ก่อนหน้านี้กวนหลิงอู่ได้ทำใจเอาไว้แล้วว่าชีวิตนี้เขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้ก้าวไปเป็นผู้สร้างเต๋าแน่นอน แต่แล้วในตอนนี้เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดกับเขาว่าเขาจะได้ก้าวไปถึงขั้นนั้นแน่นอน จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงและดวงใจเต๋าของเขาก็มั่นคงขึ้นกว่าเดิม
ตอนนี้เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าโอกาสที่เขาไม่เคยมีมาก่อนมันเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นแล้ว และยุคนี้ก็จะเป็นยุคที่เขามีโอกาสเช่นกัน!
“เจ้าจงติดตามยี่เทียนไปก่อนเพื่อให้ผู้คนธรรมดาทั่วไปรู้จักชื่อเสียงของเจ้ามากยิ่งขึ้น และเมื่อผสมรวมกับคุณงามความดีที่เจ้าอุทิศตัวให้กับราชันแห่งมวลมนุษย์ มันจะช่วยให้เจ้าสำเร็จเต๋าของเจ้าเองได้ง่ายขึ้น” หลิงตู้ฉิงชี้แนะ
“ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของนายท่าน!” กวนหลิงอู่ตอบกลับด้วยความซาบซึ้ง
หลังจากนั้นกวนหลิงอู่จึงไปหาหลิงยี่เทียนทันที และประกาศตัวว่าเขาจะอยู่ภายใต้คำสั่งของหลิงยี่เทียนอย่างสมบูรณ์ และเขายังจะให้คนของเขาเข้าร่วมกับกองทัพของอาณาจักรจันทราเหมือนกับภูเขาฟีนิกซ์ที่ได้เคยประกาศไว้
จากนั้นเหล่าตัวตนเก่าแก่ทั้งหลายก็เริ่มปรากฏกายและเข้าไปพบกับหลิงยี่เทียนทีละคน ๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วการพบกับหลิงยี่เทียนนั้นเป็นเพียงข้ออ้างของเหล่าตาเฒ่าพวกนั้นต่างหาก เพราะในความเป็นจริงพวกเขาทั้งหมดต่างแอบไปพบกับหลิงตู้ฉิงอย่างลับ ๆ กันทั้งหมด
บรรดาผู้คนที่ไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงต่างก็อดไม่ได้ที่จะสรรเสริญราชันแห่งมวลมนุษย์คนใหม่ที่มีบารมีมากถึงขนาดที่ทำให้เหล่าตัวตนเก่าแก่ที่ไม่โผล่หน้ามานานนับหมื่นปีหลายคนปรากฏกายขึ้นมาเข้าเฝ้าได้ ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาพวกที่รู้ว่าเรื่องจริงมันคืออะไรก็ได้แต่แอบยิ้มเยาะเหล่าพวกคนที่ไม่รู้อยู่ในใจ
ท้ายที่สุดการพบกันอย่างลับ ๆ นี้กินเวลาถึง 6 เดือนจึงจะจบสิ้น หลังจากนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับไปยังถิ่นที่พำนักของตัวเอง ซึ่งทางด้านของหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเขาก็เตรียมการที่จะออกเดินทางไปที่สำนักเที่ยงธรรมแล้วเช่นกัน
ในตอนแรกกวนหลิงอู่ก็อยากจะติดตามไปด้วยเช่นกัน แต่ด้วยตัวตนของเขาที่มันดึงดูดความสนใจมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจะต้องกลับไปที่สำนักของเขาเองก่อน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะถึงแม้ว่าเขาจะประกาศไปแล้วว่าเขาจะยอมอยู่ใต้อาณัติของหลิงยี่เทียน แต่ด้วยบารมีและชื่อเสียงที่ยังคงห่างชั้นกันอยู่มันจึงยังคงเป็นเรื่องที่ดูไม่ปกติอยู่ดีหากเขาจะตามหลิงยี่เทียนต้อย ๆ ไปทุกทีโดยที่ไม่มีคนสงสัย
การไปครั้งนี้ หลงเฉินและเสี่ยวเยว่เฟิง ซึ่งรู้แล้วว่าหลิงตู้ฉิงอยู่ที่ไหนพวกเขาก็รีบตามมาในทันที เพื่อทำหน้าที่เดิมของพวกเขาก็คือลากรถมังกร
ส่วนหลิงว่านจุนก็พากองทัพมังกรทั้ง 20,000 นายของเขาไปด้วยพร้อม ๆ กับซวนหยวนตู่และเหล่าภูติดินขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีกหลายตน
ทางด้านของฟู่เซียนก็ตามไปด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องปกป้องราชันแห่งมวลมนุษย์คนใหม่ของเขา
