เซียวฉางควนก็โมโหจนกัดฟัน
ถ้ารู้แต่แรกว่าไอ้ซุนโหย่วฉายมันจะร้ายอย่างนี้ กัดตนเองไม่ปล่อย อย่างกับหมา ตนเองก็คงไม่ขึ้นมาแกว่งเท้าหาเสี้ยนหรอก
……
ในตอนที่เซียวฉางควนกำลังเถียงไม่ออก และไม่มีที่ยืนอยู่นั้น
รถของท่านหงห้า ก็มาจอดที่ประตูของเทียนเซียงฝู่
สิ่งแรกที่ทำหลังลงจากรถ ก็รีบไถ่ถามผู้จัดการร้านที่มาเปิดประตูรถให้ตนเองว่า “วันนี้มีคนชื่อว่าเซียวฉางควนมาจองห้องอาหารของเราไหม? ”
“มีครับ เป็นห้องทองแดงหมายเลข3” ผู้จัดการร้านจะจดจำรายละเอียดของลูกค้าเป็นอย่างดีทุกวัน สามารถจำลูกค้าที่จองห้องอาหารวันนี้ได้เป็นอย่างดี
ท่านหงห้าพยักหน้า แล้วรีบพูดว่า “ไป ตามไปห้องทองแดงหมายเลข3กับผม!”
ตอนที่ตระกูลเซียวมางานเลี้ยง อาจารย์เย่บอกกับตนเองว่า เขาบอกว่าพ่อตาตนเองจะมาทานข้าวที่ร้านตนเอง ให้ช่วยดูแลด้วย
จะให้ฝั่งตรงข้ามยอมลดตัวไปนั่งห้องทองแดงเล็กๆ ได้อย่างไรกัน? ถึงอย่างไรก็ต้องให้ไปนั่งในห้องเพชรถึงจะถูก!
ท่านหงห้าก็รีบร้อนมาที่ประตูของห้องทองแดงหมายเลข3 เห็นว่าประตูเปิดอยู่ ในห้องไม่มีคนอยู่เลย
เขาก็แปลกใจ แล้วก็ถามพนักงานผู้หญิงในห้องว่า “ถามหน่อย คนที่จองห้องนี้ คุณเซียวฉางควนล่ะ?!”
พนักงานหญิงก็รีบตอบว่า “ท่านห้า ก่อนหน้านี้คุณเซียวฉางควนยังอยู่ แต่เมื่อครู่ ถูกแขกคนอื่นๆ เชิญไปห้องทองคำแล้ว ที่ห้องทองคำหมายเลข2ค่ะ”
ท่านหงห้ารีบพูดกับผู้จัดการร้านว่า “ไป ตามผมมา!”
……
ในห้องทองคำตอนนี้ ซุนโหย่วฉายก็กำลังจ้องมองเซียวฉางควนนิ่งๆ แล้วยังแดกดันต่ออีกว่า “เซียวฉางควน ระดับอย่างคุณ คุณไม่มี
แม้กระทั่งสิทธิ์ในการเข้าร่วมสมาคมศิลปะจีน คุณยังจะกล้ามาชิงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการอีกงั้นหรือ? ”
เซียวฉางควนก็พูดนิ่ง “คุณบอกว่าผมไม่มีระดับงั้นหรือ? ผมว่าคุณต่างหากที่ไม่มีระดับ ต่อให้ผมไม่มีระดับ เมื่อก่อนผมเคยได้ของโบราณตามตลาดมาในราคาไม่กี่พัน แล้วเอามาขายได้หลายแสน คุณทำได้ไหมล่ะ? ”
ซุนโหย่วฉายก็พูดดูถูกว่า “โม้ไปเถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นปากคุณเอง จะโม้อย่างไรก็โม้ไป คุณจะบอกว่าได้ของโบราณมาราคาไม่กี่พัน แล้วปล่อยขายไปได้หลายสิบล้านก็ได้ แต่ปัญหาคือ จะมีใครเชื่อคุณ? ”
เซียวฉางควนก็ส่งเสียงไม่พอใจ แล้วพูดว่า “ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ไปหาจางเอ้อเหมาที่ตลาดของโบราณ สินค้าของผม เขาเป็นคนรับซื้อไว้!”
“จางเอ้อเหมางั้นหรือ? ” ซุนโหย่วฉายก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “ซุนโหย่วฉายเป็นพ่อค้าขี้โกงของตลาดของโบราณ ขี้โกงไม่มีใครเกิน ทั้งตลาดมีเขานั่นแหละที่ร้ายที่สุด เขาน่ะหรือจะยอมจ่ายเงินหลายแสนเพื่อซื้อของของคุณ? ให้ตายผมก็ไม่เชื่อ!”
เซียวฉางควนก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่เชื่อ พรุ่งนี้ก็ไปถามเขาดูเอาเอง”
“เชื่อก็บ้าแล้ว” ซุนโหย่วฉายเบะปากพูดว่า “ไม่อยากจะเสียเวลาคบค้าสมาคมกับคนกระจอก ไม่สำเหนียกดูตัวเองว่าฐานะอะไร สมควรที่จะได้นั่งกินข้าวกับพวกเราหรือเปล่า? รีบไปรินเหล้าให้ทุกคนเสีย เรื่องแค่นี้ ถ้ายังทำดีไม่ได้ ก็ไสหัวไป!อย่าอยู่ให้รกตา!”
เซียวฉางควนก็โกรธจนตัวสั่น กำลังอยากจะพูด แต่ด้านหลังก็มีเสียงดังขึ้น “คุณล่ะเป็นตัวอะไร ถึงได้กล้าพูดกับคุณเซียวเช่นนี้? เบื่อชีวิตแล้วหรือ? ”