นิยาย เทพปีศาจหวนคืน เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2051 ดวงวิญญาณยักษ์
“ฟางหยวนหลบอยู่ในกระดองเราจะฆ่าเขาได้อย่างไร?”ปีศาจอมตะฉีเจียถามเทพปีศาจจิตวิญญาณเทพปีศาจจิตวิญญาณเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มเย็นชา
ทันใดนั้นเจตนาสังหารของเขาแผ่พุ่งออกมา ทุกคนรู้สึกได้ว่าแขนขาของพวกเขาเย็นลงขณะที่หัวใจสั่นไหว
หลังจากประสบกับความพ่ายแพ้ ความมุ่งมั่นที่จะสังหารฟางหยวนของเทพปีศาจจิตวิญญาณยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
“ข้าจะทําลายกระดองของเขา ไปจัดการคนที่เหลือและปกป้องข้า!” เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวขณะที่ดวงวิญญาณของเขาบินออกมาและกลืนกันร่างกายของท่านหญิงธุลีเย็นเข้าไปในครั้งเดียว
ดวงวิญญาณที่ใหญ่โตเหมือนภูเขาปรากฏต่อหน้าทุกคน
ร่างยักษ์สีดํามีสองหัว หัวแรกมีดวงตาสีแดงที่ดูโกรธเกรี้ยว หัวที่สองดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งมันมีแขนหกร้อยคู่ทับซ้อนกันอยู่
“ช่างน่าเกรงขามนัก!” ร่างของถั่วเว่ยหยินสั่นสะท้านขึ้นก่อนที่เขาจะตะโกนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้“เช่นนั้นก็ลองสิ่งนี้!”
เขากระตุ้นใช้งานสนามรบทรายลวงตาอย่างเต็มก่าลัง“ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว”
พายุทรายโหมกระหน่ำหินจํานวนมากพุ่งเข้าปะทะร่างยักษ์ราวกับดาวตก
ดวงวิญญาณยักษ์ยกแขนสองร้อยคู่ขึ้นและแทงเข้าไปในพายุทราย
พายุทรายที่ไร้รูปร่างถูกคว้าเหมือนเส้นไหมก่อนจะถูกแยกกออกจากกันและกระจัดกระจายไปทั่ว
ดวงตาของถั่วเว่ยหยินเบิกกว้าง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว เขาตกใจมาก
“ให้ข้าลอง!” บรรพชนทะเลปราณบินขึ้นไปด้านบนและจ้องมองดวงวิญญาณยักษ์จากที่สูง
ท่าไม้ตายอมตะภูเขาปราณ!
“ครีน…”
ภูเขาโปร่งแสงขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงจากอากาศและกดทับดวงวิญญาณยักษ์
ท่านี้เคยถูกใช้งานโดยราชันมังกร มันเป็นส่วนหนึ่งในมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดนี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้าม
ดวงวิญญาณยักษ์มองไปที่ภูเขาปราณและยกแขนมากกว่าร้อยคู่ขึ้น
นิ้วอันแหลมคมของมือแต่ละข้างพุ่งเข้าโจมตีภูเขาปราณ
ภูเขาปราณหยุดเคลื่อนไหวก่อนจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
บรรพชนทะเลปราณโอดครวญและถูกบังคับให้ล่าถอย
แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ยอมปล่อยเขาไปหัวโกรธคํารามเสียงดังและพ่นแม่น้ำภูตผีออกมาจากปากพวกมันส่งเสียงโหยหวนและทําให้สนามรบทั้งหมดราวกับถูกแช่แข็ง
บรรพชนทะเลปราณตระหนักว่าท่าไม้ตายนี้มีพลังมากกว่าท่าไม้ตายระเบิดวิญญาณก่อนหน้านี้หลายเท่า
พลังที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณดุร้ายและน่ากลัวมาก
บรรพชนทะเลปราณโบกมือ
ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรปราณ!
