ยามค่ำคืนค่อยๆเข้ามา แสงจันทร์มืดมิด ลมยามค่ำคืนเหมือนเสียงเพลง เทียนเหนือโถงไว้ทุกข์ขดเป็นเกลียว ภาวนาให้ผู้วายชนม์ไปสู่สุคติ
พรุ่งนี้เวลาที่เฉินโม่กับคุณท่านตระกูลหงนัดกันไว้ได้มาถึงแล้ว
และคืนนี้ เขาต้องรอใครบางคนที่นี่ เขาเชื่อว่าคนคนนั้นจะต้องรู้ทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้ คืนนี้ก็เป็นตัดสินคืนสุดท้ายระหว่างเขากับคนคนนั้น เขารอจนถึงสามปีไม่ไหวแล้ว
“หยางติ่งเทียน เทพสงครามแห่งตระกูลหยาง คุณจะมาคืนนี้มั้ย?” เฉินโม่มองฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในตอนกลางคืนอย่างโดดเดี่ยวราวกับหมาป่าเดียวดาย
เขาก้าวหน้าเร็วเกินไป คนพวกนั้นจะไม่ระมัดระวังเขาได้ยังไง? จะไม่กลัวเขาได้ยังไง?
เพียงแต่คนพวกนั้นจะรู้ได้ยังไงนี่คือการเดินทางที่เหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ลมยามค่ำคืนพัดโชยมา บรรยากาศที่แปลกไปค่อยๆพัดเข้ามา
เฉินโม่อยู่กลางอากาศ เขายืนอยู่เหนือคฤหาสน์ของหยางหมิงหยู่โดยที่เอามือไพล่หลังและรออย่างเงียบๆ
แสงไฟในเมืองคึกคักราวกับเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
แสงสีต่างๆในท้องฟ้ารวมกันเป็นจุดสีขาว แสงสีขาวเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นอย่างชัดเจนว่านั่นคือคน
เทพสงคราม หยางติ่งเทียน!
ทั้งสองคนยืนมองหน้ากันอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ลมกลางคืนพัดผ่านเสื้อผ้าจนพลิ้วไปตามลม
“นายคิดว่าตัวเองในตอนนี้เอาชนะฉันได้แล้วเหรอ?” หยางติ่งเทียนมองตรงไปที่ดวงตาของเฉินโม่ราวกับมองเห็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเฉินโม่
“ฉันว่าได้นะ” เฉินโม่ตอบเสียงเรียบ
หยางติ่งเทียนยิ้มอย่างประหลาดใจและเอ่ย: “ก็เลยเริ่มยั่วโมโหฉันแล้วงั้นสิ?”
เฉินโม่ส่ายหน้าและพูดว่า: “ฉันไม่เคยอยากยั่วโมโหใครมาก่อนเลย เรื่องที่หยางหมิงหยู่ทำ คุณก็น่าจะรู้แล้ว ถึงฉันเอาชนะคุณไม่ได้ ฉันก็จะทำแบบนี้อยู่ดี นี่ไม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่ง แต่มันเกี่ยวกับภายในใจ”
หยางติ่งเทียนเงียบ จากนั้นถึงได้เงยหน้าและเอ่ย: “งั้นก็สู้กันเลยเถอะ!”
เฉินโม่พยักหน้าและพูดว่า: “กำลังต้องการอยู่พอดี!”
ราวกับว่าแสงไฟทั้งเมืองดูพร่ามัว แต่ตำแหน่งที่หยางติ่งเทียนกลับสว่างแสบตาเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า
“เฉินโม่!” เสียงของหยางติ่งเทียนดังออกมาจากกลุ่มแสง “ฉันรู้ว่าพรุ่งนี้นายจะไปบ้านตระกูลหง ถ้านายตายเพราะกระบวนท่านี้ของฉัน ทางตระกูลหงฉันก็จะช่วยนายจัดการและดูแลคนข้างหลังของนายให้ปลอดภัย ถ้านายรอดจากกระบวนท่านี้ของฉันได้ ก็ถือว่านายชนะ!”
แสงไฟยามกลางคืนรวมกันเป็นกลุ่มก้อนอย่างฉับพลัน เหมือนกับมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนในค่ำคืน เฉินโม่วาดมือทั้งสองข้างที่มีลำแสงออกมาทีละเส้นกลางอากาศ ราวกับว่าดวงดาวทั้งท้องฟ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
เฉินโม่เคลื่อนหมัดทั้งสองไปข้างหน้า มังกรสีดำเปล่งแสงจำนวนนับไม่ถ้วนตะโกนและกรีดร้องในยามค่ำคืน จากนั้นก็พุ่งเข้าหาลูกบอลแสงจนมันแตกกระจายออกเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์
แม้ว่าพลังที่สร้างขึ้นโดยทั้งสองคนจะทำให้ผู้คนตกใจได้ แต่เจียงเหอซานส่งคนให้ไปสร้างค่ายกลกั้นเพื่อแยกโลกด้านล่างออกจากการต่อสู้กลางอากาศตั้งนานแล้ว
“เสือสองตัวสู้กัน ต้องตายกันไปข้าง!” เจียงเหอซานมองดูการต่อสู้บนท้องฟ้าอย่างกังวลใจและถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
หยางติ่งเทียนกับเฉินโม่ต่างก็เป็นผู้มีพรสวรรค์หาตัวจับยาก ดาบพิฆาตศัตรูของผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าหักดาบเล่มไหน ผู้บังคับบัญชาก็ไม่ต้องการเห็นมัน เจียงเหอซานต้องปวดหัวมากอยู่แล้ว แต่กลับคิดหาทางออกไม่ได้
เห็นแต่เพียงมังกรดำจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปหาลูกบอลแสงบนท้องฟ้า ไม่รู้ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่กลายเป็นขี้เถ้าเพราะแสงจากลูกบอลแสง บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงคำรามของมังกรดำ
เทพสงครามหยางติ่งเทียนยานจิงชื่อเสียงสมคำล่ำลือ เหมือนว่าเฉินโม่จะมีปัญหาแล้ว! เขาจะยังไปตามนัดของตระกูลหงในวันพรุ่งนี้ได้อีกมั้ยนะ?