ตอนที่ 972: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 972: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (2)

“เจี้ยนเฉิน ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาในเวลาอันสั้นไม่กี่ปีนี้” หลิงหยวนซีคำรามออกมาในขณะที่เขาวิตกอยู่ในใจ เขารอให้คนจากนิกายของเขามาอยู่

เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไรและพุ่งเข้าไปหาหลิงหยวนซีอย่างมุ่งร้ายไปพร้อมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่อยู่ในมือของเขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น

หลิงหยวนซีเคร่งเครียดมากในขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินที่กำลังพุ่งเข้ามา เจี้ยนเฉินในตอนนี้สามารถที่จะฆ่าเขาได้ ถ้าคนจากนิกายยิหยวนมาไม่ทันละก็ มันคงจะเป็นเขาที่ต้องตายแน่นอนถ้าต้องสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับเจี้ยนเฉิน

หลิงหยวนซีกัดฟันในขณะที่เขาตัดสินใจได้ในที่สุดว่าจะทำบางอย่าง เขาพูดออกมาเสียงแหบ “เจี้ยนเฉิน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าในวันนี้ เมื่อพวกเราเจอกันครั้งหน้า ข้าจะให้เจ้าร้องขอความเมตตาให้ได้” หลังจากนั้น เขาก็เหวี่ยงมือและเปิดมิติออก เขาสร้างประตูมิติด้วยพลังของเขาในฐานะเซียนราชาเพื่อที่จะหนี

“เจ้าอย่าบังอาจหนีนะ หลิงหยวนซี ! ” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา เขาเหวี่ยงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไป และปราณกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ก็พุ่งเข้าไปทางประตูมิติ

ปราณกระบี่สีดำผ่าแยกอากาศออก ที่ใดก็ตามที่มันผ่านไป รอยแยกสีดำก็จะปรากฎขึ้นกลางอากาศเช่นเดียวกัน กระบี่พุ่งไปที่ประตูมิติของหลิงหยวนซีอย่างรวดเร็ว

บู้ม ! ปราณกระบี่ปะทะเข้ากับประตูมิติและพลังงานที่เหลืออยู่ก็สั่นไหวไปรอบ ๆ มิติในรัศมี 5 เมตรพังทลายลงและเปลี่ยนเป็นสีดำ ประตูมิติได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมิติที่สั่นและพังทลายลง มันตัดทางหนีของหลิงหยวนซีไป

หลิงหยวนซีหน้าซีด เขาเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลผู้พิทักษ์ แต่เขายังต้องหนีต่อหน้าสมาชิกที่เด็กกว่า นี่ก็อับอายมากพอแล้ว และในตอนนี้ประตูมิติของเขายังถูกคู่ต่อสู้ทำลายลงอีก ทำให้เขาไม่สามารถที่จะหนีได้ หน้าของเขาในตอนนี้ร้อนไปด้วยความอับอาย

ไม่เพียงแต่เขาต้องถูกบีบให้หนีจากคนที่เด็กกว่าเท่านั้น เขายังสูญเสียความสามารถในการหนีต่อหน้าพวกเขาไปอีก เขาพบว่านี่มันแย่มากมาก

จิตสังหารเผาไหม้อยู่ภายในหลิงหยวนซีในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่เจี้ยนเฉิน ความมุ่งมั่นฉายอยู่ที่ตาของเขาและเขาก็คำรามออกมา “เจี้ยนเฉิน ถ้าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเทียมของข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ ถ้างั้นลองทักษะการต่อสู้ของจริงของข้าหน่อยเป็นไง ! ” เขาไม่มีทางเลือกอื่น ทั้งหมดที่เขาทำได้คือสู้ตายเท่านั้น

เขาหวาดกลัวความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอย่างสิ้นเชิง ความเข้าใจในตัวเจี้ยนเฉินของเขายังจำกัดนัก และเขาก็ไม่รู้ว่าความเข้าใจในความลึกลับของธรรมชาติของเจี้ยนเฉินนั้นยังอยู่ในระดับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 7 เท่านั้น ถ้าเขาเลือกที่จะหนีโดยใช้ความเร็ว เจี้ยนเฉินคงไม่สามารถไล่ตามทันได้แน่

