บทที่ 2055 ชอบเธออย่างแน่นอน
ทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
เวรเอ๊ย! คุณอย่าใช้น้ำเสียงเย็นชาแบบนี้พูดจาชวนให้คนใจเต้นออกมาได้ไหม
เพียงแต่อีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์อยู่เช่นเคย!
ล่มหมดแล้ว! ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะตัดสินใจได้ว่าจะไม่มาหาเขาอีก
เธอพบว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเขานั้นไม่ถูกต้อง และคนที่อยู่ตรงหน้าก็ไร้เดียงสาเกินไป ดีงามเกินไปจริงๆ เธอไม่อยากหลอกลวงเขาอีก และกลัวว่าตัวเองจะควบคุมสัตว์ร้ายไว้ไม่อยู่ แล้วกระทำเรื่องไม่เหมาะสมอะไรกับเขา…
คนอย่างเธอจะคู่ควรกับคนที่ดีงามขนาดนี้ได้ยังไง!
เยี่ยหวันหวั่นในห้วงความทรงจำถูกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเข้าครอบงำแล้ว และในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นที่นอนรับการสะกดจิตอยู่บนเก้าอี้ยาว ยืนดูอยู่ในมุมมองของพระเจ้าด้วยสีหน้ามึนงง
บ้าเอ๊ย! ซือเยี่ยหานคือนายแห่งอาชูร่า เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าต้องเปิดกลไกลในบ้านของตัวเองยังไงน่ะ
สรุปคือ เขาจงใจไม่เปิดกลไก แล้วลงมาอยู่เป็นเพื่อนเธอแบบนี้เลย!
ในขณะที่เธอเข้ารับการสะกดจิตอยู่นั้น ได้ยืนมองห้วงความทรงจำนี้ด้วยมุมมองของพระเจ้า สรุปคือถ้าไม่ย้อนความทรงจำกลับมาถึงฉากนี้ ก็คงจะถูกเขาหลอกด้วยเหมือนกัน
ซือเยี่ยหาน…ชอบ! เธอ! อย่าง! แน่! นอน!
ไม่เคยคิดเลยว่า ผู้ชายหน้าตายคนนี้ จะมีความคิดที่ไม่ซื่อต่อเธอมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว!
อีกอย่าง ซือเยี่ยหานในช่วงเวลานั้น ก็ช่างพูดมากกว่าปัจจุบันนี้ด้วย
มองจากประโยคนี้สิ แค่คำพูดเรียบง่ายประโยคเดียวก็ทำให้ใจของเธอเต้นรัว ทำให้จิตใจของสาวน้อยสั่นไหวได้แล้ว
ในความทรงจำส่วนนี้ เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานติดอยู่ในกับดักนี้ด้วยกันสามวันเต็ม โชคดีที่เยี่ยหวันหวั่นติดนิสัยพกของกินติดตัวไว้เสมอถึงได้ไม่อดตายกัน
จนเข้าสู่วันที่สาม เป็นเพราะเยี่ยหวันหวั่นเผลอไปแตะถูกสวิตช์เปิดเข้า ทั้งสองถึงออกมาได้
เยี่ยหวันหวั่นที่เข้ารับการสะกดจิตอยู่แทบจะกระโดดโลดเต้นเพราะความตื่นเต้นจนเกินไป บัดซบ! ตัวเองในปีนั้นเป็นคนปัญญาอ่อนชัดๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะยังคงโง่เง่าหลงนึกไปว่าซือเยี่ยหานเป็นคนใสซื่อไม่รู้เรื่องทางโลกอยู่ ผลคือตัวเองถูกเขาจับกินอย่างสมบูรณ์…
ผู้ชายคนนี้ เจ้าเล่ห์มาก! ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะวางแผนจับเธอแบบนี้!
เยี่ยหวันหวั่นทนดูความทรงจำต่อไปไม่ไหวแล้ว…
อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในครั้งนี้กลับเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์และยาวนานเป็นพิเศษ
ความทรงจำยังคงดำเนินต่อไป
เยี่ยหวันหวั่นเบิกตามองบอสใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ทั้งสองที่สรุปแล้วต่างฝ่ายต่างก็เล่นละครใส่กัน แต่ละคนต่างก็ทำตัวเป็นดอกบัวขาวยิ่งกว่าอีกฝ่าย…
ความทรงจำต่อจากนั้น ทำให้เยี่ยหวันหวั่นพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่งขึ้นมา
เนื่องจากจู่ๆ เธอในห้วงความทรงจำได้รับข่าวมา บอกว่าระยะนี้ข้างกายจี้ซิวหร่านมีหญิงสาวคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา ทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน
อันที่จริง ขอเพียงเธอตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยวางและไม่ไปเกาะแกะเขาอีก แต่ว่า ถึงยังไงก็ชอบมานานมาก ความโศกเศร้าในใจ ไม่ใช่สิ่งที่จะรักษาให้หายได้ง่ายดายขนาดนั้น…
ข่าวนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อเยี่ยหวันหวั่นในวัยสาวน้อยอยู่
เยี่ยหวันหวั่นหมกตัวอยู่แต่ในบาร์แห่งหนึ่ง ดื่มเหล้าคนเดียวจนเมาหยำเป
เยี่ยหวันหวั่นที่รับชมอยู่ในมุมมองของพระเจ้ามองเห็นซือเยี่ยหานที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้ามาที่บาร์นี้ตั้งแต่เมื่อไร แล้วยังนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ไกลจากเธอ
ต่อมา เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ในสภาพเมามายก็ปลดปล่อยตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
“คนแซ่จี้! ฉันไม่สวยเหรอ ฉันไม่น่ารักเหรอ”
“ทำไมคุณถึงไม่ชอบฉันล่ะ…ฉันชอบคุณขนาดนี้…ทำไมคุณถึงไม่ชอบฉัน…น้องสาวบ้านคุณสิ…ใครเขาอยากเป็นน้องสาวของคุณกันล่ะ…”
“ฉันไม่มีทาง…ฉันไม่มีทางไปชอบคนอื่นได้หรอก…ไม่มีทางเจอคนที่ชอบมากไปกว่านี้ได้แล้ว…ไม่มีทางต้องตาดอกไม้ใบหญ้าพวกนั้นหรอกนะ…นอกจากคุณแล้ว…คนอื่นก็เป็นตัวประกอบทั้งนั้น…”
คำพูดเหล่านี้ของเยี่ยหวันหวั่น เห็นได้ชัดว่าซือเยี่ยหานได้ยินหมดทุกคำ
———————————————————
บทที่ 2056 ชอบไหม
ซวยแล้ว…
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ระหว่างการสะกดจิตจึงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมซือเยี่ยหานมักจะไม่เชื่ออยู่เสมอว่าตัวเองชอบเขาด้วยใจจริง
เขาคงจะคิดว่าเธอมีคนที่ลืมไม่ลงอยู่ แถมยังรู้ด้วยว่าคนๆ นั้นแซ่จี้
ดังนั้น ถึงได้แคร์เรื่องของจี้ซิวหร่านเป็นพิเศษ…
พอย้อนความทรงจำมาถึงตรงนี้ ก็ได้คำตอบสำหรับทุกอย่างแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นอยากซ้อมตัวเองที่ดื่มจนเมามายให้ตาย ต่อไปเธอจะไม่ดื่มเหล้าอีกแล้ว!
มองเห็นซือเยี่ยหานนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ มองเยี่ยหวันหวั่นที่ดื่มจนเมาเป็นผีบ้า
หลังจากค่อยๆ จิบเหล้าแก้วหนึ่งจนหมดแล้ว ซือเยี่ยหานก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไป พยุงเยี่ยหวันหวั่นที่แทบจะล้มฟุบลงไปขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น “เธอชอบคนอื่นได้นะ”
สายตาของเยี่ยหวันหวั่นพร่ามัว จึงจำคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ แต่พอได้ยินก็ถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วตอบว่า “ฉันทำไม่ได้!”
ซือเยี่ยหานถามสั้นๆ “งั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างหนักแน่น “นี่คือ…นี่ดูถูกฉันอยู่สินะ! ฉันไม่มีทางชอบคนอื่นหรอก!”
