บทที่ 2041 กินความขมขืนกลืนความสูญเสีย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

นิยาย เทพปีศาจหวนคืน เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2041 กินความขมขืนกลืนความสูญเสีย

 

ตํานานมนุษย์คนแรก

 

มนุษย์คนแรกเดินทางต่อไป ไม่นานเขาก็พบฝูงสัตว์ร้ายที่เรียกว่าสถานการณ์เลวร้าย

 

วิญญาณความเข้มแข็งอยู่ในร่างกายของสัตว์ร้าย มันหัวเราะ “มนุษย์ ข้ากลับมาอีกครั้งคราวนี้ข้ามีผู้ช่วยมาดูกันว่าเจ้าจะทําสิ่งใดได้บ้าง!”

 

มนุษย์คนแรกหยุดเดิน แม้เขาจะพบสถานการณ์เลวร้ายแต่เขาไม่หวั่นไหว

 

นานมาแล้วมนุษย์คนแรกเคยถูกฝูงสัตว์ร้ายไล่ล่า เขาหลบหนีและพบกับวิญญาณแห่งความหวังสุดท้ายฝูงสัตว์ร้ายที่หวาดกลัวแสงแห่งความหวังต้องหลบหนีด้วยความตื่นตระหนก

 

“วิญญาณแห่งความหวัง ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”

 

มนุษย์คนแรกเรียกวิญญาณแห่งความหวังแต่แสงแห่งความหวังไม่ได้ทําให้ฝูงสัตว์ร้ายเหล่านี้หวาดกลัว

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” วิญญาณความเข้มแข็งหัวเราะ “มนุษย์ สัตว์ร้ายเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือจากข้ามันเป็นสัตว์ร้ายที่เข้มแข็งที่สุดที่เจ้าเคยพบมาอย่างแน่นอนเพียงวิญญาณแห่งความหวังจะสามารถเอาชนะพวกมันได้อย่างไร?”

 

มนุษย์คนแรกไม่สามารถหาวิธีอื่น

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่วิญญาณความอ่อนแอที่ใช้มนุษย์คนแรกเป็นโล่ป้องกันตัวเองกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา“มนุษย์ ขอบคุณที่ปกป้องข้าอย่ากังวลข้ามีความคิดมาทําให้ฝูงสัตว์ร้ายเหล่านี้หวาดกลัวกันเถอะ”

 

“เจ้าจะขู่พวกมันงั้นหรือ?”

 

วิญญาณความอ่อนแอส่ายศีรษะ “มนุษย์ แม้แต่สิ่งที่อ่อนแอเช่นข้าก็ยังมีวิธีเอาตัวรอดจากผู้ที่อยากกินหรือรังแกข้าข้ามักปลอมตัวเพื่อให้คนอื่นๆคิดว่าข้าแข็งแกร่งเสมอ”

 

“โลกนี้ให้ความสําคัญกับความแข็งแกร่ง แม้เราจะอ่อนแอ แต่เราสามารถปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมิฉะนั้นเราจะถูกรังแก”

 

“มนุษย์ เจ้าทําได้ ไม่ใช่ว่าเจ้ามีวิญญาณความหวาดกลัวงั้นหรือ? ไม่ใช่ว่าวิญญาณทัศนคติอยู่บนใบหน้าของเจ้างั้นหรือ?”

 

มนุษย์คนแรกตัดสินใจทดลอง

 

แรกเริ่มเขาใช้วิญญาณทัศนคติเผยให้เห็นฟันอันแหลมคมและท่าทางที่ดุร้ายต่อมาเขาใช้วิญญาณความหวาดกลัวเพื่อทําให้ฝูงสัตว์ร้ายรู้สึกหวาดกลัว

 

แต่มนุษย์คนแรกกลับรู้สึกมึนงง “เหตุใดเราไม่สามารถขับไล่พวกมัน?”

