมหม้อหลอมของเขานั้นค่อยๆ ลดต่ำลงเรื่อยๆ

จนสุดท้ายแล้วมันก็ผิดพลาดลง!

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่เห็นต้องหน้าซีดลงทันที เมื่อพลาดติดกันถึงสองครั้งเช่นนี้แล้ว มันก็ย่อมหมายความว่าเย่หยวนจะไม่มีทางออกใดๆ อีก

“หึ พี่เหลียวหมิง ครั้งนี้มันคงเป็นธาตุไฟที่เข้ามาปั่นป่วนการก่อตัวใช่หรือไม่? ต่อไปมันก็น่าจะเป็นตาของธาตุสายฟ้าแล้ว! ความผิดพลาดโง่เง่าเช่นนี้ย่อมจะไม่มีจอมเทพโอสถคนใดทำ มันนั้นพูดจาสามหาวบอกว่าต้องสำเร็จแน่นอน ช่างโอหังนัก! ในสายตาของข้าแล้วมันคงไม่ได้รู้เรื่องราวใดๆ เกี่ยวกับโอสถและที่พูดออกมาได้ก่อนหน้านั้นมันก็ย่อมจะเป็นคำสั่งสอนจากพี่เปียวหยู”

ความผิดพลาดสองครั้งติดนี้มันทำให้ความมั่นใจของเจิ้งฉีหยวนพุ่งทะยานคิดว่าตัวเองไม่พลาดแพ้แน่

เพราะนี่มันคือโอสถธาตุลมแท้แต่จะเอาธาตุอื่นมาผสม? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เทพสวรรค์ซืออี้ที่ได้เห็นก็ขมวดคิ้วแน่น “ปรมาจารย์เย่ ทำไม… ไม่ลืมๆ มันไปเสียเล่า? หากเจ้าแค่พูดออกมาทั้งเทพสวรรค์ผู้นี้ทั้งพี่เปียวหยูย่อมจะช่วยเจ้าพ้นจากเรื่องราวนี้ได้ แล้วมันจะไม่มีใครกล้ามาว่าใดๆ เจ้าด้วย!”

ได้ยินเช่นนั้นเจิ้งฉีหยวนก็หน้าแดงก่ำขึ้นทันที

“พี่ซืออี้ ท่านคิดจะกดดันผู้คนด้วยกำลังหรือ?” เจิ้งฉีหยวนร้อง

เทพสวรรค์ซืออี้หันหน้ากลับไปตอบ “แล้วทำไมเล่า?”

“เจ้า!” เจิ้งฉีหยวนแทบสำลักเมื่อได้ยิน

ในแดนใต้นี้เทพสวรรค์ซืออี้นั้นไม่ได้มีอำนาจมากมาย แต่เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีตำแหน่งที่สูงศักดิ์

ตระกูลเจิ้งของเขานั้นมันเป็นแค่ตระกูลชั้นกลางในแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่ำต้อยกว่าที่จะไปเทียบกับยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวใดๆ

ตอนนี้เมื่อเห็นเย่หยวนกำลังจะแพ้เทพสวรรค์ซืออี้กลับคิดช่วยเย่หยวน เขานั้นไม่ได้ติดใจเรื่องที่เย่หยวนแย่งชิงเหรียญของเขาไปแล้วหรืออย่างไร?

แต่ในเวลานั้นเองเย่หยวนกลับยิ้มตอบกลับมา “พี่ซืออี้มีความหวังดี เย่ผู้นี้ได้รับไว้แล้ว แต่เย่ผู้นี้เป็นผู้ยืดมั่นในคำของตน จะไม่ยอมกลับคำแน่ มันยังมีอีกสูตรหนึ่งเหลืออยู่มิใช่หรือ? ตอนนี้ยังไม่แน่เสียหน่อยว่าใครจะแพ้ชนะ!”

ได้ยินเช่นนั้นเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาตามๆ กัน

อย่างไรเสียสุดท้ายก็เป็นแค่เด็กน้อย!

ทำลายอนาคตอันสดใสของตนเพราะแค่ไม่ยอมผู้คนเช่นนี้ มันจำเป็นด้วยหรือ?

ที่สำคัญคนที่คิดช่วยเหลือนั้นคือเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์ซืออี้สองคนใหญ่คนโต

แต่เจิ้งฉีหยวนที่ได้ยินกลับรู้สึกสะใจขึ้นมา เขาได้แต่หัวเราะเย้ยขึ้น “เด็กน้อย อย่าได้มาอวดอ้างตัวเองอีกเลย เจ้านั้นคิดว่าตัวเองมีเปียวหยูหนุนหลังอยู่ใช่หรือไม่เล่า? จึงไม่ได้กลัวสิ่งใดเช่นนี้?”

เย่หยวนหันไปมองอีกฝ่ายอย่างเฉยชา “เจ้าเคยบอกให้ข้าสาบานต่อเต๋าสวรรค์ใช่หรือไม่เล่า? ได้!”

พูดจบเย่หยวนก็เริ่มทำการสาบานทันทีต่อหน้าทุกผู้คน

เรื่องราวนี้มันทำให้หลายคนถึงกับต้องอ้าปากค้าง!

นี่มัน… เจ้าเด็กคนนี้มันจะดื้อด้านเกินไปหรือไม่?

