“เฉินโม่! ตัดสินแพ้ชนะในกระบวนท่าเดียวกันเถอะ!” หยางติ่งเทียนตะโกนออกมา ลูกบอลแสงที่เหมือนดวงอาทิตย์ก็ลอยมาทางเฉินโม่
ไม่ว่าไปที่ไหน มังกรดำก็ถูกบดขยี้จนกลายเป็นโคลน
ลำแสงที่น่าสะพรึงกลัวครอบเฉินโม่ไว้โดยตรง
เจียงเหอซานทางหนีทีไล่ไม่ค่อยดี ตอนที่จะออกไปร้องขอให้หยางติ่งเทียนไว้ชีวิตเฉินโม่ วิ่งไปได้แค่ครึ่งทาง ลูกบอลเปล่งแสงก็แตกกระจายอย่างรุนแรงจนพลังมหาศาลอันน่ากลัวโหมกระหน่ำใส่เจียงเหอซาน เขาจึงทำได้แต่ต้องใช้พลังทิพย์ทั้งหมดที่มีมาปกป้องตัวเอง แต่ก็ยังถูกโจมตีจนอ้วกเป็นเลือด
ค่ายกลป้องกันขนาดใหญ่ที่เจียงเหอซานรวบรวมยอดฝีมือจำนวนมากมาสร้างขึ้นแตกสลายในพริบตา ทันทีที่เห็นทั้งเหมืองถูกโจมตี เจียงเหอซานตกใจจนหน้าซีดและพบว่าพลังทั้งหมดสวนทางกลับมาอย่างทันทีทันใด
“นั่นมันเฉินโม่!”
พลังอันบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ถูกดูดเข้ามาสู่กำปั้นของเฉินโม่ราวกับวาฬที่ดูดทุกสิ่งอย่าง ในวินาทีนี้เหมือนกับเวลาหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เจียงเหอซานเห็นสีหน้าท่าทางประหลาดใจของหยางติ่งเทียนเทพสงครามยานจิง
เฉินโม่ออกหมัดขวางหยางติ่งเทียน
“เปรี้ยง!!!”
พลังของหมัดนี้ทรงพลังมากจนเจียงเหอซานได้ยินเสียงกระดูกแตกละเอียดดังถึงสองครั้ง
หยางติ่งเทียนถูกเฉินโม่ซัดจนลอย เส้นลมปราณที่แขนทั้งสองข้างแตกเป็นเสี่ยงๆ เสื้อผ้าก็ขาดวิ่นเหมือนถูกไฟแผดเผา
“พรู้ด~~”
หยางติ่งเทียนอาเจียนเป็นเลือดสดๆ เขาตกลงมาจากท้องฟ้าสู่ด้านหน้าห้องโถงไว้ทุกข์ของถานชิวเซิง
เฉินโม่ลอยตัวลงมาอยู่ข้างกายเขา โดยที่ยืนเอามือไพล่หลังและหายใจตามปกติ
“แค่กๆ” หยางติ่งเทียนไอออกมาหลายทีและพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มที่น่าสมเพช: “ไม่นึกเลยว่านายจะพัฒนามาสูงถึงระดับนี้ได้ นายรับส่งพลังงานที่น่ากลัวได้อย่างอิสระ แค่กๆ ฉัน…หยางติ่งเทียนแพ้แล้ว นายลงมือเลยสิ! ให้ฉันตายอย่างมีเกียรติหน่อยนะ”
เฉินโม่เดินเข้าไปในโถงไว้ทุกข์ จุดธูปสามดอกเพื่อเคารพถานชิวเซิง จากนั้นถึงได้สาวเท้าเดินท่ามกลางความมืด
“กรรมเกิดจากผลของการกระทำ หลังจากวันนี้ไป ฉันกับตระกูลหยางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว ตระกูลหยาง…ทางใครทางมัน!”
เฉินโม่จากไปแล้ว ลมยามค่ำคืนก็ยังคงสะท้อนคำพูดเหล่านี้อยู่
หยางติ่งเทียนหลับตา ผ่านไปนานมากๆถึงได้ลืมตาขึ้นอีกครั้ง น้ำตาสองหยดไหลออกมาจากหางตาของตน
เขาลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากพร้อมกับแขนสองข้างที่ห้อยอยู่ มองซากศพที่อยู่รายล้อม จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ราวกับว่ามีอายุเพิ่มขึ้นไปอีกหลายพันปี
……
……
ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ตระกูลหงในตอนนี้กลับวุ่นวายเหมืนออยู่ในกองไฟร้อนรุ่ม
วันนี้เป็นช่วงงานศพของหงซิงกั๋ว คุณชายแห่งตระกูลหง การเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่ก็ต้องถูกเตรียมไว้แต่เนิ่นๆอยู่แล้ว
ด้านหน้าโถงไว้ทุกข์มีนักบวชลัทธิเต๋านั่งเรียงเป็นแถวเพื่อสวดภาวนาให้หงซิงกั๋ว แต่มีที่ว่างอยู่หนึ่งที่
เป็นที่ที่อดีตจอมพลหงเวยเก็บไว้ให้เฉินโม่
หงเวยไม่ได้หลับมาหนึ่งคืน เขากำลังคิดอยู่ว่าเฉินโม่จะทำอะไรได้บ้างหลังจากที่เขามาแล้ว และเขาควรจะตอบสนองอย่างไร
ตอนเช้าตรู่ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก “พ่อครับ ตื่นรึยัง? ฉันมีเรื่องอยากปรึกษา”
“เข้ามาสิ” หงเวยตอบ
ผู้นำตระกูลหงเห็นพ่อของตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนเตียง แต่กลับนั่งอยู่ใกล้ๆก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ยังไงคุณท่านหงก็เป็นเสาหลักของตระกูล ถ้าคุณท่านล้มป่วย ตระกูลหงก็จบเห่
“พ่อ ไม่ว่ายังไงก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ”
“จัดเตรียมงานเป็นยังไงบ้าง?” หงเวยไม่ได้ตอบโต้ความเป็นห่วงของลูกชายตนเองเลยด้วยซ้ำ แต่ถามเกี่ยวกับเรื่องที่เขากังวล
“พ่อวางใจได้ครับ ทั้งหมดถูกเตรียมการไว้อย่างดีแล้ว เพียงแต่เมื่อคืนมีข่าวมาว่าเฉินโม่เอาชนะหยางติ่งเทียน เทพสงครามแห่งยานจิง วันนี้เขามาแล้วจะยอมเชื่อฟังมั้ย? จำเป็นต้องทำการป้องกันอะไรไว้หน่อยรึเปล่าครับ?”
“เหอะ! หงเวยอย่างฉันจะทำเรื่องต่ำช้าพวกนั้นได้ยังไง!” หงเวยเข้าใจความหมายของสิ่งที่ลูกชายตัวเองพูด เขาก็เอ่ยอย่างโกรธเคืองทันที: “ทำทุกอย่างตามปกติ! ถ้าแกกล้าใช้วิธีเลวทรามต่ำช้า ไม่ต้องให้คนอื่นลงมือหรอก ฉันนี่แหละจะฆ่าลูกอกตัญญูอย่างแกเป็นคนแรกเลย!”