สองตาของชายหนุ่มหรี่ลงนิดๆ จากนั้น นิ้วมือเรียวยางก็เชยคางของเธอ แล้วพลันโน้มตัวเข้าไปใกล้ จุมพิตมุมปากของเธอ แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ชอบไหม”
ลมหายใจชวนสับสนของชายหนุ่มอยู่ใกล้เพียงเอื้อม ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นล่มเมืองดวงนั้นโน้มเข้ามาใกล้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกได้ว่าสามจิตเจ็ดวิญญาณของตัวเองกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว
ในเวลานี้ เธอสร่างเมาขึ้นมาหลายส่วนแล้ว จึงจดจำได้แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เอ่ยตอบไปอย่างเงอะงะว่า “ชอบ…”
ว่ากันตามหลักเหตุผลแล้วตอนนั้นเยี่ยหวันหวั่นเมามาย ความทรงจำในส่วนนี้น่าจะเลือนรางมาก แต่วิชาสะกดจิตของผู้อำนวยการเฒ่านั้นร้ายกาจจริงๆ ทำให้เธอจดจำเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นได้อย่างสมบูรณ์
จากนั้น เธอก็ถูกซือเยี่ยหานพากลับไปที่อาชูร่า
ซือเยี่ยหานไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสเอาเปรียบคนอื่นเลย และไม่ทราบเช่นกันว่าหรือเป็นเพราะวันนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้พกเซาปิ่งมาด้วย เลยไม่มีแรงดึงดูดอะไร
หลังจากพาเธอมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ซือเยี่ยหานก็เตรียมจะออกไป แต่ เยี่ยหวันหวั่นกลับรนหาที่ตายอย่างสมบูรณ์…
“พ่อหนุ่มหล่อ…วิชาดูดวงของฉันไม่เลวเลยนะ! ไม่ให้ฉันลองทำนายดวงชะตาให้คุณสักหน่อยล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นพุ่งฉิวเข้ามาเหมือนธนูดอกหนึ่ง ขวางทางของซือเยี่ยหานไว้ พอพูดจบก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นพลันคว้ามือชายหนุ่มมา ลูบไปลูบมา พลางเพ่งมองอย่างละเอียด “เอ๋ พ่อหนุ่มหล่อ ดวงชะตาของคุณ…ดวงชะตาคุณยังขาดฉันอยู่นี่นา!”
ลูกไม้ของเยี่ยหวันหวั่นล้าสมัยและไม่ได้เรื่องอยู่บ้างจริงๆ แต่ด้วยความร้อนใจ เธอจึงไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นแล้ว
จู่ๆ เธอก็รู้สึกกระวนกระวายมากเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ชอบ หรือว่าของที่ชอบ ก็ต้องรีบกินซะถึงจะถูก!
ไม่งั้นเธอจะต้องเสียมันไปอีก…
ถึงแม้เธอจะควบคุมตัวเองเอาไว้เสมอมา ให้ตัวเองมีมนุษยธรรม ไม่ให้กระทำเรื่องเลวทรามพรรค์นั้นออกมา
แต่ว่า…เธอชอบ…เธอชอบเขาจริงๆ…
ถึงแม้จะเมาอยู่ แต่ก็มีสติขึ้นมากแล้ว
นับตั้งแต่ตอนนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีความรู้สึกแบบนี้ เดิมทีเธอนึกว่าตัวเองไม่มีทางหวั่นไหวได้อีกต่อไปแล้ว
ซือเยี่ยหานนิ่งไป…
เยี่ยหวันหวั่นยังคงพยายามต่อไป “อีกอย่างนะ คุณรู้ตัวไหม หน้าตาคุณเหมือนญาติคนหนึ่งของฉันเป็นพิเศษเลย”
ซือเยี่ยหานเอ่ยนิ่งๆ “งั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “อือฮึ คุณหน้าตาเหมือนลูกเขยของแม่ฉันมากเลย!”
ใบหน้าของชายหนุ่มที่ไม่เคยเผยอารมณ์อื่นใดออกมา ในเวลานี้ กลับเผยรอยยิ้มออกมาแวบหนึ่งแล้ว “เธอพูดแบบนี้กับดอกไม้ใบหญ้าทุกต้นเลยใช่ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างหนักแน่นว่า “เหลวไหล ไม่ใช่หรอก…คุณน่ะไม่ใช่ดอกไม้ใบหญ้าหรอกนะ!”
ชายหนุ่มจ้องมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก “ไม่ใช่งั้นเหรอ?”