 

วิญญาณความอ่อนแอกล่าว “พวกมันกระโดดก่อนหน้านี้ นี่หมายความว่าวิธีการของข้าใช้ได้ผลแต่เราต้องพยายามมากขึ้น มนุษย์เหตุใดเจ้าไม่ใส่หน้ากากแห่งทัศนคติเหนือวิญญาณตัวตน? การหลอกลวงที่ดีที่สุดคือการหลอกลวงแม้แต่ตัวเองหากทําเช่นนี้เราน่าจะสามารถหลอกฝูงสัตว์ร้ายเหล่านั้น”

 

วิญญาณความอ่อนแอกล่าวต่อ “ตราบเท่าที่ฝูงสัตว์ร้ายคิดว่าเจ้าแข็งแกร่งพวกมันจะจากไปอย่างแน่นอนนั่นเป็นเพราะสถานการณ์เลวร้ายมักหลีกทางให้ผู้แข็งแกร่งเสมอ”

 

มนุษย์คนแรกถอดหน้ากากแห่งทัศนคติและใช้มันกับวิญญาณตัวตน

 

อย่างไรก็ตามมันกลับไร้ประโยชน์ฝูงสัตว์ร้ายไม่วิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว

 

มนุษย์คนแรกตระหนักได้ทันที “ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว เมื่อผู้คนเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายการแสดงไม่สามารถแก้ปัญหาที่แท้จริง”

 

วิญญาณความเข้มแข็งหัวเราะ “มนุษย์ หยุดพยายาม มีข้าอยู่ที่นี่เพื่อเตือนพวกมันแล้วเจ้าจะหลอกลวงพวกมันได้อย่างไร? เจ้าไม่ควรปกป้องวิญญาณความอ่อนแอคนอ่อนแอชอบเย้ยหยันและดูถูกผู้อื่นมันมักแสดงความดุร้ายออกมาเพื่อปกปิดความอ่อนแอของมันเอาไว้”

 

มนุษย์คนแรกทําได้เพียงถ่วงเวลาเป็นการชั่วคราว

 

ทันใดนั้นเขาก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นอย่างกะทันหันเขากล่าวกับวิญญาณความเข้มแข็ง “เจ้าบอกว่ากฎแห่งการอยู่รอดคือผู้เข้มแข็งกินผู้อ่อนแอข้าเห็นด้วยแต่เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเจ้าเข้มแข็งขณะที่เราอ่อนแอ?หากเจ้าไม่สามารถพิสูจน์สิ่งนี้เจ้าจะกินพวกเราได้อย่างไร?”

 

วิญญาณความเข้มแข็งมึนงง “มันเป็นเพราะข้าคือวิญญาณความเข้มแข็งและนั่นคือวิญญาณความอ่อนแอ

 

มนุษย์ส่ายศีรษะ “เพียงชื่อของเจ้าไม่สามารถพิสูจน์สิ่งใด นอกจากพวกเจ้าทั้งสองตัวข้าและฝูงสัตว์ร้ายก็อยู่ที่นี่เช่นกัน”

 

วิญญาณความเข้มแข็งเผยรอยยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นข้าก็มีวิธีที่ดีที่จะพิสูจน์เรื่องนี้เราจะกินส่วนหนึ่งของกันและกันผู้ใดที่ไม่สามารถอดทนจนถึงที่สุดจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และสมควรถูกกิน”

 

มนุษย์คนแรกเห็นว่าเขาไม่สามารถถ่วงเวลาได้อีกดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเสี่ยง“ในกรณีนี้เราจะทําเช่นนั้นอย่าเสียใจภายหลัง!แต่ฝ่ายใดจะกินก่อน?”

