อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1076 หนีจากความตาย
บรรดาผู้คนดูอย่างตั้งใจ

มีคนรู้สึกดีใจในความโชคร้ายของคนอื่น

บางคนรู้สึกตื่นเต้นกระวนกระวายใจ

มีคนรู้สึกเห็นใจสงสาร

มีคนอยู่ทุกประเภท

ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ ทุกคนล้วนต้องการดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ รอให้เซียวหยู่เซวียนถูกฆ่า และรอให้ความทรงจำของกู้ชูหน่วนถูกดึงออกมาจากสมอง

“ครืน……”

โน้ตดนตรีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นพลังอันแข็งแกร่งดั่งคลื่นทะเลโหมซัดสาดก็ฝืนทำลายค่ายกลเสาะหาวิญญาณไปทันที

“โอ้ย……”

แสงสีขาวปรากฏขึ้นในทันใด แสบตาจนทุกคนไม่สามารถลืมตาได้

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาดั่งสายฟ้าแลบ

แต่ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ กู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียนก็ถูกพลังอันแข็งแกร่งนั่นดูดออกไปแล้ว

เจ้าบ้านไป๋หลี่เป็นคนแรกที่ดึงสติกลับมาได้

เขาพลิกฝ่ามือก็เป็นฝ่ามือหนึ่งตีเข้าไป แต่ก็ถูกตีกลับมา ขวางกั้นกู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียนที่ถูกดูดไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ซ่างกวนชิง ไป๋หลี่เฉิงรวมทั้งเจ้าสำนักมากมายก็รวบรวมพลังฝ่ามือตาม คิดจะดึงพวกเขาทั้งสองกลับมา

แต่ทว่า เสียงขลุ่ยดังขึ้น แรงสังหารก็ปรากฏ

เพลงขลุ่ยกลายเป็นสายดนตรีสังหาร ทุกที่ที่โน้ตเพลงผ่านไป ใบไม้สีเขียวกลายเป็นใบไม้ที่เหี่ยวแห้ง ผู้คนก็ถูกตีจนเป็นผุยผง

ทุกคนตกใจทันที ต่างถอนฝ่ามือออกและถอยหลัง

หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเคลื่อนที่เร็ว เกรงว่าพวกเขาก็คงจะตายอย่างอนาถไปนานแล้ว

พลังแข็งแกร่งมาก

เป็นใคร เป็นใครที่ช่วยพวกเขาสองคนออกไป?

คนทุกไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าตาของคนที่มาช่วยกู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียนไป

นี่สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นความอัปยศอันใหญ่หลวง

“ไล่ตาม…….”

พวกเขาไม่เชื่อ คนมากมายขนาดนี้ ยังจะสู้ไม่ชนะยอดฝีมือผู้หนึ่ง

พวกเขารู้สึกไม่ยอมยิ่งกว่าที่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์มาถึงมือแล้วก็ลอยออกไปเช่นนี้

เพิ่งจะไล่ตามไปได้ไม่กี่ก้าว องครักษ์ลับชุดดำทะมัดทะแมงก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคน มีเจี่ยงเสวียเป็นผู้นำในการขัดขวางการไล่ตามของบรรดาผู้คนไว้

เพียงแต่เจี่ยงเสวียปิดหน้าไว้ จึงไม่มีคนจำได้เลย

“อยากฆ่าพวกเขาทั้งสอง ก็ผ่านด่านของพวกเราไปให้ได้ก่อน”

“พวกเจ้าเป็นใคร ทำไมต้องช่วยนาง”

“ไม่จำเป็นต้องรายงาน”

“บังอาจ พวกเจ้าอยากจะล่วงเกินทุกพรรคทุกสำนักของแคว้นปิงหรือ?”

“หึ….” เจี่ยงเสวียหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง ไม่ได้พูดจา เพียงแค่ยืดหลังตรง พร้อมทำศึกใหญ่

ไป๋หลี่ป้ากล่าวอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง “ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร ฆ่าให้หมดไม่เว้น”

ในจวนมู่ เขม่าควันปืนดังขึ้น

เจี่ยงเสวียและคนอื่นๆแต่ละคนล้วนมีวิทยายุทธสูงส่งแข็งแกร่ง ศักยภาพล้วนมากกว่าระดับสาม

ทุกพรรคต่างหวาดกลัว

องครักษ์ลับชุดดำทะมัดทะแมงเหล่านี้ ไม่ว่าคนไหน วางไว้ในยอดฝีมือแคว้นปิงของพวกเขาก็ล้วนเป็นลำดับต้นๆ

แต่พวกเขากลับยอมเป็นแค่องครักษ์ลับเล็กๆ

คนเหล่านี้ออกมาจากที่ไหน?

ทำไมถึงมีความสามารถที่แข็งแกร่งเช่นนี้?

แคว้นปิงมียอดฝีมือมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?

เจ้าบ้านไป๋หลี่ขมวดคิ้ว สั่งการทั้งหมดด้วยตัวเอง แบ่งทหารเป็นสองทาง ทางหนึ่งไล่ฆ่ากู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ อีกทางจัดค่ายกลสังหารองครักษ์ลับชุดดำ

ด้านนอกจวนหมู่

กู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียนถูกดูดเข้าไปในรถม้า

รถม้ากำลังควบไปด้านหน้า ด้วยความเร็วเหมือนดั่งเหาะ

คนขับรถม้าสะบัดบังเหียนไม่หยุด มองไปทางด้านหลังด้วยความร้อนใจอยู่บ่อยๆ

ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ด้านหลัง

ทั้งสองลืมตาขึ้น และสิ่งที่พวกเขาเห็นคือชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์สวมหน้ากากผี นั่งอยู่บนรถเข็นผู้หนึ่ง

เมื่อเห็นว่าเป็นเย่จิ่งหาน เซียวหยู่เซวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาอาศัยลมหายใจเพียงอึดเดียวยืนหยัดไว้

ตอนนี้ลมหายใจนั้นไม่มีแล้ว เซียวหยู่เซวียนยืนหยัดไม่ได้อีกต่อไป ลมปราณก็ลดลงไปโดยสมบูรณ์

ลมปราณของกู้ชูหน่วนอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสหนักเกินไป

เย่จิ่งหานขมวดคิ้ว ประคองทั้งสองคนขึ้นมา เอามือซ้ายขวาวางไว้บนหลังของพวกเขา ถ่ายกำลังภายในให้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มลมปราณให้พวกเขา เพื่อรักษาชีวิต

“ไป…….”

ในยามค่ำคืนอันมืดมิด เสียงควบรถม้าบนภูเขาร้างชัดเจนเป็นพิเศษ