พลังที่มหาศาลมากออกมาจากหลิงหยวนซี ทำให้เสื้อผ้าและผมของเขากระพือแม้ว่าจะไม่มีลมเลยก็ตาม ทันใดนั้นเอง แรงกดดันที่มหาศาลก็ลดลงมาที่บริเวณโดยรอบและเปลี่ยนให้บริเวณนี้ในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรกลายเป็นภาพพร่ามัว แรงกดดันนี้ได้พันธนาการบริเวณนี้เอาไว้

แรงกดดันลดลงมาเป็นชั้นชั้นจากท้องฟ้าและหุ้มเจี้ยนเฉินเอาไว้เหมือนเป็นโซ่ ดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะพันธนาการเขา

เจี้ยนเฉินคำรามออกมาและเม็ดพลังบรรพกาลในตันเถียนของเขาก็เริ่มที่ผลิตสายพลังบรรพกาลออกมาเพื่อเติมเต็มไปทั่วร่างของเขา เขาเพิ่มร่างบรรพกาลไปจนถึงขีดสุด ก่อนที่จะกระตุกตัว เขาทำลายแรงกดดันที่พันธนาการเขาเอาไว้อยู่ ทำให้มิติรอบ ๆ เขาสั่นไหวอย่างรุนแรง

ทันทีที่เขาหลุดเป็นอิสระ คลื่นพลังงานที่มหาศาลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา นิ้วใหญ่ได้ปรากฎขึ้นมาจากที่ใดไม่ทราบตรงหน้าหลิงหยวนซี

นิ้วนั้นควบแน่นมากจาพลังงานทั้งหมด มันยาว 5 เมตรและหนาครึ่งเมตร มันเปล่งประกายไปด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว และสั่นมิติรอบ ๆ จนถึงจุดที่มันบิดเบี้ยวและกลายเป็นภาพพร่ามัว

เจี้ยนเฉินค่อนข้างเคร่งเครียด หลิงหยวนซีได้สะสมพลังสำหรับทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ทักษะนั้นมีความยิ่งใหญ่เท่ากับเซียนราชาชั้นนสวรรค์ที่ 7 มันเพียงพอที่จะทำอันตรายแก่เจี้ยนเฉินได้

“เจี้ยนเฉิน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าสามารถรับทักษะการต่อสู้ของข้าได้ตรงตรงและไม่ได้รับบาดเจ็บใดใดเลย ตายซะ ! ” หลิงหยวนซีตะโกนออกมาก่อนที่จะชี้ไปที่เจี้ยนเฉินทันที

นิ้วแหวกรูในมิติออกทันทีและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยแรงกดดันแห่งการทำลายล้าง

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าไปลึกและพุ่งเข้าไปแทนที่จะถอย เขาพุ่งเข้าไปที่นิ้วใหญ่อย่างไม่เกรงกลัวและด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาก็ขยายออก ในพริบตา มันก็กลายเป็นกระบี่ยาว 10 เมตรและแทงออกไปที่นิ้วใหญ่นั้น

บู้ม !

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปะทะเข้ากับนิ้วใหญ่ด้วยเสียงระเบิดอันดัง คลื่นพลังงานที่น่ากลัวได้ฉีกมิติออก และเปลี่ยนบริเวณนั้นให้เป็นสีดำ แม่แต่พระอาทิตย์บนท้องฟ้ายังหม่นลง

เจี้ยนเฉินเริ่มที่ถอยไปอย่างเร็วภายใต้พลังงานที่รุนแรง เขาพุ่งถอยไปอย่างควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นิ้วใหญ่ก็ยังไม่กระจายหายไปที่ตรงหน้าเขา และพุ่งต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิมไปที่เจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม ขนาดของมันก็ลดลงไป 10 ส่วน

เจี้ยนเฉินคำรามออกมาอีกครั้งและยุทธภัณฑ์จักรพรรดิใหญ่ในมือของเขาก็กวาดไปที่ท้องฟ้าเป็นเหมือนลำแสงสวยงามสีดำ และโจมตีไปที่นิ้วยักษ์อย่างหนักหน่วงอีกครั้ง

เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง นิ้วใหญ่ลดลงไปอีก 10 ส่วนจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน พลังงานที่รุนแรงทำให้เจี้ยนเฉินกระเด็นกลับไปอีกครั้ง เขากระเด็นเร็วกว่าเดิมไปด้านหลัง เสื้อของเขาขาดกระจายและเผยให้เห็นเกราะไหมบรรพกาลด้านใน