 

วิญญาณความเข้มแข็งมั่นใจในความเข้มแข็งของมัน มันหัวเราะ “ข้าสามารถให้เจ้ากินก่อน”

 

มนุษย์คนแรกประเมิน ความจริงก็คือเขาไม่เคยกินสัตว์ร้ายเหล่านี้มาก่อน

 

มนุษย์คิดก่อนกล่าว “เช่นนั้นข้าก็จะกินหัวของมันก่อน”

 

ดังนั้นสัตว์ร้ายจึงถอดศีรษะของมันออกมามอบให้มนุษย์คนแรก

 

มนุษย์คนแรกกัดเพียงคําเดียวขณะที่ใบหน้าของเขากลายเป็นบิดเบี้ยวเขาแทบอาเจียนออกมาทันที“ขมมาก!”

 

ปรากฏว่านี่เป็นหัวที่ขมมาก

 

ไม่เพียงเท่านั้น แม้สัตว์ร้ายจะสูญเสียศีรษะของมันไป แต่มันยังมีชีวิตอยู่ล่าคอที่ขาดไม่มีเลือดไหลไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” วิญญาณความเข้มแข็งหัวเราะ “มนุษย์ เจ้าเลือกผิด เพียงกินหัวที่ขมขื่นไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ใดๆยิ่งไปกว่านั้นเจ้าจะสามารถกินมันได้หรือไม่ยังเป็นอีกค่าถามหนึ่งหากเจ้ากินไม่ได้นั่นก็หมายความว่าเจ้าอ่อนแอเจ้าสมควรถูกพวกเรากิน”

 

เปรียบเทียบกับศีรษะของสัตวร้าย ร่างกายของมนุษย์เล็กมาก

 

มนุษย์คนแรกรู้ว่าคํากล่าวของวิญญาณความเข้มแข็งเป็นเรื่องจริง เขาไม่สามารถยอมแพ้หากเขาแพ้ไม่เพียงเขาจะล้มเหลวในการปกป้องวิญญาณความอ่อนแอแต่เขาจะกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายและเสียชีวิต

 

มนุษย์คนแรกทําได้เพียงขมวดคิ้วขณะกัดกินหัวที่ขมขึ้นต่อไป

 

หลังจากกินไปได้สิบคํา มนุษย์คนแรกก็อ้าปากและแทบอาเจียนออกมา

 

วิญญาณแห่งความหวังให้กําลังใจ “มนุษย์ อย่าอาเจียน หากเจ้ากัดฟันทนเจ้าจะสามารถกินมันมนุษย์ไม่เพียงต้องกินอาหารแต่ยังต้องลิ้มลองรสขมอีกด้วย”

 

มนุษย์พยักหน้าและกินต่อไป

 

ผ่านไปครึ่งทาง วิญญาณความหวาดกลัวเริ่มตะโกน “โอ้ สวรรค์ เมื่อใดเราจะกินมันหมด?”

 

มนุษย์คนแรกรู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน

 

วิญญาณความเด็ดเดี่ยวกล่าว “มนุษย์ เจ้าไม่จําเป็นต้องกลัวความขมขึ้นอย่ากลัวความขมขื่นความทุกข์อยู่เพียงชั่วครู่ หากเจ้าเริ่มกลัวความทุกข์เจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต”

 

ด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ในที่สุดมนุษย์คนแรกก็สามารถกินหัวที่ขมขึ้นทั้งหมด

 

มนุษย์เช็ดปากและมองไปยังวิญญาณความเข้มแข็ง “ถึงคราวของเจ้าแล้ว”

 

วิญญาณความเข้มแข็งยิ้ม “เช่นนั้นเราจะกินผิวหนังของเจ้าก่อน” มนุษย์ถลกผิวหนังออกจากร่างของเขาและโยนมันให้สัตว์ร้าย

 

สัตว์ร้ายไม่มีศีรษะ มันยัดผิวหนังของมนุษย์เข้าไปในลําคอโดยตรงผิวหนังของมนุษย์คนแรกถูกกินจนหมดแต่ท้องของสัตว์ร้ายไม่ขยายขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

วิญญาณความเข้มแข็งกล่าวอีกครั้ง “มนุษย์ เจ้าจะกินสิ่งใดต่อไป?”

