นิยาย เทพปีศาจหวนคืน เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2040 ปากชิง

 

บนท้องฟ้า

 

วังมังกรติดอยู่ในวังวนแสงสีดํา มันพยายามต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงจากภายนอกอย่างเต็ม

 

ความสามารถ

 

เหลืออสูรปีแรกกําเนิดเพียงสามตัวที่อยู่ในการควบคุมของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ส่วนที่เหลือ พวกมันพ่ายแพ้ต่อวังมังกรและกลายเป็นซากศพร่วงหล่นลงไปด้านล่างและทําลายล้างภูเขาในบริเวณใกล้เคียง ไม่มีผู้ใดใส่ใจกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ธรรมดาเช่นหวังเซียวเอ๋อ

 

อสูรปีแรกกําเนิดสามตัวที่เหลือฟื้นคืนสติหลังจากควันสีดําจางหายไปพวกมันพุ่งเข้าต่อสู้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณอีกครั้ง

 

แต่อู่ส่วยยังหนักใจ

 

อสูรปีแรกกําเนิดเหล่านี้ถูกรวบรวมมาโดยฟางหยวนเพื่อพยายามฟื้นฟูสนามรบสิบสองราศีแต่ในช่วงเวลาสําคัญพวกมันกลับถูกใช้และเสียสละตัวเองในการต่อสู้

 

อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจิตวิญญาณยังสามารถควบคุมสถานการณ์โดยไม่แม้แต่จะเสียเหงื่อ

 

อส่วยกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ “ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะทนได้นานเท่าใด?”

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วแน่น ฝ่ายตรงข้ามคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ ตอนนี้เขาพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาเสถียรภาพ แต่หมื่นภัยพิบัติกําลังทําลายล้างมิติช่องว่างจักรพรรดิในระยะเวลาเพียง สั้นๆ ภาคใต้น้อยก็สูญเสียแหล่งทรัพยากรจํานวนมากไปแล้ว

 

ปัญหาที่ใหญ่กว่าก็คือแม้ฟางหยวนจะยอมสละส่วนหนึ่งของมิติช่องว่างจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้เพราะมันเกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ มันสามารถเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ

 

ทันใดนั้นดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ส่องประกายขึ้น เขาหยุดโจมตีวังมังกรและมองไปทางอื่น

 

จดสีดําค่อยๆปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของเขา

 

ในไม่ช้าจุดสีดําก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น

 

มันคือชิงโจว!

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเผยรอยยิ้มเย็นชา “เนื่องจากเจ้ามาที่นี่เพื่อรนหาที่ตายเช่นนั้นข้าก็จะทําให้เจ้าสมปรารถนา”

 

แต่ในเวลาต่อมาชิงโจวกลับอ้าปากของมันและปรากฏหลุมดําอยู่ภายใน

 

ท่าไม้ตายอมตะปากชิง!

 

หลุมดําพุ่งเข้ากลืนกินเทพปีศาจจิตวิญญาณในครั้งเดียว จากนั้นชิงโจวก็ปิดปากของมันแต่สามารถมองเห็นก้อนทรงกลมไหลผ่านล่าคออสรพิษก่อนจะเข้าสู่ท้องของมัน

 

“โอกาสที่ดี!” ดวงตาของอู่ส่วยส่องประกายสว่างไสว

 

“ท่าไม้ตายนี้ถูกทิ้งไว้เพื่อจัดการเจ้า!” ชิงโจวคารามเสียงดังด้วยความยินดีหลังจากที่มันสามารถกลืนเทพปีศาจจิตวิญญาณเข้าไป

 

ความทรงจําผุดขึ้นในใจของมันอีกครั้ง

 

“กระไรนะ!? สามผู้อมตะระดับเจ็ดที่เราส่งไปถูกหมิงโหย่วฆ่าตายงั้นหรือ?”

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

“แต่นั่นคือความจริง หมิงโหย่วแสรั้งอ่อนแอและได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา เขาล่อลวงให้สามผู้อมตะของเราออกไล่ล่าขณะที่เขาซุ่มโจมตีและปิดฉากการต่อสู้อย่างไร้ยางอายด้วยความประมาทสามผู้อมตะของเราจึงเสียชีวิต”

 

ห้องโถงของตระกูลชิงตกสู่ความเงียบ

 

พวกเขาต้องการกู้คืนชื่อเสียงแต่กลับสูญเสียผู้อมตะระดับเจ็ดถึงสามคน

 

นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สําหรับตระกูลชิง มันทําให้รากฐานของพวกเขาสั่นสะเทือน

 

