หยางหมิงหยู่กำลังนั่งรอข่าวดีจากภูตผีอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตามคนที่ต้องกำจัดคือเฉินโม่ ในใจของเขาก็มีความกังวลเล็กน้อย แต่ก็มีความสุขและความกระวนกระวายใจที่เกือบจะอดกลั้นไว้ไม่ไหว
ภูตผีคือยอดฝีมือของเผ่าบู๊โบราณ ไม่รู้ว่ามาเจอหยางหมิงหยู่ด้วยวิธีการใด ภูตผีบอกกับหยางหมิงหยู่ว่า เผ่าบู๊โบราณได้ศึกษาค่ายกลมังกรคู่เลือดนับหมื่นมาแล้ว เพื่อรับมือกับเฉินโม่โดยเฉพาะ ต้องการยอดฝีมือแดนเทพเพียงไม่กี่คนก็สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของค่ายกลได้แล้ว
ดังนั้นหยางหมิงหยู่ก็นึกถึงลูกน้องทั้งสองของตนเอง เขาเป็นคนของสำนักคงต้อง จึงมีผู้อาวุโสทั้งสามท่านของสำนักคงต้องมาเยือน เพียงแต่พวกเขาคาดคิดไม่ถึง หยางหมิงหยู่กลับใส่พิษเข้าในน้ำชาให้พวกเขากินในครั้งแรกที่เจอกัน
“เฉินโม่! ผมไม่เชื่อว่าครั้งนี้แกจะไม่ตาย!” หยางหมิงหยู่พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
จินตนาการว่าเฉินโม่มานอนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว หยางหมิงหยู่ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจขึ้นมา นึกถึงหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเฉินโม่สวยสง่างาม หยางหมิงหยู่รู้สึกร้อนไปทั่วทั้งร่างกาย
ไม่รู้ว่าเฉินโม่โชคดีอะไรหนักหนา หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมจำนวนมากมายวนเวียนอยู่รอบตัวเขา เกาะติดแน่นหนึบสะบัดยังไงก็สะบัดไม่หลุด แต่ว่ามีเพียงเฉินโม่ที่อยากสะบัดหญิงสาวเหล่านั้นออกไป ถ้าเป็นตนละก็ยอมตายกลางอกของหญิงสาว
เมื่อพูดถึงความอ่อนละมุนของหญิงสาวก็นึกถึงชุ่ยฮัวเอ๋อร์ขึ้นมา คนนั้นมีลีลาท่าที่งดงามอ่อนช้อยจริง ๆ จึงรีบให้คนใช้ไปตามชุ่ยฮัวเอ๋อร์มาพูดคุยเกี่ยวกับแนวความคิดการใช้ชีวิต หยางหมิงหยูเตรียมอุปกรณ์ที่อีกสักครู่อาจจะต้องใช้งาน
ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนใช้มารายงานว่า : “คุณชาย มีคนมาพบท่าน ผมจัดแจงให้เขาไปนั่งที่ห้องรับแขกแล้ว”
“มาเร็วเช่นนี้เลยหรือ?” หยางหมิงหยู่มีความสุขมาก พูดว่า : “ให้เธอไปที่ห้องโถงใหญ่ทำไมกัน? ให้เธอเข้ามาที่ห้องนอนของผมเลยสิ! ไปเร็ว ๆ!”
คนใช้รับฟังคำสั่งของหยางหมิงหยู่ แววตาอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปเป็นความงุนงง แต่ไม่กล้าพูดอะไร จึงทำได้เพียงเก็บความไม่พอใจไว้ในใจ แล้วตอบรับว่า “รับทราบ” ด้วยความเคารพ
หยางหมิงหยู่หยิบกุญแจมือ แซ่ เทียนสิ่งของที่ตนเตรียมไว้ออกมาอย่างปลาบปลื้มใจ ร่างกายร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แก้ผ้าเปลือยกายตัวเองเสียก่อนเลย
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่อยู่นอกห้อง หยางหมิงหยู่ถูมือทั้งสองข้างเล็กน้อย แอบที่ข้างหลังประตู
“คุณชายอยู่ในห้อง เชิญท่านเข้าไปได้” คนใช้พูดว่า : “ผมขอตัวก่อนล่ะ พวกคุณคเพลิดเพลินกับการเล่นกันนะ”
เฉินโม่มองดูท่าทางของคนใช้รู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เขารู้สึกได้ว่าหยางหมิงหยู่ในห้องจริง ๆ เขาดึงผ้าขาวที่ปิดอยู่ข้างหลังออก เผยศพของถานชิวเซิงที่จดจำรูปร่างหน้าตาไม่ได้แล้ว
เฉินโม่ผลักประตูออกอย่างรุนแรง เดินเข้าไปหนึ่งก้าวใหญ่
หยางหมิงหยู่ตะโกนเสียงดัง
กระโจนเข้าไปโดนศพของถานชิวเซิงพอดี หยางหมิงหยู่รู้สึกว่าร่างกายที่ตนกระโจนใส่นั้นไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนที่ตนจินตนาการไว้ แต่เป็นศพ……ที่เย็นยะเยือกและแข็งทื่อ!
“เช็ด!” หยางหมิงหยู่ตกใจจนสติกระเจิง ความคิดที่เร่าร้อนและเสน่ห์อะไรนั้นสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนดั่งหิมะน้ำแข็ง
“ถะ……ถานชิวเซิง!” หยางหมิงหยู่จำศพนี้ได้ นี่คือถานชิวเซิงที่ไม่ว่าจะก่อนตายหรือหลังตายก็โดนเขาใช้วิธีการประหารชีวิตที่สุดโต่ง สุดท้ายก็ยังโยนไปที่อ่างงูอีก!
เฉินโม่หันหัวไป สิ่งที่เห็นคือร่างเปลือยเปล่าที่น่าสะอิดสะเอียนของหยางหมิงหยู่ นี่ถือเป็นการดูหมิ่นศพของถานชิวเซิงอย่างใหญ่หลวงที่สุด!
“ให้ตายเถอะ!” เฉินโม่พูดด้วยความโกรธเคือง ตบหยางหมิงหยู่ไปหนึ่งครั้ง
“แกฆ่าผมไม่ได้! อย่า……”