 

มนุษย์คนแรกรู้สึกไม่สบายใจ เขาพึ่งกินศีรษะของสัตว์ร้ายเข้าไป มันขมมากแม้เขาจะสามารถอดทนต่อการกิน แต่ตอนนี้ท้องของเขาเกือบเต็มแล้ว

 

สาหรับสัตว์ร้าย แม้มันจะไม่มีศีรษะ แต่มันยังมีชีวิตและยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง

 

“ข้าควรกินสิ่งใด? ก่อนหน้านี้ข้ากินเยอะเกินไปท้องของข้าถึงขีดจํากัดแล้วหากข้าต้องกินอีกเป็นจํานวนมากท้องของข้าอาจแตก ข้าอาจตาย!”มนุษย์คนแรกคิดเขาต้องเลือกกินส่วนที่สําคัญที่สุดและเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของสัตว์ร้ายมากที่สุด

 

แต่ส่วนใดของสัตว์ร้ายที่สําคัญที่สุด?

 

หลังจากครุ่นคิด ในที่สุดมนุษย์คนแรกก็เปิดปากกล่าว“ข้าจะกินส่วนที่เจ้าไม่ต้องการให้ข้ากิน”

 

วิญญาณความเข้มแข็งกันเสียงเย็น “เช่นนั้นก็กินของเสีย!”

 

มันน่าความสูญเสียทั้งหมดออกจากร่างกายของสัตว์ร้ายและมอบให้มนุษย์คนแรก

 

ความสูญเสียเหล่านี้ไม่ใหญ่นัก แต่หลังจากสัตว์ร้ายนําความสูญเสียออกมาร่างกายที่ใหญ่โตของมันก็หดเล็กลงอย่างมาก

 

วิญญาณกฎและวิญญาณระเบียบอธิบาย“มนุษย์นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสถานการณ์เลวร้ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนเนื่องจากเจ้ากินหัวที่ขมขึ้นมาก่อนหน้านี้ดังนั้นสถานการณ์เลวร้ายของเจ้าจึงลดลง

 

มนุษย์คนแรกรู้สึกมีความสุข“เยี่ยมแม้ข้าจะกินความสูญเสียทั้งหมดแต่ข้าก็จะไม่รู้สึกอิ่มหรือถึงขีดจํากัด

 

มนุษย์เปิดปากกินความสูญเสียเข้าไป

 

มันเผ็ดมาก!

 

มนุษย์คนแรกไม่สามารถพูดได้ในเวลานี้

 

เขากันต่อ

 

มนุษย์คนแรกอ้าปากหายใจอย่างหนักหน่วง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

 

แต่เขายังกินต่อ

 

ร่างกายของมนุษย์คนแรกเต็มไปด้วยเหงื่อ

 

สิ่งที่น่าอึดอัดใจที่สุดสําหรับมนุษย์คนแรกคือเปลวเพลิงที่กําลังผลิบานขึ้นในหัวใจของเขา

 

ยิ่งกินความสูญเสียมากเท่าใด เปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังก็ยิ่งลกไหม้ขึ้นมากเท่านั้น

 

หัวใจหลายดวงของมนุษย์คนแรกถูกเผาทําลายในไม่ช้า ในจังหวะนี้หัวใจแห่งคุณธรรมก็เติบโตขึ้นในอกของมนุษย์คนแรก

 

เปรียบเทียบกับหัวใจดวงอื่นๆหัวใจแห่งคุณธรรมสามารถอดทนต่อเปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังได้มากที่สุดด้วยการคงอยู่ของหัวใจดวงนี้มนุษย์คนแรกจึงสามารถอดทนต่อมัน

 

มนุษย์คนแรกกินความสูญเสียจนหมด

 

วิญญาณความเข้มแข็งของมนุษย์คนแรกและเผยรอยยิ้มเย็นชา “มนุษย์เจ้าใกล้ถึงขีดจํากัดแล้วตอนนี้เป็นคราวของเราที่จะกิน”

มนุษย์ถาม“เจ้าจะกินสิ่งใด?”

