บทที่ 2051 ตอบแทนด้วยร่างกาย
นี่เป็น…การพบกันครั้งแรกของเธอกับซือเยี่ยหาน…
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นที่ถูกสะกดจิตอยู่ย้อนนึกมาถึงตรงนี้ ก็ปวดใจขึ้นมาทันที ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า ความทรงจำที่น่าอัศจรรย์แบบนี้ เธอกลับหลงลืมมันไปซะได้ ลืมไปเลย!
แต่สิ่งที่ทำให้เธอปวดใจกว่าเดิมคือ ทำไมครั้งแรกที่ได้พบกับซือเยี่ยหาน เธอถึงไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างสง่างามกันนะ ดีที่สุดคือทำให้เขาตกหลุมรักตัวเองตั้งแต่แรกเห็นอะไรทำนองนั้นไปเลย แต่กลับโผล่มาในสภาพโชกเลือดแบบนี้!
น่าอนาถเกินไปแล้ว…
เมื่อชายหนุ่มสัมผัสได้ว่ามีคนรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง กลิ่นอายที่เดิมทีไร้พิษภัยก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาอึมครึมขึ้นมาทันที
ความเย็นชาอึมครึมนั้นเข้าจู่โจมเยี่ยหวันหวั่นอย่างมืดฟ้ามัวดิน เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นก็เสียเลือดไปมากแล้ว แถมยังยืนอยู่บนพื้นหิมะ เพียงครู่เดียวก็รู้สึกหนาวยะเยือกยิ่งกว่าเดิม
หนุ่มหล่อหนอหนุ่มหล่อ แบบนี้…ก็ขู่ขวัญคนเกินไปไหม
ออร่าของชายหนุ่มแกร่งกล้ากดดันคนอย่างยิ่ง ทำให้เยี่ยหวันหวั่นที่เกรงกลัวต่อสิ่งใดพลันเกิดความหวั่นเกรงขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต
“เธอเป็นใคร”
รอจนเยี่ยหวันหวั่นมีปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง เทพแห่งความตายก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นอ่อนแรง กุมปากแผลไว้พลางทรุดลงคุกเข่าอยู่บนพื้น สมองของเธอหมุนแล่นอย่างเร็วจี๋แวบหนึ่ง
เนื่องจากที่นี่คือเขตหวงห้ามของอาชูร่า เป็นสถานที่กักตัวนักโทษ หรือว่าคนๆ นี้ก็เป็นคนที่ถูกกักบริเวณไว้ที่นี่เพราะกระทำความผิดเข้างั้นเหรอ
หากว่าถูกลงโทษเพราะมีความผิด บางทีเธออาจจะกล่อมให้แปรพักตร์ได้สินะ?
ในเวลานี้ ชายหนุ่มทอดมองเธอจากมุมสูง สายตาจับจ้องไปที่ตราปักบนชุดของเธอ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “พันธมิตรอู๋เว่ยงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นแข็งค้างไปเล็กน้อย ร้องในใจว่าจบเห่แล้ว รีบบังตราปัก ‘อู๋เว่ย’ ตัวเบ้อเริ่มสองคำบนชุดไว้
เป็นความผิดของเธอเอง ที่อวดดีเกินไปเพราะอายุยังน้อย จึงแอบแทรกซึมเข้ามาในฐานทัพของคนอื่นโดยไม่แม้แต่จะเปลี่ยนชุดเลยสักนิด ตอนนี้ถึงได้ถูกคนอื่นจับได้แบบนี้
เยี่ยหวันหวั่นแทบจะโอบกอดความคิดว่าตายแน่ๆ เอาไว้แล้ว แล้วพลันกัดฟัน หลับตาลง น้ำตาไหล ร่วงลงมาทันที
จากนั้น ร่างกายเยี่ยหวันหวั่นก็สั่นระริก ราวกับผกาขาวน้อยดอกหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางสายลม พลางเอ่ยขึ้นอย่างน่าเวทนาว่า “ใช่…ฉันเป็นคนของพันธมิตรอู๋เว่ย...แต่ว่า…แต่ว่าฉันถูกบังคับนะ…แบดเจอร์ไป๋เฟิง นางมารร้ายแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยคนนั้น เห็นว่าฉันฝีมือดีเลยใช้คนในครอบครัวฉันมาข่มขู่ บีบให้ฉันเข้าร่วมกลุ่ม บีบบังคับให้เป็นอันธพาล…ฉันไม่มีทางเลือก…มีแต่ต้องขายชีวิตให้เธอ…”
เยี่ยหวันหวั่นในช่วงวัยนั้นดูนุ่มนิ่มว่าง่ายมาก ขอแค่ไม่แสดงความหยาบคายออกมา ลักษณะภายนอกก็สามารถเสแสร้งและปกปิดได้เป็นอย่างดีแล้ว แลดูใสซื่อมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้บาดเจ็บไปทั้งตัว จึงดูน่าสงสารไร้พิษสงยิ่งขึ้นไปอีก
คำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นไม่มีช่องโหว่ใดๆ เลย แต่หากว่าใช้กับคนพวกนั้นของอาชูร่าแล้ว ก็ยังดูโง่เง่าเกินไปอยู่ดี
เพราะว่าคนของอาชูร่าไม่มีทางสนใจว่าเธอจะถูกบังคับให้เข้าร่วมหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่อยู่ตรงหน้าดูข่มขวัญคนถึงขนาดนี้ มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าไม่มีทางเชื่อเธอ และไม่มีทางเห็นใจเธอด้วย
พอเห็นแบบนี้แล้ว คงได้แต่ใช้ผลประโยชน์เข้าแลกแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นแอบเงยหน้าเหลือบมองแวบหนึ่ง เห็นเพียงว่าชายหนุ่มมองดูเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่คล้ายว่าจะมีท่าทางใจอ่อนเลยจริงๆ
โชคดีที่เธอพกของมีค่าอย่างหนึ่งติดตัวมาด้วย!