นิ้วยักษ์มีพลังเท่ากับพลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 มันเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินหรืออาจจะอ่อนกว่าเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ แต่นี่ก็ยังเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอยู่ดี มันไม่ใช่การโจมตีธรรมดา ดังนั้น แม้ว่าจะมีความต่างระหว่างพลังทั้งสอง แค่มันก็ไม่สามารถหักล้างได้ง่ายดายขนาดนั้น

เจี้ยนเฉินคำรามออกมาอีหลายครั้งและโจมตีออกไปมากกว่าสิบครั้งด้วยกำลังของเขา ก่อนที่จะทำให้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนกระจายหายไปเป็นพลังงานไปรอบ ๆ เขายังคงไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะร่างบรรพกาลของเขา แต่เขาอยู่ในสภาพที่มอมแมม

“จะ จะ เจ้าป้องกันทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของข้าได้อย่างสมบูรณ์ ปะ ปะ เป็นไปได้ยังไงกัน ? ” หลิงหยวนซีอึ้งในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินซึ่งอยู่ไกลไกล เขาตะลึงจนพูดไม่ออก ในขณะที่ความตกใจที่เขาเผชิญอยู่ก็พุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด

เขารู้ดีว่าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของเขานั้นทรงพลังเพียงใด แม้ว่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 จะเผชิญหน้ากับมัน พวกเขาก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บบ้างหรืออาจจะบาดเจ็บสาหัส ในขณะเดียวกัน ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับชั้นสวรรค์ที่ 7 เลย อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ยังสามารถลบล้างการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดายโดยใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและยังไม่ได้รับบาดเจ็บอีก นี่มันเหลือเชื่อมาก

“หลิงหยวนซี แม้แต่ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของเจ้าก็ยังทำให้ข้าบาดเจ็บไม่ได้ ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะมีอะไรซ่อนเอาไว้อีก” เจี้ยนเฉินหัวเราะอย่างป่าเถื่อน เขาใช้ทักษะมายาพริบตาและพุ่งเข้าไปที่หลิงหยวนซีเหมือนภาพติดตาและเริ่มที่จะต่อสู้กับเขาในระยะใกล้

หลิงหยวนซีกัดฟันในขณะที่เขาหวังว่าเขาจะยื้อได้นานอีกหน่อยจนกระทั่งกำลังเสริมมาถึง อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างในพลังของพวกเขานั้นมากมาย ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บในการโจมตีไม่กี่ครั้ง ซี่โครงของเขาหักจากการเตะของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่หน้าอกของเขาเป็นหลุมลงไปทั้งหมด อวัยวะภายในของเขาถูกทำลายและแผลที่คอของเขาก็แย่มากขึ้น ครึ่งหนึ่งของคอเขาได้รับบาดเจ็บหนัก ถ้าเขาหลบไม่ทัน เขาคงหัวขาดไปแล้ว

ประตูมิติปรากฏขึ้นมาทันทีสูงขึ้นไปในท้องฟ้าในขณะที่หลิงหยวนซีกำลังอยู่ในอันตราย พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลหลายดวงก็ปรากฎออกมาทันที กำลังเสริมจากนิกายยิหยวนมาถึงแล้ว

หลิงหยวนซีดีใจมาก เขาไม่สนใจในศักดิ์ศรีที่เขาควรจะรักษาไว้อีกต่อไปและตะโกนขอความช่วยเหลือ “ยิหยางซี ช่วยข้าด้วย ! ” เสียงที่น่าเวทนาของหลิงหยวนซีดังผ่านเข้าไปในประตูมิติอย่างชัดเจน ทำให้ประตูมิติยิ่งควบแน่นไวกว่าเดิม

ใจของเจี้ยนเฉินตกไปอยู่ตาตุ่มเล็กน้อย เขารู้ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วที่จะฆ่าหลิงหยวนซี ดังนั้นเขาจึงโจมตีออกไปเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ กระบี่ตัดผ่านอากาศไปและเล็งเป้าไปที่หว่างคิ้วของหลิงหยวนซี

หลิงหยวนซีใช้ดาบโค้งของเขาในการป้องกัน แม้ว่าเขาต้องการที่จะกำจัดการโจมตีที่น่ากลัวของเจี้ยนเฉิน แต่มันก็ทำให้เขาบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก และทำให้เขากระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา เขาไม่ลังเลและโจมตีครั้งที่สองออกไป การโจมตีทำลายข้อจำกัดของมิติและแทงเข้าไปที่หว่างคิ้วของหลิงหยวนซีอีกครั้ง