“หมิงโหย่ว เจ้าสมควรตาย! เราประมาทเกินไป นี่เป็นบทเรียนราคาแพง เราต้องจดจํามันไว้และส่งต่อไปยังชนรุ่นหลังข้าจะจัดการกับเขาด้วยตนเอง!”ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลซึ่งกล่าว

 

กลุ่มผู้อมตะเงียบ ไม่มีผู้ใดคัดค้าน

 

การส่งผู้อมตะระดับแปดออกไปจัดการผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นหมิงโหย่วไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจแต่ตระกูลชิงไม่สามารถพ่ายแพ้ได้อีก กองกําลังทั้งหมดของทะเลทรายตะวันตกกําลังเฝ้ามองพวกเขาอยู่

 

อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงกําลังจะออกเดินทางเขากลับได้รับจดหมายท้าทาย

 

จดหมายฉบับนี้มาจากหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของทะเลทรายตะวันตกซึ่งเป็นศัตรูของตระกูลชิงพวกเขาต้องการต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงและใช้ผลการต่อสู้ครั้งนี้ตัดสิ้นอาณาเขตของพวกเขา

 

“บัดซบ! นี่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ!” ผู้อมตะของตระกูลชิงตะโกนด้วยความไม่พอใจ

 

“พวกเขาจงใจทําสิ่งนี้ แต่อาณาเขตคาบเกี่ยวในปัจจุบันเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีค่ามากเกินไปเราต้องคิดให้ดี”ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงลังเล

 

“ข้าจะไปจบชีวิตหมิงโหย่ว!” ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่สองของตระกูลชิงลุกขึ้น“เจ้า?”ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งลังเล

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าอาจเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่หมิงโหย่วได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาต้องพักฟื้น เราเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเขาแล้วแม่วิธีการของเขาจะแปลกประหลาด แต่ส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณนอกจากนี้ข้าก็มีท่าไม้ตายอมตะที่เรียกว่าปากชิงข้าได้รับแรงบันดาลจากภูตราชสีห์ มันสามารถกลืนกินดวงวิญญาณทุกคนอย่ากังวลข้าสามารถจบชีวิตผู้อมตะภาคใต้ผู้นี้!”

 

“เช่นนั้นก็ไปเถอะ ระวังตัวด้วย” ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งพยักหน้า

 

“เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองลงมือด้วยตนเอง เราจะประสบความสําเร็จอย่างแน่นอน!”

 

“หมิงโหย่วจะต้องตายอย่างแน่นอน ปัญหาของเรามีเพียงจดหมายท้าทายฉบับนี้!”“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งท่านต้องล้างแค้นให้ชิงชั่วหลานและคนอื่นๆ !”

 

ความทรงจําของชิงโจวหยุดอยู่ตรงนี้

 

“ในที่สุดข้าก็สามารถแก้แค้นให้กับทุกคน!” ชิงโจวหลั่งน้ําตาออกมาจากดวงตาสีแดงของมัน

 

การแก้แค้นทําให้มันรู้สึกโล่งใจและได้รับอิสระ “ภาพที่คุ้นเคย…” เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวออกมาจากท้องของชิงโจว

 

ร่างของชิงโจวกลายเป็นแข็งค้าง

 

ต่อมามันรู้สึกขมขื่น

 

มันเป็นความขมขื่นที่ไม่สามารถอธิบายและไม่สามารถต้านทาน

 

“อา…” ใบหน้าของชิงโจวกลายเป็นซีดขาว มันปิดปากและอดทนต่อความรู้สึกอยากอาเจียน

 

แต่รสชาติแห่งความขมขึ้นกลับทําให้ความอดทนของมันพังทลายลง

 

ชิงโจวคํารามด้วยความเจ็บปวดและร่วงลงจากท้องฟ้า

 

ขณะที่มันกําลังตกลงไป มันเริ่มรู้สึกหิว

 

ราวกับท้องของมันว่างเปล่า มันรู้สึกถึงความสูญเสียราวกับร่างกายของมันสูญหายไปทั้งหมด

 

“ตอนนี้เจ้าคงรู้แล้วว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลชิงตายอย่างไร? แท้จริงแล้วข้าจงใจรับท่าไม้ตายอมตะปากชิงเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงมั่นใจนัก? ฮ่าฮ่าฮ่า”เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะมาจากท้องของชิงโจว

 

นานมาแล้วเมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาญยังเยาว์ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับผู้อมตะตระกูลชิงของทะเลทรายตะวันตก

 

หมิงโย่วเคยพบกับภูตราชสีห์และพ่ายแพ้มัน

 

“เป็นไปไม่ได้เส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่ข้าสร้างขึ้นไม่สามารถเอาชนะภูตราชสีห์ตัวนี้แม้มันจะเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิด แต่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าไม่ได้อ่อนแอ!”