เยี่ยหวันหวั่นไม่มีทางเลือกแล้ว อดทนต่อความเจ็บปวดไว้แล้วควานหาของในอกเสื้ออยู่นาน “พี่ชาย ถ้าหากวันนี้พี่ยอมช่วยชีวิตฉัน…ฉันจะ…”
เยี่ยมเลย หาเจอแล้ว!
เยี่ยหวันหวั่น ‘หยิบ’ ของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ…เซาปิ่ง[1]!
เวรแล้ว! เซาปิ่ง! ทำไมถึงเป็นเซาปิ่งไปได้!
แล้วสมบัติที่เธอฉกมาจากตระกูลเสิ่นเมื่อวันก่อนล่ะ พกติดตัวไว้ชัดๆ นี่นา…
ซวยแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเพราะหิว เลยเอาแลกกับเซาปิ่ง.…
คำพูดจากปากของเยี่ยหวันหวั่นเลี้ยวโค้งกลับไป สุดท้ายก็ทำตาละห้อย เปลี่ยนคำพูดไปเสียดื้อๆ “ฉันจะ…ตอบแทนด้วยร่างกาย…”
—————————————————-
บทที่ 2052 นี่คือสิ่งตอบแทน
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นที่ถูกสะกดจิตอยู่ย้อนนึกมาถึงตรงนี้ ก็อยากฆ่าตัวตายเสียแล้ว
ตอนนั้นเธอมอมแมมไปทั้งตัว แถมยังถือเซาปิ่งโง่ๆ ชิ้นหนึ่งไว้ในมือ พูดกับซือเยี่ยหานว่าจะ ‘ตอบแทนด้วยร่างกาย’ ช่างโง่เง่าจริงๆ!
ทำไมกันนะ! ไหนบอกว่าเป็นความทรงจำที่งดงามไง!
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!
ในขณะที่เยี่ยหวันหวั่นคิดจะโขกหัวให้ตายๆ ไปซะ ความทรงจำก็ยังคงดำเนินต่อไป
ซือเยี่ยหานมองเธอด้วยสายตาที่สงบเยือกเย็นแวบหนึ่ง จากนั้น นิ้วมือเรียวยาวก็ยื่นออกมา รับเอา…เซาปิ่ง...ที่อยู่ในมือเธอไป
“นี่คืออะไร” ซือเยี่ยหานถาม
เยี่ยหวันหวั่นมองอย่างโง่งม และตอบไปอย่างเงอะงะ “เซาปิ่งไง…อร่อยมากนะ…ฉันตีกับเถ้าแก่เพื่อแย่ง…ไม่ใช่สิ…ฉันต่อคิวซื้ออยู่กว่าสิบชั่วโมงเลยนะ…”
ใบหน้าของชายหนุ่มคล้ายจะมีประกายความฉงนวาบผ่านไปแวบหนึ่ง ทำราวกับไม่เคยเห็นเซาปิ่งมาก่อน
จากนั้น เขาก็ยกเซาปิ่งขึ้นมา กัดเข้าปากคำหนึ่ง
เยี่ยหวันหวั่นมองด้วยความทึ่มทื่อ ทำไมขนาดกินเซาปิ่งยังดูดีขนาดนี้ล่ะ! เทพบุตรชัดๆ!