ม่านตาของหลิงหยวนซีหรี่เล็กลงเท่าเข็ม ไม่ยอมให้แสงผ่านเข้าไป เขาไม่สามารถที่จะป้องกันการโจมตีที่เหมือนสายฟ้านี้ได้

ในตอนนี้เอง ประตูมิติก็คงที่ ชายชราผิวเลือดฝาดในชุดขาวก้าวออกมาข้างหน้า ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่เขาก้าวออกมาและเห็นว่าหลิงหยวนซีกำลังอยู่ในอันตราย เขาตะโกนออกมา “หยุดนะ ! ” เขาชี้นิ้วออกไปและพลังก็พุ่งออกไปในอากาศ มันทำลายข้อจำกัดของมิติและไปถึงที่เจี้ยนเฉินทันที และกระแทกยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาที่กำลงจะแทงไปที่หลิงหยวนซีทันที

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิถูกกระแทกกลับไปทันทีในตอนที่มันสัมผัสกับผิวของหลิงหยวนซี พลังจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยมีพลังที่น่าเหลือเชื่อ และกระตุกแขนของเจี้ยนเฉินจนชา

เจี้ยนเฉินตกใจ เขารู้ว่าคนที่เพิ่งมานี้มีความแข็งแกร่งที่เขาไม่สามารถเทียบเท่าได้ แต่เขาก็ไม่ได้กลัว เขาแทงออกยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไปอีกครั้งเพื่อพยายามที่จะฆ่าหลิงหยวนซี

“เจ้ากล้าดียังไง ! ” ยิหยางซีโกรธเกรี้ยว เขาสะบัดแขนและลมก็พัดออกมาอย่างรุนแรง ลมหมุนที่เชื่อมระหว่างพื้นดินกับท้องฟ้าเกิดขึ้นมา และพัดไปทางเจี้ยนเฉินพร้อมทั้งเสียงเสียดแทง

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินได้แทงเข้าไปที่หน้าฝากของหลิงหยวนซีแล้ว ลมหมุนมาถึงในตอนที่กระบี่ได้เข้าไปที่หน้าผากแล้ว ลมความเร็วสูงเหมือนใบมีดที่แหลมคม และตัดไปที่ร่างกายของเจียนอย่างต่อเนื่อง มันทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกเจ็บไปทั่วและรอยสีขาวก็ปรากฎขึ้นทั่วร่างของเขา

ลมที่รุนแรงดึงตัวเขาให้ถอยหลังไป และป้องกันไม่ให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงลึกเข้าไปในหัวของหลิงหยวนซีมากกว่านี้อีก มันถูกดึงออกมาอย่างช้า ๆ และพลาดที่จะกำจัดวิญญาณของหลิงหยวนซี เจี้ยนเฉินไม่สามารถที่จะฆ่าเขาได้

อย่างไรก็ตาม หลิงหยวนซีก็บาดเจ็บเหนือจินตนาการ เขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้และส่วนบนของหัวของเขาก็ระเบิดออก วิญญาณสีหมองบินออกมาจากเข และพุ่งไปที่ยิหยางซีที่กำลังโกรธ

หลิงหยวนซีทิ้งร่างของเขาและบินออกไปในรูปวิญญาณ

ทันทีที่เขาหนีออกจากร่างไป หัวของเขาก็ระเบิดออกมาเสียงดัง พลังงานสีดำที่เปล่งรัศมีพลังแห่งการทำลายล้างได้รั่วออกมาจากหัวของเขา และทำให้หัวเขากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เจี้ยนเฉินยากที่จะทรงตัวอยู่ได้ภายใต้ลมหมุน เมื่อเขาเห็นวิญญาณของหลิงหยวนซีหนีไปได้ เขาก็ตระหนกทันทีและเหวี่ยงกระบี่ของเขาไป เขาสร้างปราณกระบี่ออกมาที่ตัดผ่านอากาศไปและพุ่งไปทางวิญญาณของหลิงหยวนซี

เลือดไหลออกมาจากหน้าของยิหยางซีในขณะที่จิตสังหารสั่นไหวอยู่ในดวงตาของเขา เขาคว้าไปที่มิติที่ว่างด้านหน้าด้วยมือซ้ายของเขา และสร้างมิติเพื่อเก็บวิญญาณของหลิงหยวนซีเอาไว้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ใช้ฝ่ามือขวาในการโจมตีไปที่เจี้ยนเฉิน