กรรไกรปราณพยายามตัดแม่น้ำภูตผีแต่มันถูกบังคับให้ถอยกลับ อย่างไรก็ตามแม่น้ำภูตผีก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
ถั่วเว่ยหยินตะโกนขณะกระตุ้นใช้สนามรบทรายลวงตาและส่งหินจํานวนมากพุ่งเข้าปิดกั้นแม่น้ำภูตผี
บรรพชนทะเลปราณฉวยโอกาสหลบหนีอย่างรวดเร็ว “เทพปีศาจจิตวิญญาณเหตุใดเจ้าไม่ตายไปซะ!”ในเวลาเดียวกันชิงโจวก็พุ่งเข้ามาจากด้านซ้าย
ด้านขวาของเทพปีศาจจิตวิญญาณ อู่ส่วยส่งกองทัพมดพุ่งเข้าโจมตีศีรษะของดวงวิญญาณยักษ์โดยไม่กล่าวสิ่งใด
การโจมตีจากซ้ายและขวาพร้อมกัน!
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เคลื่อนไหว เขาใช้แขนสามร้อยคู่ต่อสู้กับชิงโจและใช้อีกสามร้อยคู่รับมืออู่ส่วย
ชิงโจวต่อสู่โดยไม่คํานึงถึงชีวิต มันก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ
เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะเย้ยหยันและใช้นิ้วแทนหอกส่งออกไปตอบโต้สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานตัวนี้
ในเสี้ยงพริบตา แขนร้อยคู่ก็แทงเข้าไปในร่างของชิงโจว เลือดสีเขียวเข้มไหลทะลักออกมาอาบย้อนสนามรบ
หัวโกรธของเทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะ “อสูรวิญญาณไม่มีเลือด แต่ร่างกายของเจ้าดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปภายใต้อิทธิพลของวิญญาณความเกลียดชังน่าสนใจหลังการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าจะผ่าร่างของเจ้าและค้นคว้ามันอย่างละเอียด
กล่าวอีกนัยหนึ่งเทพปีศาจจิตวิญญาณมั่นใจในชัยชนะของตนเองอย่างสมบูรณ์ชิงโจวคํารามด้วยความเจ็บปวด คออสรพิษของมันกําลังดิ้นรนอย่างหนัก
ร่างของมันปล่อยควันสีดําออกมาเกือบเหมือนเทพปีศาจจิตวิญญาณมันอ้าปากและยิงบอลสายฟ้าหน้าคนมากกว่าสิบลูกออกไป
ทุกการโจมตีที่ปะทะร่างของดวงวิญญาณยักษ์ พวกมันเหมือนสายลมที่พัดเข้าปะทะต้นไม้ใหญ่แม่ใบไม้จะเคลื่อนไหวแต่ล่าต้นของมันยังมั่นคงและไม่สั่นคลอน
แขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณแทงลึกเข้าไปในร่างของชิงโจวและพยายามทําลายมันจาก ด้านใน
ชิงโจวกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลนองราวกับแม่น้ำ
เมื่อเห็นฉากเหตุการณ์นี้ อู่ส่วยไม่กล้าเสี่ยงเข้าโจมตีเขารีบล่าถอยและเลือกโจมตีจากระยะไกลเท่านั้น
กองทัพมดแยกกลุ่มออกไปโจมตีดวงตา จมูก และหูของดวงวิญญาณยักษ์
หัวที่เย็นชาของเทพปีศาจจิตวิญญาณพ่นควันดําออกมาจากจมูกและทําให้กองทัพมดตกตายโดยไม่สามารถต่อต้าน
“สมกับเป็นอดีตเทพปีศาจ!” ดวงตาของปีศาจอมตะฉีเจียส่องประกายขึ้นด้วยความสรรเสริญ
เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณแสดงพลังอํานาจที่แท้จริงออกมา เขาสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที
แม้ถั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆจะมีข้อได้เปรียบด้านอาณาเขตและจํานวนคน แต่พวกเขายังถูกปราบปราม
เทพปีศาจจิตวิญญาณสามารถปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดของฝ่ายตรงข้าม นอกจากนั้นเขายังสามารถใช้แขนสี่ร้อยข้างพุ่งเข้าโจมตีป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข
“บีม บีม บีม บม!”