 

วิญญาณความเข้มแข็งกล่าว “ข้าจะกินเนื้อของเจ้า”

 

มนุษย์คนแรกไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากปล่อยให้มันกินเนื้อของเขา

 

ผิวหนังและเนื้อของมนุษย์คนแรกอยู่ในท้องของสัตว์ร้าย ร่างกายของเขาเหลือเพียงกระดูกอวัยวะภายในและเส้นผมเท่านั้น

 

ท่ามกลางความมืดมิดมีเพียงความคิดของหมิงโหย่วที่เป็นแสงแห่งความหวังในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

 

“ข้าทําได้…

 

“มา…มา…

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางอาหาร กินความขมขึ้น!

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางอาหารกลืนความสูญเสีย!

 

ภูตราชสีห์ที่กําลังโบยบินอยู่กลางอากาศกรีดร้องออกมาอย่างกะทันหัน

 

มันพุ่งชนพื้นทรายและสร้างหลุมขนาดใหญ่ภูตราชสีห์ดิ้นรนต่อสู้และกลิ้งตัวไปมาอยู่บนพื้น

 

แต่มันไม่สามารถอดทนต่อความรู้สึกขมขึ้น ขณะเดียวกันเปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังก็เผาทําลายหัวใจของมันอย่างรุนแรง

 

มันรู้ว่าหมิงโหย่วกําลังสร้างปัญหาอยู่ในท้องของมัน ดังนั้นมันจึงแทงกรงเล็บเข้าไปที่ท้องของมันโดยไม่ลังเล

 

หลังจากดิ้นรนอยู่เป็นเวลานาน มันก็ค่อยๆหยุดนิ่ง พลังชีวิตของมันเริ่มสลายไป

 

ดวงวิญญาณของหมิงโหย่วบินออกมาจากรูที่เกิดจากกรงเล็บของภูตราชสีห์พร้อมกับวิญญาณและพลังงานอมตะของเขา

 

“ข้ารอดมาได้จริงๆ” กระทั่งตัวหมิงโหย่วเองก็ไม่คิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้

 

หลังจากพักผ่อนเป็นเวลานาน เขาก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณในวัยเยาว์เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิดและหัวเราะกับตนเอง “ช่างน่าสมเพชนักอย่างไรก็ตามในโลกใบนี้ผู้ใดบ้างที่ไม่เคยต่อสู้ดิ้นรนอยู่หน้าประตูแห่งชีวิตและความตาย?”

 

“ข้าขอสาบาน!” เขาตะโกน “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะต่อสู้ดิ้นรนอยู่หน้าประตูแห่งชีวิตและความตาย!ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมีเพียงข้าเท่านั้นที่จะทําให้ผู้อื่นต้องดิ้นรนต่อสู้อยู่หน้าประตูแห่งชีวิตและความตายห้าภูมิภาคและสองสวรรค์จงเป็นพยานให้ข้า!”

 

ความทรงจําของเทพปีศาจจิตวิญญาณจางหายไป เขากลับมายังปัจจุบัน

 

ตอนนี้ชิงโจวก่าลังกลิ้งอยู่กลางอากาศในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวและอาเจียนเทพปีศาจจิตวิญญาณออกมา

 

ร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณเหมือนภาพหลอนพุ่งไปด้านหลังชิงโจว

 

“จงดิ้นรนต่อสู้อยู่หน้าประตูแห่งชีวิตและความตาย อย่ากังวล ข้าจะไม่ให้พวกเจ้ารู้สึกถึงความหวังที่จะรอดชีวิตแม้เพียงเล็กน้อย!”

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายขึ้น นิ้วทั้งห้าของเขาแทงออกไปด้วยความเร็วสูง

 

ร่างของชิงโจวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พลังของมันถูกดูดออกไปอีกครั้งโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