ไม่นานหลังจากที่ทุกคนออกเดินทาง หลิงยี่เทียนก็พูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ ข้าจำเป็นต้องบ่มเพาะสักพักในระหว่างเดินทาง”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เจ้านั่งลงบ่มเพาะได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าใครจะรบกวนเจ้า”
ในเวลานี้เนื่องจากข่าวเรื่องที่เขาได้เป็นราชันแห่งมวลมนุษย์ได้แพร่กระจายออกไปแล้ว มันจึงส่งผลให้มนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนรู้ว่าพวกเขาควรจงรักภักดีต่อใครและเป็นผลทำให้พลังแห่งความศรัทธาจำนวนมหาศาลที่มาจากมนุษย์เหล่านั้นหลั่งไหลเข้าไปในร่างของหลิงยี่เทียนอย่างต่อเนื่อง
พลังแห่งความศรัทธาจำนวนมหาศาลนี้ หลิงยี่เทียนได้นำพวกมันมาขัดเกลาผลึกดวงใจสวรรค์ทั้งหมด
ทางด้านของฟู่เซียนในตอนแรกเขาก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน เพราะเขาสัมผัสได้ว่าพลังแห่งความศรัทธาที่หลั่งไหลเข้าไปในหลิงยี่เทียนมันมหาศาลเกินไปจนเขาคิดว่ามันอาจเป็นปัญหาได้ แต่ต่อมาเมื่อเขาเห็นว่าหลิงยี่เทียนสามารถดูดซับพวกมันได้อย่างง่ายดาย เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับรู้สึกสงสัยในใจว่า หลิงยี่เทียนนั้นต้องมีอะไรสักอย่างคอยเกื้อหนุนอยู่
ในทางกลับกัน หวงซีที่สัมผัสได้เช่นเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ทำไมข้าถึงรู้สึกได้ว่าเขาค่อนข้างแปลกประหลาด?”
“เขามีสมบัติที่ไม่เหมือนใครอยู่ในร่างน่ะ” หลิงตู้ฉิงตอบกลับแบบอ้อม ๆ เนื่องจากเขาคิดว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะให้คนอื่น ๆ รู้ความลับของหลิงยี่เทียนในเวลานี้
จากนั้นเมื่อพวกเขาเดินทางไปเรื่อย ๆ จนเห็นสำนักเที่ยงธรรมอยู่ในระยะสายตา จู่ ๆ คลื่นพลังวิญญาณอันผันผวนรุนแรงก็ปะทุขึ้นไม่ห่างจากพวกเขา ซึ่งส่งผลให้ซวนหยวนตู่ ฟู่เซียนและผู้เชี่ยวขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตัวกันในทันที
จากนั้นแค่เวลาชั่วพริบตา ร่างของปีศาจสวรรค์ขนาดมหึมาที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดก็ปรากฏกายขึ้นขวางทางพวกเขาเอาไว้
หลิงตู้ฉิงที่เห็นสีหน้าของทุกคนที่กำลังตื่นตัวสุดขีด เขาโบกมือและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล นางไม่ได้มาร้าย นางแค่มาส่งลูกชายอีกคนของข้าเท่านั้น”
แค่เพียงหลิงตู้ฉิงเห็นร่างของปีศาจสวรรค์ เขาก็รู้ได้ทันทีว่านางคือราชาเทพมารหกปรารถนา ซึ่งมาที่นี่เพราะว่ามาส่งหลิงเทียนหยุน
ราชาเทพมารหกปรารถนาค่อย ๆ ร่อนมาตรงหน้ารถมังกรของหลิงตู้ฉิง จากนั้นหลิงเทียนหยุนก็กระโดดออกจากหลังของนางไปยังรถมังกร
“คารวะท่านพ่อและท่านแม่! ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่นึกเลยว่าข้าจะทันได้มาเจอพวกท่านก่อนที่จะเข้าไปในสำนักเที่ยงธรรมแบบนี้ เป็นไงบ้างน้องสี่น้องหก พวกเจ้าสบายดีไหม!” หลิงเทียนหยุนหัวเราะ
ราชาเทพมารหกปรารถนากลายร่างของนางเป็นหญิงสาวเผ่ามนุษย์ ก่อนที่นางจะลอยเข้ามาหาหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “พี่เขย พี่สาวของข้าได้ฝากคำถามมาว่าท่านพอใจกับการจัดการของนางที่ทำให้กับท่านที่อาณาเขตหนานหัวหรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเหนื่อยใจและตอบกลับว่า “อืม ข้าพอใจ!”