การปะทะแต่ละครั้งทําให้ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขณะเดียวกันควันสีดําก็พยายามบุกเข้าไปภายในและทําลายพื้นผิวของมัน
ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายและเพิ่มวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี่เข้าไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ปัญหาอื่นเกิดขึ้นพร้อมกันเมื่อหมื่นภัยพิบัติในมิติช่องว่างของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เกือบทั้งหมดรวมตัวเป็นก้อนเนื้อขนาดมหึมา
ก้อนเนื้อลอยอยู่บนท้องฟ้า มันใหญ่เท่าภูเขา มันยังใหญ่กว่าดวงวิญญาณยักษ์ถึงสิบเท่า
หลุมสีด่าจํานวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของก้อนเนื้อ
จากนั้นพวกมันก็ดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาล
ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรหรือสิ่งมีชีวิต ทุกอย่างถูกดูดเข้าไปขณะที่ก้อนเนื้อย่อยพวกมันอย่างรวดเร็ว
โอ้ ไม่ ข้าไม่เคยเห็นภัยพิบัตินี้มาก่อน ดูเหมือนมันจะสามารถเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นได้เรื่อยๆ!! หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
เขาต้องรับมือการโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณและหมื่นภัยพิบัติในเวลาเดียวกัน
ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันฟางหยวนก็ไม่สามารถรับมือทั้งสองด้านได้พร้อมกัน เขาต้องเลือกด้านใดด้านหนึ่ง
“ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขยังสามารถทนได้อีกนาน แต่หากข้าปล่อยให้หมุนภัยพิบัติเติบโตต่อไปมันจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของข้า!”ฟางหยวนเลือกจัดการหมุนภัยพิบัติ
เขาเพ่งสมาธิไปที่มิติช่องว่างจักรพรรดิ
ราชาอสูรตื่นขึ้นแล้ว เขาลากร่างที่ได้รับบาดเจ็บลุกขึ้นยืนและรอรับค่าสั่งจากฟางหยวน
เซี่ยเอ๋อควบคุมสถานการณ์บนพื้นโดยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะผล็กน้ำแข็งเพื่อต่อต้านแรงดึงดูดของก้อนเนื้อ
ก้อนเนื้อลอยเข้าหาเซี่ยเอ๋ออย่างช้าๆและสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับนาง
ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยพันธนาการสวรรค์ยังทํางานอย่างต่อเนื่องฟางหยวนไม่เคยหยุดการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์แม้แต่วินาทีเดียวแต่ตอนนี้ประสิทธิภาพของมันต่ำมาก
ความคิดมากมายพุ่งปะทะกันอยู่ในใจของฟางหยวน เขาคิดอย่างถี่ถ้วนและรู้สึกว่าเขาต้องใช้ท่าไม้ตายอื่น
โดยไม่มีทางเลือก ฟางหยวนกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางมนุษย์เพื่อขัดขวางเตสวรรค์
ในกระบวนการนี้ฟางหยวนสูญเสียกลุ่มก้อนความคิดไปมากกว่าครึ่ง
หากเหตุการณ์นี้ยังดําเนินต่อไปในไม่ช้าเขาจะไม่สามารถคิดและกลายเป็นคนโง่
ฟางหยวนกัดฟันอดทนเขาเตรียมพร้อมสําหรับสิ่งนี้ไว้แล้ว
เจตจํานงจํานวนมากของฟางหยวนพุ่งเข้าควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะขณะที่เขามีเวลาสะสมความคิดอีกครั้ง
“ต่อไป!” ฟางหยวนตะโกนอยู่ในใจขณะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา
ความคิดในใจของเขาปะทุขึ้นราวกับคลื่นยักษ์ มันเพิ่มขึ้นเกือบเต็มพื้นที่จิตใจของเขาในเสี้ยวพริบตา
สําหรับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา การมีความคิดมากเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ดีพวกเขาต้องเก็บพื้นที่บางส่วนไว้เพื่อป้องกันการปะทะที่ไม่พึงประสงค์และรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
เมื่อเห็นว่าความคิดของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว เขาก็เพ่งความสนใจไปที่ทะเลเมฆบนท้องฟ้ามันเป็นทะเลเมฆอันกว้างใหญ่