 

หมิงโหย่วล้มลงบนพื้น เขามองภูตราชสีห์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อและไม่พอใจต่อมาภูตราชสีห์ก็เปิดปากที่กระหายเลือดของมันและกัดขาของหมิงโหย่ว

 

“อ๊าก…”

 

หมิงโหย่วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากสูญเสียขาขวา เลือดก็ไหลออกมาจากบาดแผลเขาบิดตัวไปมาอยู่บนพื้นและทําให้พื้นดินที่อยู่รอบๆถูกอาบย้อนไปด้วยเลือดภูตราชสีห์กลืนขาขวาของหมิงโหย่วเข้าไปก่อนจะใช้กรงเล็บกดร่างของหมิงโหย่วเอาไว้ ไม่ว่าหมิงโหย่วจะดิ้นรนอย่างไรเขาก็ไม่สามารถต่อต้านพละกําลังของภูตราชสีห์

 

ภตราชสีห์กัมศีรษะลงและกัดแขนซ้ายของหมิงโหย่วก่อนจะกลืนลงท้อง

 

หมิงโหย่วกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง เขาแทบหมดสติจากความเจ็บปวด

 

จากนั้นแขนซ้ายของเขาก็ถูกฉีกออกอย่างแรงและเผยให้เห็นกระดูกสีขาว

 

หมิงโหย่วดิ้นรนใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแต่มันกลับไร้ประโยชน์ต่อภูตราชสีห์ภูตราชสีห์หมดความอดทน มันเปิดปากและกินร่างของหมิงโหย่วเข้าไปทั้งหมดมันเริ่มเคี้ยว

 

ร่างของหมิงโหย่วถูกสับ กระดูกของเขาแตกเป็นเสียงๆ สมองของเขาถูกบดทําลายหมิงโหยวกลายเป็นเนื้อบดและถูกกลืนลงไปในท้องของภูตราชสีห์

 

อย่างไรก็ตามภูตราชสีห์ไม่สามารถย่อยร่างกายมนุษย์ มันกินดวงวิญญาณเป็นอาหารเท่านั้น

 

ดวงวิญญาณของหมิงโหย่วไม่สามารถหลบหนีจากภูตราชสีห์ เขาถูกกรดในกระเพาะอาหารของมันกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว

 

ดวงวิญญาณของหมิงโหย่วสันสะท้านอย่างรุนแรง เขาตระหนักถึงความตายที่ใกล้เข้ามา

 

“ข้าจะตายงั้นหรือ?”

 

“ตายในปากของสัตว์อสูรมั้นหรือ?”

 

“บัดซบ!

 

“ข้ายังอ่อนแอเกินไป

 

“ข้ายังทําได้ดีกว่านี้ ข้าต้องสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ…

 

แต่วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาถูกตอบโต่โดยภูตราชสีห์ สัตว์อสูรแรกกําเนิดตัวนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของหมิงโหย่ว

 

“ข้าจะตายอยู่ที่นี่ไม่ได้ ข้าไม่ยอมรับผลลัพธ์นี้!”

 

“มันต้องมีวิธี!”

 

“มิติช่องว่างของข้ายังอยู่ในกายเนื้อของข้า มันยังอยู่ วิญญาณของข้ายังอยู่เช่นกันแต่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่มีประโยชน์ที่นี่ ข้าต้องใช้วิธีบนเส้นทางอาหาร!”

 

แต่ท่าไม้ตายบนเส้นทางอาหารของเขาไม่สามารถต่อต้านภูตราชสีห์ มิฉะนั้นเขาจะไม่จบลงในสภาพนี้

 

“หากท่าไม้ตายบนเส้นทางอาหารที่มีไร้ประโยชน์ ข้าก็จะสร้างท่าไม้ตายบนเส้นทางอาหารท่าใหม่!”

 

นี่เป็นเพียงความคิดของหมิงโหย่ว แต่มันเป็นความหวังเดียวของเขา

 

หมิงโหย่วไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ของวิธีนี้ เขาเพียงตั้งใจทําตามความคิดของเขาเท่านั้น

 

เขาไม่เคยมีสมาธิกับสิ่งใดเท่ากับสิ่งนี้มาก่อน

 

ดวงวิญญาณของเขาก่าลังถูกกัดเซาะ มันหดเล็กลงเรื่อยๆ

 

ความคิดของเขาช้าลงเช่นกัน

 

สุดท้ายเขาแทบไม่สามารถคิดได้อีกต่อไป

 

“ข้า…ไม่…ยอมแพ้…

 

ข้าต้องคิด…ถูกต้อง…ตํานานมนุษย์คนแรก…

 

“มนุษย์คนแรกก็ถูกกินเช่นกัน