อ่างงู!
สมัยโบราณปีศาจหญิงต๋าจี่คิดค้นวิธีการประหารชีวิตที่น่ากลัวออกมาประเภทหนึ่ง น่าขยะแขยงมาก
ข้างล่างสุดของอ่างงู เฉินโม่คิดไม่ถึงว่าจะเห็นศพของถานชิวเซิง!
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดที่อยู่ในใจก็ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด เฉินโม่กระโดดเข้าไปในอ่างงูอย่างรวดเร็ว เหมือนดั่งบุตรมารจุติลงมาบนโลก ชกหมัดอย่างรุนแรง พลังที่น่าสะพรึงกลัวเดือดดาลอยู่ในอ่างงู ทำให้งูพิษทั้งหมดกลายเป็นฝุ่นผง
ถานชิวเซิงในตอนนี้มีใบหน้าที่ไม่อาจจำได้แล้ว ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยที่งูพิษกัด
ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ยังปกติดีอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว!
แม้ว่าจะเป็นชายฉกรรจ์ดั่งเช่นเฉินโม่ ก็ไม่อาจอดกลั้นความเศร้าใจไว้ได้ น้ำตาไหลเป็นทางทั้งสองข้าง
“ตอนนี้แหละ ลุย!” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากนอกอ่างงู
ตาข่ายขนาดใหญ่คลุมไปที่หัวของเฉินโม่ คือตาข่ายผนึกเซียนของสำนักคงต้อง!
เป็นสำนักคงต้องจริง ๆ !
นัยน์ตาของเฉินโม่เต็มไปด้วยเปลวไฟ กระโดดลอยตัวขึ้นไปรับตาข่ายผนึกเซียนด้วยตนเอง มือทั้งสองจับตาข่ายขนาดใหญ่โดยเร็ว ออกแรงดึงครั้งเดียว ตาข่ายผนึกเซียนที่ทรงพลังของโลกแห่งการตรัสรู้ก็ถูกฉีกขาดออกเป็นผงเหมือนกับกระดาษ
เขากระโดดเหนืออ่างงูไป ยืนอยู่กลางอากาศ มองดูสองสามคนที่อยู่ข้างล่างเหมือนดั่งเจ้าปีศาจ พูดด้วยความโกรธเคืองว่า : “พวกคุณต่างก็สมควรตายทั้งสิ้น!”
“ได้โปรดรอเดี๋ยว!”
ในขณะที่เฉินโม่กำลังจะลงมือ ข้างล่างมีผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้นมาทันควันว่า : “ขอบังอาจถามใช่เฉินโม่เฉินไต้ซือ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของรายชื่อเทพหรือไม่?”
“ท่านอาจารย์ เขาก็คือเฉินโม่ การขนานนามกระจอกอะไรของเขานั่น เก่งกว่าท่านและท่านอาอีกสองท่านได้หรือ? วันนี้ฆ่าเขาได้ ท่านอาจารย์ท่านก็จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเลยนะ!”
“ใช่เฉินไต้ซือจริง ๆ ด้วย!” ผู้อาวุโสตกใจจนหน้าถอดสี หันไปมองศิษย์น้องที่ตนรักที่สุดด้วยความโกรธเคือง ตะคอกว่า : “แกนี่มันไอ้ชั่ว บังอาจทำให้เฉินไต้ซือขุ่นเคือง! วางแผนให้สำนักคงต้องเป็นปรปักษ์กับเฉินไต้ซือ! ไม่อาจยกโทษให้จริง ๆ! ”
“เฉินไต้ซืออย่าโกรธเคืองเลย! ผมกับศิษย์น้องเราทั้งสามคนถูกคนชั่วคนนี้หลอกมา ไม่รู้เลยว่าไอ้ชั่วคนนี้บังอาจหาญกล้าทำเรื่องที่เลวร้ายขนาดนี้ได้ลง!” ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งคุกเข่าลงต่อหน้าเฉินโม่ทันที ร้องไห้โฮออกมา
“ผมจะฆ่าแกไอ้ชั่ว!” ผู้อาวุโสตบศิษย์น้อง ตบครั้งเดียวหน้าอกแตกเป็นผง แม้คำร้องขอชีวิตก็ยังไม่ทันได้พูดออกมา
ศิษย์น้องอีกคนหนึ่งถูกท่าทางของท่านอาจารย์และท่านอาทำให้ตกใจจนสั่นไปหมดทั้งตัว เห็นศิษย์พี่โดนท่านอาจารย์ตบตายเพิ่งจะสำนึกขึ้นมาได้ว่าต้องวิ่ง
ผู้อาวุโสคนที่สามขยับร่างอย่างเร็วรวด ไม่ทันไรก็ไปยืนดักทางอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว มือที่ใหญ่โตจับไปที่หัวของเขา ออกแรงอย่างรุนแรง ทันใดนั้นหัวของศิษย์น้องก็แตกละเอียดราวกับแตงโม เลือดและมันสมองเปื้อนเต็มพื้น
ผู้อาวุโสทั้งสามท่านคุกเข่าลงเป็นแถว ขอร้องอ้อนวอนต่อเฉินโม่ : “ได้โปรดเฉินไต้ซือไว้ชีวิตผมทั้งสาม ผมทั้งสามยอมจับผู้ที่บงการทำร้ายสหายมามอบให้แก่ไต้ซือ!”
“ใคร!” เฉินโม่ถามด้วยเสียงแข็ง
“คะ……คือหยางหมิงหยู่ตระกูลหยาง!” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูดเสียงสั่นเครือ
“หยางหมิงหยู่!” เฉินโม่เงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า ตะคอกว่า : “ฉันจะฆ่าแก!”
ทันใดนั้นเฉินโม่โกรธเคืองอย่างมาก ถ้าเมื่อวานฆ่าหยางหมิงหยูเสีย ถานชิวเซิงจะเสียชีวิตด้วยเหตุนี้ได้อย่างไร!
ต้องโทษตัวเอง! ต้องโทษตัวเอง! ต้องโทษตัวเอง!
ในขณะนี้นี่เอง ผู้อาวุโสทั้งสามที่อยู่ข้างล่างล้มลงไปกับพื้นทันที กะอักเลือดออกมาไม่หยุด กระตุกไปทั้งร่างกาย หนึ่งในนั้นชี้ไปที่กำแพงหินพูดตะกุกตะกักว่า : “ในชา……มะ……มีพิษ!”
พูดจบ ทั้งสามก็เสียชีวิตในทันที
“อ๊า !!! ” ฝ่ามือทั้งสองของเฉินโม่ตบไปที่กำแพงหิน ทันใดนั้นกระแสลมที่โกลาหลและน่ากลัวเดือดดาลไปทั่วทั้งห้องหิน กำแพงหินที่หนาเป็นนิ้วตกลงมาเป็นเศษๆ มีเสียงดังกึกก้องดังขึ้นเป็นระยะ ๆ แสงไฟทางเดินหินและในห้องหินทั้งหมดดับลงในพริบตา
หลังกำแพงหินที่มืดมิด มีเพียงแสงจากน้ำมันตะเกียงพลิ้วไหวอยู่
เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้น “เฉินไต้ซืออันดับหนึ่งของรายชื่อเทพ? วันนี้ขอให้ภูตผีอย่างผมมาพบปะกับนายสักหน่อย ฮิ ๆ ๆ ……”