ถึงเวลานี้โอกาสชนะของเย่หยวนมันริบหรี่เต็มที แต่เขากลับเลือกจะสาบานในเวลานี้

เท่านี้ต่อให้เทพสวรรค์เปียวหยูจะคิดช่วยใดๆ มันก็ไม่อาจทำได้แล้ว

“เอาล่ะ ตาเจ้า” เย่หยวนหันไปบอกเจิ้งฉีหยวน

เจิ้งฉีหยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เดิมพันนี้เจ้าต้องแพ้แน่ เทพสวรรค์ผู้นี้สาบานต่อเต๋าสวรรค์ไปแล้วจะเป็นผลเสียใด?”

พูดจบเจิ้งฉีหยวนก็ได้เริ่มทำการสาบานบ้าง

เทพสวรรค์ซืออี้ได้แต่ส่ายหัวออกมาด้วยความเสียดาย

เพราะไม่ว่าอย่างไรเย่หยวนผู้นี้ก็คงสนิทกับคนจากหอมหาสมบัติ การที่ต้องเสียโอกาสจะหลอมโอสถไปเพราะเรื่องราวเช่นนี้มันนับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก

“พี่เหลียวหมิง เริ่มเถอะ!” เจิ้งฉีหยวนกล่าวเร่งเทพสวรรค์เหลียวหมิงด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

เทพสวรรค์เหลียวหมิงเองก็ได้แต่ถอนหายใจและเริ่มทำการหลอมโอสถ

เวลานั้นค่อยๆ เคลื่อนผ่านไป ภายในหม้อหลอมที่ผ่านๆ มานั้นมันสุดแสนสงบไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ

แต่หลังจากผ่านไปได้ราวสองชั่วโมงในที่สุดหม้อหลอมก็เริ่มสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อเจิ้งฉีหยวนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองมันด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ฮ่าๆ! รับไม่ไหวจริงๆ ด้วย! อย่างที่ข้าว่าไป มีหรือที่ธาตุสายฟ้ามันจะมาผสานโอสถธาตุลมแท้ได้?”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็แสดงสีหน้าเสียดายออกมา

ครั้งนี้เย่หยวนคงแพ้แน่แล้ว!

เทพสวรรค์ซืออี้ถอนหายใจยาวพร้อมมองหันไปดูเย่หยวน แต่เขากลับพบว่าเย่หยวนนั้นมีสีหน้าเรียบเฉยไม่วิตกกังวลใดๆ

หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเป็นแค่มือใหม่จริงๆ จึงไม่สนใจว่าจะหลอมโอสถต่อไปได้หรือไม่?

แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้!

ในพริบตาเวลากว่าร้อยอึดใจก็ได้ผ่านไป จนตอนนี้หม้อหลอมนั้นมันก็ยังสั่นสะท้านไม่หาย

จนผ่านไปอีกสิบห้านาที ตอนนี้หม้อหลอมก็ยังสั่นอยู่

จนเวลาผ่านไปถึงสองชั่วโมง จนตอนนี้หม้อหลอมมันก็ยังสั่น

แต่เจ้าโอสถภายในหม้อนี้มันกลับยังไม่ล้มเหลวลงเสียที!

เจิ้งฉีหยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็วิตกกังวลอย่างมาก เขานั้นได้แต่ร้องภายในใจหวังให้โอสถนั้นมันพังทลายลงเสียที

แต่การหลอมโอสถนี้มันกลับยังดำเนินต่อไป

จนสุดท้ายหม้อก็ได้สั่นขึ้นมาอย่างแรงอีกครั้งแต่เจิ้งฉีหยวนยังไม่ทันจะได้ดีใจความสั่นสะท้านใดๆ มันก็จางหายลง

เจิ้งฉีหยวนหน้าซีดเผือด

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? มันไม่ล้มเหลว!”

“หรือว่าความเป็นไปได้ที่สามนี้จะสำเร็จจริง?”

“วิเศษเกินไปแล้ว! ในสถานการณ์เช่นนี้เจ้าธาตุสายฟ้านั้นมันกลับสงบลงเสียอย่างนั้นและดูท่าคงรวมเข้ากับโอสถไปแล้วด้วย!”

เสียงโห่ร้องตื่นเต้นดังขึ้นทั่วทุกทิศ

เพราะสภาพในเวลานี้มันแตกต่างจากที่พวกเขาคาดไว้มาก

ธาตุสายฟ้านั้นนับได้ว่ารุนแรงและดุดัน ยากแก่การหลอมที่สุด ใครจะไปคิดว่าหม้อสั่นอยู่สองชั่วโมง สุดท้ายมันกลับหลอมเข้าด้วยกันได้!

ในเวลานี้ใบหน้าของเทพสวรรค์เหลียวหมิงได้แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจอย่างมากก่อนที่จะร้องขึ้น “หลอม!”

เสียงนั้นค่อยๆ จางหายไปจนกลับคืนสู่ความสงบ

ทุกผู้คนรู้ได้ทันทีว่าโอสถถูกหลอมขึ้นได้สำเร็จ!

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? มัน… เขาทำได้อย่างไร? เหตุใดธาตุสายฟ้าถึงผสานเข้ากับโอสถธาตุลมแท้บริสุทธิ์ได้?”

เจิ้งฉีหยวนนั้นไม่อาจยืนได้มั่นอีกต่อไป

ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขานี้มันเหลือเชื่อจนเกินรับ

เขาเคยคิดว่าชัยชนะอยู่แค่เอื้อม แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นความพ่ายแพ้ที่รออยู่!

………………