หลังจากชายหนุ่มกินเซาปิ่งเสร็จแล้ว ก็ก้มหน้าเอ่ยกับเธอว่า “ตามฉันมา”
“อ่า…โอ้…” เยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ก็ยังตามไปอย่างว่าง่าย
ชายหนุ่มพาเธอเข้ามาในห้องหนึ่ง จากนั้นก็โยนยารักษาแผลส่วนหนึ่งให้เธอ “ทาเองนะ”
เยี่ยหวันหวั่นทั้งตกตะลึงและมีความสุขในเวลาเดียวกัน “เอ๊ะ… คุณ…ทำไมคุณถึงช่วยฉันล่ะ”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เซาปิ่งไม่เลวเลย นี่คือสิ่งตอบแทน”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกแล้ว “อ่า…”
เธอใช้เซาปิ่งชิ้นหนึ่งแลกชีวิตมาได้สินะ
ลูกไม้พิเศษแบบนี้ เพียงพอสำหรับซือเยี่ยหานแล้ว!
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นทอดถอนใจแล้ว ปฏิกิริยาถัดมาคือ เวรเอ้ย…ไม่น่าเชื่อเลยว่าการตอบแทนด้วยร่างกายของเธอยังสู้เซาปิ่งชิ้นหนึ่งไม่ได้เลยงั้นเหรอ
ยังมีหลักเหตุผลอยู่อีกไหม!
การพบกันครั้งนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยสักนิด!
หลังจากซือเยี่ยหานโยนยาส่วนหนึ่งให้แล้วก็เดินออกไปเลย
เยี่ยหวันหวั่นใส่ยาด้วยความยากลำบาก จากนั้นก็เดินเตร่ไปทั่ว
ที่นี่ทั้งผุพังและเรียบง่าย รอบข้างรกร้างไปหมด เป็นสถานที่สำหรับกักบริเวณคนที่ทำผิดจริงๆ…
พอชายหนุ่มเห็นเธอออกมาแล้ว ก็เอ่ยเสียงเย็นว่า “ใส่ยาเรียบร้อยแล้วก็ไปซะ”
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้หวั่นเกรงชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขนาดนั้นแล้ว จึงเปิดปากพูดจ้อไปว่า “คุณทำผิดอะไรถึงถูกขังไว้ที่นี่ ฉันได้ยินมาว่านายแห่งอาชูร่าของพวกคุณโหดเหี้ยมวิปริตเป็นพิเศษ นิดๆ หน่อยๆ ก็ผ่าอกควักหัวใจ แถมยังกินเนื้อคนอีก ฉันว่าคุณต้องถูกทรมานในไม่ช้าก็เร็วแน่ ถ้างั้น คุณหนีไปกับฉันดีกว่านะ!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยทวน “นายแห่งอาชูร่า…โหดเหี้ยมวิปริตงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบด้วยความมั่นใจ “ใช่แล้ว! คุณดูสิว่าตัวคุณน่ะหน้าตาดีแถมยังมีเมตตาขนาดนี้ เขายังเอาคุณมาขังไว้ในสถานที่ผีสางแบบนี้ได้ ถ้าไม่ใช่วิปริตแล้วจะเป็นอะไรล่ะ”
ซือเยี่ยหานคล้ายจะครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นถึงพูดออกมาว่า “ที่นี่อันตรายมาก ไม่ใช่ที่ที่เธอควรมา”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันก็ไม่ได้อยากมาหรอกนะ แต่ผู้นำมอบหมายภารกิจให้ฉัน กลยุทธ์การรบของอาชูร่าน่ะร้ายกาจเกินไปแล้ว ระยะนี้พวกเราบาดเจ็บกันอย่างหนัก ดังนั้นผู้นำเลยส่งฉันมาสืบหาข้อมูลที่นี่ ผู้นำของพวกเราน่ากลัวมาก ถ้าฉันทำภารกิจไม่สำเร็จ จะต้องซ้อมฉันจนตายแน่!”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ พูดจาน่าสงสาร และตอนนี้เธอยังมีบาดแผลอยู่ทั่วร่าง ท่าทางคอตกนั้น เป็นความน่าสงสารที่มีพลังทำลายล้างสูงอย่างหนึ่ง
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นที่ถูกสะกดจิตนึกย้อนกลับมาถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ดูเหมือนว่าทักษะการเล่นละครของเธอคือพรสวรรค์สินะ ตัวเธอเองยังต้องปรบมือชื่นชมทักษะการแสดงรวมถึงความไร้ยางอายของตัวเองเลย
พอซือเยี่ยหานได้ยินดังนั้น ก็มองเธอแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้ อย่าให้ผู้นำของเธอใช้เส้นทางน้ำ”
จู่ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วผงะไปแวบหนึ่ง “ฮะ?”
“อาชูร่าจะซุ่มโจมตีทางน้ำ” ซือเยี่ยหานพูดต่อ
…………………………………………………
[1] เซาปิ่ง เป็นแผ่นแป้งทอดเนื้อหนากรอบนอกนุ่มใน วิธีกินคล้ายกับแฮมเบอร์เกอร์ คือผ่าครึ่งแล้วใส่เนื้อสับปรุงรสเข้าไป