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะสามารถจัดการกับปัญหาในเรื่องความปรารถนาทั้งหกของเขาได้แล้ว แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกร็ง ๆ ต่อราชาเทพมารหกปรารถนาผู้นี้อยู่ดี
ราชาเทพมารหกปรารถนายิ้มอย่างอ่อนหวาน และพูดว่า “ข้าและพี่สาวของข้าดีใจที่ท่านพึงพอใจ! ตอนนี้ข้าได้กลายเป็นสาวใช้ของพี่สาวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในอนาคตข้าและพี่สาวของข้าจะแต่งงานกับท่านพร้อม ๆ กัน ข้าหวังว่าท่านจะทะนุถนอมข้าเหมือนกับที่ท่านปฏิบัติต่อพี่สาวของข้าด้วย”
“ส่วนเรื่องเทียนหยุน ในตอนนี้เขายังคงฝึกไม่สำเร็จ แต่เป็นเพราะเรื่องของสำนักเที่ยงธรรมนั้นสำคัญกับเขามากเกินไป ดังนั้นพี่สาวจึงอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เขาได้ออกมาจัดการธุระที่นี่ให้เสร็จ ซึ่งหลังจากที่เสร็จธุระที่นี่แล้ว ข้าจำเป็นต้องพาเทียนหยุนกลับไปฝึกฝนต่อทันที และสุดท้ายนี้พี่สาวยังฝากบอกมาอีกว่าในตอนนี้นางนั้นรู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยวใจเป็นอย่างมาก นางอยากจะให้ท่านรีบ ๆ ไปหานางให้เร็วที่สุดเพื่อให้ความอบอุ่นแก่นาง”
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที “เอาไว้เดี๋ยวข้าเสร็จธุระทั้งหมดข้าจะไปหานางแน่นอน!”
ราชาเทพมารหกปรารถนาพยักหน้าด้วยสีหน้าเบิกบาน จากนั้นนางพูดว่า “พี่เขย ข้านั้นยังคงไม่มีชื่อ แต่ถ้าท่านไม่รังเกียจ ท่านสามารถเรียกข้าว่า เสี่ยวลิ่ว*ก็ได้!”
* ลิ่ว(六) ในที่นี้หมายถึง หก
“ได้ได้ได้ ข้าเรียกเจ้าว่าเสี่ยวลิ่วก็แล้วกัน เอาล่ะถ้าไม่มีอะไรแล้วเจ้าก็มายืนข้าง ๆ ข้าและอยู่อย่างเงียบ ๆ และอย่าแผ่อำนาจของเจ้ามั่วซั่วเด็ดขาด” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดขึ้น
ถึงแม้ว่าทักษะของราชาเทพมารหกปรารถนาจะไม่มีผลอะไรกับเขาแล้ว แต่สำหรับคนอื่นมันเป็นทักษะที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก และแทบไม่มีทางจะต่อต้านได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป้นต้องย้ำเตือนนางเอาไว้ ไม่เช่นนั้นการคัดเลือกมหาปราชญ์ครั้งนี้ของสำนักเที่ยงธรรมคงจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เหล่าผู้คนจะได้โจษจันกันไปตลอดกาล
ราชาเทพมารหกปรารถนาพยักหน้าอย่างว่าง่าย และร่อนมามายืนอยู่ข้างกายของหลิงตู้ฉิง จากนั้นนางหลับตาไม่สนใจต่อสิ่งรอบกายทั้งหมด
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าราชาเทพมารหกปรารถนาดูจะเชื่อฟังหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี แต่หลงเฉิน อี้ลั่วเอ๋อ และคนอื่น ๆ ที่เคยเห็นอำนาจของนางมาแล้วพวกเขาต่างก็ตื่นตัวสุดขีด เพราะพวกเขารู้ดีว่าหญิงสาวนางนี้นั้นน่ากลัวขนาดไหน พวกเขาไม่กล้าแม้กระทั่งจะมองไปที่ร่างของนางด้วยซ้ำ!